เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมงที่ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาที่กองคดีการค้ามนุษย์ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เพื่อเข้าให้ข้อมูลกรณีทำธุรกรรมการเงิน 300 ล้านบาท ร่วมกับนายกำพล วิระเทพสุภรณ์ หรือเสี่ยกำพล เจ้าของสถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท ตามที่ดีเอสไอมีหนังสือแจ้ง โดยวันนี้เป็นการให้ข้อมูลในฐานะพยาน และถือเป็นปากแรกในคดีค้ามนุษย์สถานอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท
โดยพลตำรวจเอก สมยศ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าให้ข้อมูลว่า วันนี้ได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ตรวจสอบ แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่ตนเองยินดีและพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการให้ข้อมูล เพราะเชื่อว่าทุกหน่วยงานที่มาตรวจสอบมีความเป็นมืออาชีพและจะให้ความยุติธรรมได้ วันนี้ได้ชี้แจงทั้งหมดแล้ว และไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม ให้เป็นเรื่องในสำนวนคดี ยืนยันว่าที่มาในวันนี้มาให้ข้อมูลในฐานะพยานเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พลตำรวจเอก สมยศ ยื่นเอกสารเพิ่มเติมให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) โดยไม่ปรากฏว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการยืมเงินนายกำพล พลตำรวจเอก สมยศ ไม่ตอบคำถามดังกล่าว และเดินฝ่าผู้สื่อข่าวไปขึ้นรถทันที
ด้าน พันตำรวจโท สุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ ดีเอสไอ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าวันนี้ตนเองทำหน้าที่มารับพลตำรวจเอก สมยศ เข้าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวน แต่ไม่ได้สอบปากคำด้วยตนเอง จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ และขณะนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนจะต้องเรียกพลตำรวจเอก สมยศ มาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่นั้นจะต้องดูความจำเป็นก่อน และหากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องและรับเงินจากนายกำพลก็จะต้องเรียกมาสอบปากคำด้วยเช่นกัน
ด้าน พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยถึงการร่วมรับฟังการเข้าให้ข้อมูลของพลตำรวจเอก สมยศ ในวันนี้ว่า พลตำรวจเอก สมยศ ได้ให้ข้อมูลเป็นอย่างดีและได้ดำเนินการตามขั้นตอน ส่วนเอกสารต่างๆ ที่พลตำรวจเอก สมยศ นำมามอบให้วันนี้อยู่ที่พนักงานสอบสวนในการตรวจสอบ และยังไม่ยืนยันว่าหลังจากนี้จะมีการเรียกเข้ามาอีกหรือไม่
