Sinic Holdings Group กลายเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายล่าสุดของจีนที่มีความเสี่ยงจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ หลังบริษัทได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงว่าอาจไม่สามารถชำระหนี้พันธบัตรมูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ที่จะครบกำหนดในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ได้
ปัจจุบัน Sinic มีหนี้พันธบัตรสกุลดอลลาร์รวม 694 ดอลลาร์ ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าหากบริษัทผิดนัดชำระในวันที่ 18 ตุลาคมนี้ โอกาสที่จะผิดนัดชำระพันธบัตรอีก 2 ฉบับที่เหลือจะมีสูง ทั้งนี้ ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา Sinic ได้ผิดนัดชำระพันธบัตรในประเทศไปแล้ว ซึ่งส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทร่วงลงถึง 87
ปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Sinic เป็นอีกหนึ่งสัญญาณที่สะท้อนความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีน ต่อเนื่องจากปัญหาที่เกิดขึ้นกับ China Evergrande และ Fantasia Holdings Group ที่ผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรไปแล้วก่อนหน้านี้
ต้นทุนการกู้ยืมสำหรับ Junk Bond ของจีนซึ่งส่วนใหญ่ถูกออกโดยบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 10 ปีไปแตะระดับ 17.5% ซึ่งสะท้อนถึงความเสี่ยงที่บริษัทอสังหาริมทรัพย์จีนจะเข้าถึงสภาพคล่องได้ยากขึ้น และอาจเกิดการผิดนัดชำระต่อเนื่องเป็นลูกโซ่หากทางการไม่เข้ามาแทรกแซง
โดยนอกจาก 3 บริษัทที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ยังมีบริษัทอสังหาริมทรัพย์อื่นของจีนที่กำลังหาทางเอาตัวรอดจากการผิดนัดชำระหนี้อีก เช่น Modern Land (China) ในปักกิ่ง ที่ร้องขอยืดการชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบกำหนดในวันที่ 25 ตุลาคมนี้จากเจ้าหนี้ออกไปอีก 3 เดือน ขณะที่ Xinyuan Real Estate ก็กำลังดิ้นรนหาทางชำระหนี้ที่จะครบกำหนดในวันศุกร์นี้เช่นกัน
Bloomberg รายงานว่า ปัจจุบัน Modern Land (China) และ Xinyuan Real Estate มีหนี้พันธบัตรสกุลดอลลาร์อยู่ที่ 1.35 พันล้านดอลลาร์ และ 760 ล้านดอลลาร์ตามลำดับ
ข้อมูลจาก Bloomberg ยังระบุอีกว่า 36% ของพันธบัตรสกุลเงินท้องถิ่นจีนที่มีการผิดนัดชำระทั้งหมดในปีนี้ 1.75 แสนล้านหยวน ถูกออกโดยบริษัทในภาคอสังหาริมทรัพย์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
อ้างอิง: