วันนี้ (10 สิงหาคม) นพ.ระวี มาศฉมาดล สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ และ ส.ส. พรรคเล็ก ร่วมแถลงข่าวภายหลังที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภาล่มในการพิจารณากฎหมายลูก โดยระบุว่า ต้องขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลในส่วนที่เข้าร่วมการประชุม และต้องขอชมเชยพรรคเพื่อไทยที่สามารถเล่นเกมเตะถ่วงได้สุดยอด โดยสงครามยังไม่จบยังไม่นับศพทหาร ที่ผ่านมายกที่ 1 ฝ่ายหาร 100 ชนะ ยกที่ 2 หาร 500 ชนะ และยกที่ 3 วันนี้ ฝ่ายหาร 500 กลับมาแพ้ แต่ยังมียกที่ 4, 5, 6 โดยคาดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าสูตรหาร 500 จะถูกนำมาใช้อย่างแน่นอน
ขณะที่ ปรีดา บุญเพลิง ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน กล่าวว่า สูตรหาร 500 นั้นต้องการให้ทุกสาขาอาชีพมีโอกาสที่จะเข้ามาพูดคุยปัญหาของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ ชาวนา หรือชาวสวน และกลุ่มสาขาอาชีพต่างๆ ซึ่งหากใช้สูตรหาร 500 ทุกอาชีพจะสามารถสะท้อนปัญหาของตนเองในสภาผู้แทนราษฎรให้รัฐบาลนำไปแก้ไข ซึ่งวันนี้ปรากฏชัดแล้วว่าการเล่นเกมในสภาไม่ควรจะเกิดขึ้น ควรดำเนินการไปตามครรลองของการประชุมรัฐสภา การใช้วิธีให้สภาล่มไม่ควรที่จะเกิดขึ้น หากไม่เห็นด้วยก็ให้ลงคะแนนตามมติไป
ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ (11 สิงหาคม) พรรคเล็กจะยื่นหนังสือถึง ชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อขอเปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันเสาร์ที่ 13 และวันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคมนี้ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้แล้วเสร็จก่อน 180 วัน คือวันที่ 15 สิงหาคม
ด้าน คฑาเทพ เตชะเดชเรืองกุล ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อชาติไทย ได้กล่าวว่า วันนี้ได้เห็นถึงความอัปยศของสภา และต้องขอบคุณพรรคใหญ่และพรรครัฐบาลว่า สิ่งที่ทำในวันนี้จะทำให้โอกาสที่จะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีไม่มี เพราะไม่มีความสง่างาม
“ขอฝากไปถึงบิ๊กใหญ่ๆ อย่าคิดว่าท่านจะได้เป็นนายกฯ ตอนนี้เพิ่งยก 3 ตอนยก 1 ท่านชนะ ยก 2 หาร 500 ชนะ ยก 3 ท่านชนะ ยังมียก 4 และยก 5 เชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งถัดไปอย่างไรก็หาร 500 อย่าเพิ่งเปิดแชมเปญฉลอง เพราะมันยังเหลืออีก 2 ยก” คฑาเทพกล่าว
ทั้งนี้ นพ.ระวีได้กล่าวทิ้งท้ายถึงการยื่นหนังสือถึงชวนเพื่อขอให้เปิดประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันเสาร์และวันอาทิตย์นี้ว่า เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาที่จะตัดสินใจ จะมาอ้างว่าไม่สามารถนัดประชุมได้เนื่องจากเกรงว่าประชุมจะล่มนั้น ต้องย้อนถามว่าท่านจะทราบได้อย่างไรว่าประชุมจะล่ม ดังนั้นจึงขอให้ทำตามหน้าที่ก่อน หากประธานรัฐสภาไม่เปิดประชุมก็ต้องตอบคำถามกับสังคมเอง ซึ่งหากเปิดประชุมและจะล่มก็ให้รู้กันไป
