‘สมโภชน์’ ออกคลิปแจงประเด็นร้อนทุกปม ย้ำชัดกรณีสัดส่วนถือหุ้นลดลงเพราะโอนไปยังโบรกนอก แต่ผู้รับผลประโยชน์ยังเป็นตัวเองจึงไม่ต้องรายงาน พร้อมยืนยันไม่เคยขายหุ้นออกมา ส่วนโครงการโซลาร์นครสวรรค์-ลำปาง โปร่งใสไม่มีนอกใน ยืนยันชี้แจงได้หมด
หลังจากเป็นข่าวร้อนในแวดวงตลาดทุนมาร่วมสัปดาห์ โดยเฉพาะประเด็นสัดส่วนการถือหุ้นของ ‘สมโภชน์ อาหุนัย’ บิ๊กบอสของ EA ที่อยู่ๆ ลดลง แต่ไม่มีรายงานการขายหุ้น
รวมไปถึงประเด็นความซับซ้อนในโครงการโซลาร์นครสวรรค์-ลำปาง ตลอดจนการซื้อขายที่ดินกันเองระหว่าง EA กับเจ้าตัวเพื่อนำไปพัฒนาเป็นนิคมอุตสาหกรรมบลูเทค ซิตี้ จนเกิดคำถามต่างๆ ขึ้นมากมาย และก็ทำให้ราคาหุ้น EA ลดลงไปมากกว่า 10% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาชี้แจงประเด็นต่างๆ เป็นที่เรียบร้อย
สมโภชน์ อาหุนัย ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) ออกมาชี้แจงผ่านคลิปวิดีโอความยาวประมาณ 14 นาที โดยยืนยันว่าที่ผ่านมาไม่เคยขายหุ้น EA ออกมาเลย ส่วนสาเหตุที่ข้อมูลการถือหุ้นซึ่งปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์มีสัดส่วนลดลงนั้น เป็นเพราะได้โอนย้ายหุ้นบางส่วนไปฝากไว้ที่โบรกเกอร์แห่งหนึ่งในต่างประเทศ แต่โดยส่วนตัวยังรับผลประโยชน์จากหุ้นเหล่านี้อยู่ จึงไม่ต้องรายงานการโอนหุ้น
สำหรับประเด็นเรื่องการโอนหุ้นให้ภรรยานั้น ปัจจุบันยังไม่ได้มีการโอน และไม่มีความจำเป็นต้อนโอนเพราะศาลฎีกามีมติยกคำร้อง ดังนั้นกรณีที่มีผู้กังวลว่าอาจจะมีหุ้น EA จำนวนมากออกขายในตลาดจึงไม่ต้องกังวลในเรื่องนี้ เพราะหุ้นทั้งหมดยังอยู่กับตน
“ผมสร้างบริษัทนี้มากับมือ ปั้นมากับมือ EA จึงเหมือนลูกของผม ซึ่งผมอยากให้บริษัทนี้เจริญรุ่งเรือง เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศ เรากำลังทำนวัตกรรมหลายๆ ตัวเพื่อให้เกิดประโยชน์กับคนหมู่มากและประเทศชาติ มากกว่าที่จะขายหุ้นแล้วทำให้เสียชื่อเสียง อยากฝากนักลงทุนใช้วิจารณญาณในการพิจารณา และนำข้อมูลที่ชี้แจงวันนี้มาใช้ตัดสินใจลงทุน”
ส่วนข้อกล่าวหาเรื่องโครงการโรงไฟฟ้าจังหวัดนครสวรรค์และโครงการโรงไฟฟ้าที่จังหวัดลำปาง โครงการเหล่านี้เป็นโครงการรับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาจะออกแบบและจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ให้เสร็จ หลังจากนั้นจึงส่งมอบให้กับบริษัท อีกทั้งโครงการลักษณะนี้ยังเป็นโปรเจกต์ไฟแนนซ์ ซึ่งการจ่ายเงินต่างๆ จะมีสถาบันการเงินคอยดูแลและส่งเงินตรงให้กับคู่สัญญา ดังนั้นบริษัทจึงไม่สามารถไปแตะต้องเงินดังกล่าวได้
สมโภชน์กล่าวย้ำว่า การทำโครงการลักษณะนี้ไม่ได้ทำแค่สองคน แต่ยังมีผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากที่เข้ามาดูแลตลอดทั้งโครงการ และที่สำคัญการจ่ายเงินไม่ได้จ่ายก้อนใหญ่ แต่จ่ายตามเฟส ซึ่งก่อนจ่ายเงินก็จะมีการส่งบุคคลที่สามไปตรวจสอบว่า โครงการคืบหน้าตามเป้าหมายหรือไม่
“การดำเนินการต่างๆ มีความรัดกุม มีผู้เชี่ยวชาญดูแลอยู่ตลอด ที่สำคัญโครงการของ EA มีต้นทุนต่อเมกะวัตต์ต่ำสุดเมื่อเทียบกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ แต่สามารถสร้างรายได้และกำไรต่อเมกะวัตต์สูงที่สุดเมื่อเทียบกับคู่แข่ง”
ส่วนกรณีการลงทุนซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการนิคมอุตสาหกรรมบลูเทค ซิตี้ในราคาสูงนั้น สมโภชน์กล่าวว่า อาจมีคำถามว่าทำไมตนเองจึงเข้าไปซื้อที่ดินดังกล่าวก่อนแล้วจึงขายต่อให้ EA และทำไมถึงไม่ให้ EA เข้าไปซื้อที่ดินผืนดังกล่าวเองเลย ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอย้อนไปเมื่อ 5-6 ปีก่อน เราต้องการลงทุนนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่เหมาะสม แต่ที่ดินในเวลานั้นเป็นที่ดินสีเขียว ไม่สามารถสร้างโรงงานได้ ดังนั้น EA จึงไม่สามารถซื้อที่ดินผืนดังกล่าวเองได้ เพราะมีความเสี่ยงหากที่ดินผืนนั้นไม่สามารถเปลี่ยนเป็นพื้นที่สีม่วง ก็จะไม่สามารถสร้างนิคมอุตสาหกรรมได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากได้หารือกับทางสถาบันการเงิน ซึ่งก็ได้รับการสนับสนุน แต่ที่ดินก็ยังคงอยู่ในเขตสีเขียว จึงไม่สามารถปล่อยกู้ได้ จึงเป็นเงื่อนไขที่ ณ วันนั้นบริษัทไม่สามรถเข้าไปลงทุนได้ ทำให้ต้องมีคนกลางเข้ามารับความเสี่ยงดังกล่าว ตนเองจึงเข้าไปซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวก่อน หากที่ดินผืนดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จที่จะเปลี่ยนมาเป็นสีม่วงก็ต้องรับความเสียหายนั้นไปเต็มๆ โดยที่บริษัทไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเลย กระทั่งต่อมาที่ดินผืนดังกล่าวได้เปลี่ยนมาเป็นสีม่วง จึงเกิดธุรกรรมดังกล่าวขึ้น
“เรื่องนี้อยากให้มอง 2 ด้าน วันที่ผมไปซื้อเหมือนเราไปซื้อทุ่งนา พอผ่านมา 5-6 ปี มันเปลี่ยนเป็นเมือง คนก็มาบอกว่าผมค้ากำไรเกินควร แต่ไม่ได้มองว่าหากที่ดินตรงนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นเป็นเมืองได้ อะไรจะเกิดขึ้นบ้าง ผมยืนยันว่าเราทำด้วยความโปร่งใส ไม่ได้แอบทำ ไม่ได้ปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชน”
