×

5 ความท้าทายของ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ในการพา ‘Glory Glory Man United’ กลับมา

25.12.2023
  • LOADING...
Sir Jim Ratcliffe

HIGHLIGHTS

5 MIN READ
  • อย่างแรกที่ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ต้องถามตัวเองคือเขายังมองเห็น เอริก เทน ฮาก เป็นคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนายใหญ่แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดหรือไม่
  • ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล หรือแม้แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างมีคนทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรที่มีวิสัยทัศน์และสามารถชี้ทางให้ทีมก้าวเดินไปได้ แต่แชมป์ลีก 20 สมัยของอังกฤษกลับไม่มีคนที่เก่งพอสำหรับตำแหน่งนี้
  • แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสโมสรอังกฤษที่มีสนามยิ่งใหญ่ที่สุดและนำหน้าชาวบ้านมาตลอด แต่ปัจจุบัน ‘โรงละครแห่งความฝัน’ (Theatre of Dream) กลายสภาพเป็นโรงละครที่ผุพัง หลังคาสนามรั่ว ฝนสาดกระเซ็นตกลงมาใส่หัวแฟนบอลที่จ่ายค่าตั๋วราคาแพงเพื่อเข้าชม

13 เดือนนับจากที่ครอบครัวเกลเซอร์ประกาศว่าต้องการที่จะขายหุ้นสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ยึดครองมาตั้งแต่การเทกโอเวอร์เมื่อปี 2005 ในที่สุดวันนี้ทีม ‘ปีศาจแดง’ ก็ได้เจ้าของ (ร่วม) คนใหม่แล้วอย่าง เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ มหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดของอังกฤษ ผู้คว้าหุ้น 25 เปอร์เซ็นต์ในราคา 1.25 พันล้านปอนด์ เป็นของขวัญในวันคริสต์มาสพอดี

 

การเข้าซื้อหุ้นของเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ INEOS ใช้เวลาและความอดทนอย่างมาก เพราะผ่านกระบวนการที่สลับซับซ้อนมากมาย โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องที่แมนฯ ยูไนเต็ด มีการจดทะเบียนไว้ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งต้องมีการวางแผนอย่างละเอียดเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับกลุ่มผู้ถือหุ้นรายย่อยของสโมสร

 

แต่เมื่อการซื้อขายหุ้นสำเร็จแล้ว นับจากนี้เป็นต้นไปหน้าที่ในการบริหารกิจการสโมสรจะผ่องถ่ายจากครอบครัวเกลเซอร์มาอยู่ในมือของแรตคลิฟฟ์และทีมงาน ซึ่งมีประสบการณ์ในการบริหารทีมกีฬาหลากหลาย รวมถึงทีมฟุตบอลสโมสรนีซในลีกเอิงฝรั่งเศส

 

แน่นอนว่ามีหลายอย่างที่ต้องได้รับการจัดการภายในโอลด์แทรฟฟอร์ด และนี่คือความท้าทายบางส่วนที่รออยู่

 

 

ผู้จัดการทีม

 

อย่างแรกที่ เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ต้องถามตัวเองคือเขายังมองเห็น เอริก เทน ฮาก เป็นคนที่เหมาะสมสำหรับตำแหน่งนายใหญ่แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ดหรือไม่

 

ความพ่ายแพ้ในเกมนัดล่าสุดอย่างหมดรูปต่อเวสต์แฮมที่ลอนดอนสเตเดียม ทำให้ในฤดูกาลนี้แมนฯ ยูไนเต็ดแพ้ไปแล้วถึง 13 นัดด้วยกัน (ทุกรายการ) เป็นผลงานที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ปี 1930 หรือเป็นระยะเวลาเกือบ 100 ปี โดยที่ทีมซึ่งมีนักเตะแนวรุกค่าตัวแพงอย่าง แอนโทนี, ราสมุส ฮอยลุนด์ ไปจนถึงฮีโร่ของชาวเมืองอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด ทำประตูไม่ได้มา 4 นัดติดต่อกัน เป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1992/93 หรือร่วม 30 ปี

 

ผลงานนั้นชัดเจนว่าเลวร้ายอย่างยิ่ง ไม่นับเรื่องของสไตล์การทำทีมที่ปัจจุบันสไตล์ก็คือไม่มีสไตล์ ทั้งยังไม่สามารถรวมใจของผู้เล่นในทีมได้ มีปัญหากับผู้เล่นบางราย (จาดอน ซานโช และ ราฟาเอล วาราน)

 

จริงอยู่ที่มีความพยายามเปิดโปงปัญหาภายในสโมสรว่า ‘เน่าใน’ ขนาดไหน แต่ทั้งหมดนี้คนที่รับผิดชอบหลักคือเทน ฮาก ผู้ที่มาอย่างห้าวเมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่เหมือนตอนนี้จะห้าวไม่ค่อยออก

 

มีรายงานว่าแรตคลิฟฟ์ ซึ่งเป็นแฟนบอลปีศาจแดงมีตัวเลือกในใจแล้วคือ เกรแฮม พอตเตอร์ ที่เขาเชื่อว่าจะเป็นคนที่พาสโมสรกลับมาได้ ซึ่งถ้าเป็นความจริงนี่คือโจทย์หินอันแรกที่ต้องรีบตัดสินใจ

 

จะเปลี่ยนเลยหรือจะให้โอกาสแก้ตัว?

 

 

หาคนที่เป็นงานมาทำงาน

 

สำหรับการดำเนินกิจการสโมสรฟุตบอลสมัยใหม่นั้น ยุคนี้ไม่สามารถเลือกใครมาทำงานก็ได้แบบสมัยก่อนแล้ว เพราะฟุตบอลเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก การให้อดีตนักฟุตบอลระดับตำนานที่ว่างงานอยู่มานั่งแท่นผู้อำนวยการสโมสรเพื่อเป็น ‘ตัวเชื่อม’ เป็นไอเดียที่ล้าสมัยอย่างมาก

 

และจุดนี้เป็นสิ่งที่แมนฯ ยูไนเต็ดตามหลังคู่แข่งร่วมสิบปี ในขณะที่ลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล หรือแม้แต่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างมีคนทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรที่มีวิสัยทัศน์และสามารถชี้ทางให้ทีมก้าวเดินไปได้ แต่แชมป์ลีก 20 สมัยของอังกฤษกลับไม่มีคนที่เก่งพอสำหรับตำแหน่งนี้

 

คนที่รับตำแหน่งปัจจุบันคือ จอห์น เมอร์โท ซึ่งเป็นคนเก่าคนแก่ของสโมสรที่อยู่มานาน แต่ผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าสอบไม่ผ่าน ยิ่งเจอแฉซ้ำอีกว่าไม่มีวิสัยทัศน์และไร้ความสามารถในการบริหารจัดการ ซึ่งนำไปสู่การดิ่งเหวของแมนฯ ยูไนเต็ด

 

ดังนั้นนอกจากการตัดสินใจเกี่ยวกับผู้จัดการทีมแล้ว แรตคลิฟฟ์ต้องหาคนที่ทำงานเป็นมาทำงานในจุดนี้ด้วย ซึ่งตรงนี้ชัดเจนว่ามีแน่นอน เพราะเมอร์โทคาดว่าจะลาออกตาม ริชาร์ด อาร์โนลด์ ซีอีโอสโมสรที่ก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเหมือนกัน

 

เป้าหมายคือได้คนมีวิสัยทัศน์ ทำงานเป็น มีคอนเน็กชันที่แข็งแกร่ง เพื่อจะแก้ไขปัญหาเรื่องของระบบการสรรหาผู้เล่น (Recruitment) ที่เลวร้ายอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ที่เต็มไปด้วยการซื้อเกินราคาที่จำเป็น ซื้อแบบ Panic จนกลายเป็นเรื่องขำขันของแฟนบอลทีมอื่น

 

ส่วนจะเป็นใคร? มีชื่อคนในวงการที่น่าสนใจอย่าง พอล มิตเชลล์ ไปจนถึง ไมเคิล เอ็ดเวิร์ดส์ อดีตผู้อำนวยการสโมสรคนดังที่พาลิเวอร์พูลเป็นแชมป์พรีเมียร์ลีก และ แดน แอชเวิร์ธ ผู้อำนวยการนิวคาสเซิลที่สร้างชื่อกับไบรท์ตันอยู่ในกระแสข่าว

 

โดยคนที่จะเป็นผู้ดูแลภาพรวมใหญ่ ซึ่งรวมถึงการรื้อระบบโครงสร้างของสโมสรคือ เซอร์เดฟ เบรลส์ฟอร์ด มือขวาผู้เป็น ‘มันสมอง’ ของแรตคลิฟฟ์ในงานด้านการกีฬา

 

 

หมวกคัดสรร ใครควรอยู่บ้านปีศาจแดง

 

ต่อเนื่องกันคือการที่ทีมงานของแรตคลิฟฟ์จะต้องคัดสรรว่านักเตะภายในทีมคนใดบ้างที่คู่ควรจะได้อยู่ในทีมแมนฯ​ ยูไนเต็ดต่อไป

 

เรื่องนี้มองกันแค่ความรู้สึกเรื่องของใจอย่างเดียวไม่ได้ (แต่แน่ละเรื่องใจก็สำคัญ ใครไม่มีใจก็ควรจะไป) เพราะปัญหาใหญ่ที่รอแมนฯ ยูไนเต็ดอยู่คือเรื่องของการเงิน

 

ตามข้อมูลจาก FBref แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นทีมที่จ่ายค่าเหนื่อยแพงที่สุดในพรีเมียร์ลีก และยังเป็นทีมเดียวที่จ่ายเงินค่าจ้างสตาฟฟ์ปีละเกินกว่า 200 ล้านปอนด์ ซึ่งแม้ทีมจะมีสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง แต่เรื่องของกฎการเงินก็ส่งผลต่อการทำทีมไม่น้อยในช่วงตลาดการซื้อขายรอบที่ผ่านมา ที่ทำให้ไม่สามารถขยับหานักเตะที่ต้องการได้โดยสะดวก

 

ดังนั้นจะต้องมีการประเมินกันว่าใครที่มีอนาคตอยู่กับทีม และใครที่ควรจะผ่องถ่ายขายออกไปเพื่อลดภาระทางบัญชี

 

รวมถึงใครที่เป็นคนที่ทำลายบรรยากาศภายในทีม นักเตะแบบนี้ก็ไม่ควรเอาไว้เหมือนกัน

 

           

ฟื้นฟูโรงละครแห่งความฝัน

 

แมนฯ ยูไนเต็ดเป็นสโมสรอังกฤษที่มีสนามยิ่งใหญ่ที่สุดและนำหน้าชาวบ้านมาตลอด แต่ปัจจุบัน ‘โรงละครแห่งความฝัน’ (Theatre of Dream) กลายสภาพเป็นโรงละครที่ผุพัง หลังคาสนามรั่ว ฝนสาดกระเซ็นตกลงมาใส่หัวแฟนบอลที่จ่ายค่าตั๋วราคาแพงเพื่อเข้าชม

 

หลังคาผุของโอลด์แทรฟฟอร์ดเป็นแค่หนึ่งในตัวอย่างของสิ่งที่แรตคลิฟฟ์และทีมงานจำเป็นต้องฟื้นฟูสโมสรกลับมา เพราะยังมีอีกหลายเรื่องต้องจัดการ​ เช่น ส้วมตันและอาหารที่ขายไม่ถูกสุขลักษณะ

 

นอกจากนี้สนามซ้อมแคร์ริงตันเองก็ต้องปรับปรุงครั้งใหญ่เช่นกัน ซึ่งหากจำกันได้ คริสเตียโน โรนัลโด เคยช็อกมาแล้วเมื่อกลับมาสนามซ้อมที่เก่าของเขาอีกครั้งและพบว่าอุปกรณ์แทบทุกอย่างเหมือนเดิมจากในวันที่เขาย้ายออกไปเรอัล มาดริดในปี 2009

 

มันอาจเป็นเรื่องที่ดูไม่เร่งด่วน แต่มีความสำคัญอย่างมาก เพราะสนามซ้อมและสนามแข่งคือเวทีสำหรับนักเตะที่เป็นเหมือนนักแสดง


เวทีเก่าผุพัง ห้องซ้อมเน่าเหม็น นักแสดงที่ไหนจะมีกำลังใจอยากขึ้นแสดง?

 

ข่าวดีคือแรตคลิฟฟ์เตรียมงบไว้เบื้องต้น 230 ล้านปอนด์สำหรับเรื่องนี้ และมีแผนที่จะปรับปรุงความจุสนามเป็น 90,000 ที่นั่งในอนาคตด้วย

 

 

หาพวก!

 

ในบรรดาความท้าทายทั้งหมดนั้นมีแค่เรื่องนี้ที่ไม่ต้องวุ่นวายกับเรื่องเงินๆ ทองๆ

 

สิ่งนั้นคือการพยายามดึงแฟนบอลกลับมาเป็นพวกให้ได้! ซึ่งเรื่องนี้สำคัญอย่างมาก ตัวอย่างดีๆ ที่มีให้เห็นคือลิเวอร์พูลที่ เจอร์เกน คล็อปป์ พยายามเชื่อมความรู้สึกกับแฟนบอลตั้งแต่ช่วงแรกที่เข้ามาคุมทีมในปี 2017 เช่นเดียวกับอาร์เซนอลที่พยายามดึงแฟนบอลมาเป็นพวกให้ มิเกล อาร์เตตา สามารถทำงานได้อย่างสะดวก

 

เพราะการที่สโมสรและแฟนบอลเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ จะเป็นพลังงานแปรผันที่รับและส่งระหว่างกัน ซึ่งจะช่วยเปลี่ยนแปลงบรรยากาศความหม่นหมองทุกอย่างให้กลับมาเป็นทางที่ดีได้

 

ในช่วง 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ดก็ได้ประโยชน์จากเสียงคำรามของโอลด์แทรฟฟอร์ดในหลายนัด (ซึ่งรวมถึงเกมสำคัญที่เอาชนะลิเวอร์พูลได้ในต้นฤดูกาลที่แล้ว) เรื่องนี้เป็นกรณีตัวอย่างที่ดีว่าหากแฟนบอลรวมพลังและส่งหาทีม มันคือการ ‘ตีบวก’ ที่ยิ่งใหญ่

 

เพียงแต่จะทำเช่นนั้นต้องทำให้แฟนบอลกลับมาเชื่อใจให้ได้อีกครั้งว่านักธุรกิจอย่างเขาที่ยอมเป็นส่วนหนึ่งกับครอบครัวเกลเซอร์นั้น ‘มาดี’ ไม่ได้มาร้าย และมีความตั้งใจที่จะนำแมนฯ ยูไนเต็ดกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้งจริงๆ

 

ของแบบนี้พูดอย่างเดียวไม่พอ ต้องพิสูจน์ด้วยการกระทำ

 

ไม่ง่ายสำหรับแรตคลิฟฟ์ แต่ถ้าอยากได้ยิน ‘Glory Glory Man United’ อีกครั้ง นี่คือสิ่งที่เขาต้องพยายามทำให้ได้เช่นกัน

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising