เปโดร ซานเชส นายกรัฐมนตรีสเปน ประกาศวานนี้ (22 มีนาคม) ว่า สเปนเตรียมขยายภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 15 วัน เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศยังรุนแรง มีผู้ติดเชื้อสะสมแล้ว 28,768 ราย และเสียชีวิต 1,772 ราย ซึ่งมากเป็นอันดับ 3 ของโลก
ผู้นำสเปนกล่าวว่า รัฐสภาจะพิจารณาอนุมัติคำขอขยายภาวะฉุกเฉินของรัฐบาล หลังบังคับใช้มาแล้ว 1 สัปดาห์ เพื่อสกัดการระบาดของโรค ขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยกระทรวงสาธารณสุขรายงานว่า ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีผู้ป่วยโควิด-19 เสียชีวิตเพิ่มอีก 394 รายทั่วประเทศ
ก่อนหน้านี้ซานเชสกล่าวว่า ยังมีวันที่ยากลำบากรออยู่ข้างหน้า ทุกคนต้องเตรียมพร้อมรับมือทั้งทางร่างกายและจิตใจ สเปนต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากในสัปดาห์หน้าอย่างเข้มแข็ง เพราะมีความเสี่ยงอยู่ทุกที่
“สเปนเป็นหนึ่งในหลายประเทศของยุโรปและของโลกที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด และยังอาจมีกรณีเลวร้ายที่สุดตามมาอีก” ซานเชสกล่าว
สเปนเป็นเหมือนหลายประเทศใหญ่ในยุโรปที่กำลังเดินตามรอยอิตาลี ด้วยจำนวนผู้ป่วยที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะที่ทางการได้ออกมาตรการให้ประชาชนอยู่ในบ้านและเลี่ยงการรวมตัวกันในที่สาธารณะ รวมถึงได้จัดตั้งโรงพยาบาลฉุกเฉินขึ้นทั่วประเทศเพื่อรองรับผู้ป่วย
อย่างไรก็ตาม เฟอร์นันโด ไซมอน ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานด้านการเตือนภัยสาธารณสุขและเหตุฉุกเฉิน มองในแง่ดีว่า สถานการณ์การระบาดในสเปนอาจถึงจุดสูงสุด คงที่ และเริ่มชะลอลง แต่หากรัฐบาลผ่อนความเข้มงวดของมาตรการต่างๆ ลง อาจทำให้สถานการณ์การระบาดกลับมารุนแรงอีกครั้ง ดังนั้นจึงต้องระวังเป็นพิเศษ
เกาะติดสถานการณ์โควิด-19 ได้ที่ thestandard.co/coronavirus-coverage
และอัปเดตทุกความเคลื่อนไหวของโรคโควิด-19 ได้ที่ www.facebook.com/thestandardth
อ้างอิง: