×

‘หมู่อาร์ม’ ทหารผู้เปิดปมทุจริตเบี้ยเลี้ยงในกองทัพ ถูกปลดจากราชการแล้ว เตรียมขึ้นศาลทหาร

โดย THE STANDARD TEAM
19.06.2020
  • LOADING...

ความคืบหน้ากรณีที่ ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือหมู่อาร์ม ทหารชั้นประทวนตำแหน่งเสมียนงบประมาณ ศูนย์ซ่อมสร้างสรรพาวุธ กรมสรรพาวุธทหารบก ที่ออกมาเปิดเผยการทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหาร โดยวันนี้ (19 มิถุนายน) คณะทำงานของกรรมาธิการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร นำ ส.อ. ณรงค์ชัย แถลงข่าวที่อาคารรัฐสภา โดยเปิดเผยว่าขณะนี้ทางกองทัพบกมีคำสั่งปลด ส.อ. ณรงค์ชัย อินทรกวี ออกจากราชการทหารแล้ว เนื่องจากขาดราชการเกิน 15 วัน ทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ ซึ่งเกิดขึ้นระหว่างที่ ส.อ. ณรงค์ชัย ได้ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. เพื่อขอเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยาน และกำลังรอการพิจารณาของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)

 

ด้าน โบว์-ณัฏฐา มหัทธนา โฆษกคณะทำงานของกรรมาธิการกฎหมายฯ กล่าวว่า ในวันนี้ได้มีการเชิญตัวแทนของ ป.ป.ช. มาซักถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่าเหตุใดมีความล่าช้าในการคุ้มครองพยาน จนส่งผลให้ ส.อ. ณรงค์ชัย เสียสิทธิในการปฏิบัติราชการทหาร ทั้งที่สามารถโยกย้ายไปหน่วยอื่นได้ และในวันที่ 22 มิถุนายนนี้ ส.อ. ณรงค์ชัยจะต้องไปรายงานตัวที่ศูนย์ซ่อมสรรพาวุธ และจะถูกฝากขังที่ศาลทหาร เนื่องจากมีความผิดทางวินัยจากการขาดราชการ แต่ทั้งนี้ได้เตรียมพร้อมให้ทนายความยื่นขอประกันตัวต่อศาลทหารด้วย โดยต้องจับตาว่าจะได้รับการประกันตัวหรือไม่ เพราะ ส.อ. ณรงค์ชัย ไม่เคยหลบหนีมาก่อน

 

ขณะที่ พล.ท. พงศกร รอดชมภู หนึ่งในคณะทำงานกล่าวว่า กรณีของหมู่อาร์ม เมื่อพบปัญหาการทุจริตก็ร้องเรียนไปตามลำดับชั้น ถือว่าทำถูกต้องตามระเบียบราชการ ซึ่งผลการสอบพบว่ามีมูล จึงมั่นใจว่าเรื่องของการทุจริตเกิดขึ้นจริง

 

ส่วนเรื่องการขาดราชการนั้น จะต้องเป็นกรณีหนีราชการโดยมีเหตุอันไม่ควร แต่กรณีนี้มีคลิปข่มขู่ ทำให้รู้สึกว่าอยู่ในกองทัพแล้วไม่ปลอดภัย จึงมีเหตุอันควรต้องหยุดราชการไว้ก่อน โดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่กลับถูกปลดออกจากราชการ ทั้งที่เรื่องร้องเรียนมีมูลการทุจริตจริง ดังนั้นกองทัพบกสามารถที่จะทบทวนการปลดออกราชการใหม่ได้ และต้องมีการคุ้มครองพยานด้วย

 

สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2562 ส.อ. ณรงค์ชัย ได้ยื่นเรื่องการทุจริตดังกล่าวต่อผู้ตรวจการแผ่นดินให้มีการสอบสวน แต่แล้วก็ยังไม่ได้มีความคืบหน้าใดๆ 

 

กระทั่งในเวลาต่อมา ช่วงเวลาหลังจากยื่นเรื่องไม่กี่วันก็เริ่มมีข้อพิพาทกับผู้บังคับบัญชา ส.อ. ณรงค์ชัย ให้ข้อมูลว่าตนเองถูกกลั่นแกล้งทั้งการเลื่อนตำแหน่ง การจำหน่ายขาด และถูกสั่งขังในโทษฐานโต้เถียงกับผู้บังคับบัญชา จำได้นำเรื่องดังกล่าวร้องเรียนโดยตรงต่อผู้บัญชาการทหารบก และให้ระงับการสั่งขังตนเอง แต่หลังจากนั้นก็มีการให้ ส.อ. ณรงค์ชัย นำธูปเทียนขอขมาต่อผู้บังคับบัญชา

 

จากนั้นวันที่ 17 มีนาคม 2563 ส.อ. ณรงค์ชัย ยื่นเรื่องการทุจริตดังกล่าวอีกครั้งต่อ ป.ป.ช. พร้อมขอคุ้มครองพยานด้วย แต่เมื่อเรื่องการคุ้มครองพยานไม่มีความคืบหน้า ส.อ. ณรงค์ชัย จึงได้กลับไปที่ ป.ป.ช. อีกครั้ง ในวันที่ 9 มิถุนายน พร้อมยื่น 7,000 รายชื่อที่ร่วมกันลงชื่อผ่านเว็บไซต์ Change.org เพื่อทวงถามการคุ้มครองพยานจาก ป.ป.ช. แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ มีเพียงแต่การติดต่อมาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม

 

“ผมรู้สึกผิดหวังครับ เพราะถ้าผมไม่เป็นข่าว พี่น้องสื่อมวลชนไม่ได้สร้างประเด็นนี้ขึ้นมา ถ้าเกิดเป็นประชาชนธรรมดา คนบ้านๆ ไม่มีเงิน ไม่มีแรงสนับสนุน แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเขา” ส.อ. ณรงค์ชัย กล่าวขณะยื่นทวงถามการคุ้มครองพยานต่อ ป.ป.ช.

 

ก่อนหน้านี้ 4 มิถุนายน พ.อ. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงว่ากองทัพบกดำเนินการตรวจสอบเรื่องการทุจริตในศูนย์ซ่อมสร้างฯ โดยตั้งคณะกรรมการเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริง ผลการสอบสวนพบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นจริง พล.อ. อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก จึงมีคำสั่งให้ดำเนินการต่อไป โดยส่งเรื่องต่อไปให้ ป.ป.ช. พิจารณา ซึ่งหาก ป.ป.ช. รับเรื่องไว้ไต่สวนและคดีมีมูล ในส่วนการวินิจฉัยจะมีผลทั้งทางคดีอาญาและทางวินัยต่อข้าราชการที่กระทำผิดต่อไป ทั้งนี้ยืนยันกองทัพบกไม่มีการปกป้องผู้ที่กระทำผิดต่อหน่วยงาน เพราะกองทัพบกก็ได้รับความเสียหายจากการทุจริตเช่นกัน

.

ล่าสุด กองทัพบกได้มีคำสั่งปลด ส.อ. ณรงค์ชัย ออกจากราชการทหารแล้ว หลังขาดจากราชการเกิน 15 วัน โดย ส.อ. ณรงค์ชัย เริ่มขาดราชการทหารเมื่อวันที่ 18 มีนาคม หลังจากที่เขายื่นเรื่องการทุจริตและขอคุ้มครองพยานจาก ป.ป.ช. เพียง 1 วัน และหลังจากนี้จะต้องไปรายงานตัวที่สำนักงานนายทหารพระธรรมนูญในวันที่ 22 มิถุนายน เพื่อนำตัวขึ้นศาลทหารเนื่องจากมีความผิดกรณีหนีราชการทหาร ซึ่งขณะนี้ได้มีการระดมทุนเพื่อเป็นเงินประกันตัว ส.อ. ณรงค์ชัย และมีทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising