สถานการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่ของเกาหลีใต้ โดยเฉพาะที่เมืองชองจู จังหวัดชุงชองเหนือ ยังคงวิกฤต หลังพายุฝนพัดกระหน่ำอย่างต่อเนื่องตลอดช่วงหลายวันที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เส้นทางการสัญจรบางแห่งถูกตัดขาด
โดยบริเวณอุโมงค์ใต้ดินโอซงในจังหวัดชุงชองเหนือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบเหตุรุนแรงที่สุด ระดับน้ำที่ท่วมสูงขึ้นฉับพลันทำให้ยานพาหนะที่อยู่ภายในอุโมงค์จมใต้น้ำ มีรถโดยสารประจำทางไฟฟ้าคันหนึ่งพังเสียหายเนื่องจากระบบการทำงานขัดข้อง เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากอุโมงค์ดังกล่าวได้แล้ว 9 คน
ทางการจังหวัดชุงชองเหนือระบุว่า มียอดผู้เสียชีวิตจากวิกฤตน้ำท่วมในครั้งนี้แล้วอย่างน้อย 37 คน อีกอย่างน้อย 9 คนยังคงสูญหาย เบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัดว่ายังคงมีผู้ที่ติดอยู่ภายในอุโมงค์โอซงอีกจำนวนเท่าใด ขณะนี้เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังเร่งให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง
ทางด้านสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงโซลยืนยันว่า มีหญิงไทยเสียชีวิต 1 คน เนื่องจากน้ำป่าไหลหลากที่บ้านพักในจังหวัดคยองซังเหนือ เบื้องต้นทางสถานทูตไทย ณ กรุงโซลได้ติดต่อกับสามีชาวไทยที่พำนักอยู่ด้วยกันในเกาหลีใต้ รวมทั้งนายจ้างและตำรวจชาวเกาหลีใต้แล้ว เพื่อเตรียมการเรื่องการจัดการศพ
ทั้งนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้คาดการณ์ว่า อาจมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงกลางสัปดาห์นี้ ซึ่งอาจยิ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมและดินถล่มในหลายพื้นที่รุนแรงยิ่งขึ้น เตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมอพยพ หลังจากที่มีชาวเกาหลีใต้ราว 6,400 คน อพยพออกจากพื้นที่น้ำท่วมแล้วเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้
โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ยังแจ้งเตือนให้คนไทยในเกาหลีใต้ระมัดระวังตัวจากเหตุการณ์ดินถล่ม น้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ให้มากขึ้นในระยะนี้ ทั้งนี้ หากคนไทยประสงค์ขอรับความช่วยเหลือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล สามารถติดต่อมาที่เบอร์ฉุกเฉินของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโซล ที่เบอร์โทรศัพท์ +8210 6747 0095 และ +8210 3099 2955
ทั้งนี้ ปริมาณฝนที่ตกลงอย่างหนักในช่วงตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้เกิดภาวะน้ำท่วมครั้งใหญ่ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ อินเดีย รวมถึงจีนและญี่ปุ่น โดยบรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างชี้ว่า ปัจจัยที่ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมรุนแรงขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศที่ทำให้อากาศร้อนขึ้น อุณหภูมิสูงขึ้น เพิ่มโอกาสที่จะทำให้ฝนตกหนักมากยิ่งขึ้น นับเป็นความท้าทายในการบริหารจัดการวิกฤตของบรรดาประเทศในประชาคมโลกไม่น้อย
ภาพ: STR / Yonhap / AFP
อ้างอิง:
