เมื่อวานนี้ (6 มิ.ย.) ทาง สิงห์ เอสเตท ได้เปิดตัวโครงการ ‘#SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ’ เพื่อหวังปลูกจิตสำนึกประชาชนในการรักษา หวงแหน และสร้างสมดุลให้ธรรมชาติ ด้าน ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ เผยข้อมูลช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ทะเลไทยเริ่มฟื้นฟูอย่างต่อเนื่องหลายประการ หลังยึด ‘แนวคิดพีพี โมเดล’ เป็นต้นแบบของแผนปฏิรูปทรัพยากรทางธรรมชาติ
ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง ภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจภายในการเปิดตัว โครงการ #SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ ว่า หากได้ย้อนเวลากลับไปไม่นานมานี้ จะพบว่าบริเวณเกาะพีพีมีจำนวนปะการังที่น้อยลงมาก รวมถึงสภาพทะเลที่เริ่มเสื่อมโทรมลงทุกวัน จนต้องมีประกาศสั่งปิดพื้นที่ดังกล่าวจาก กรมอุทยานฯ เพื่อให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัว
และจากเหตุการณ์การปิดเกาะเพื่อฟื้นฟูธรรมชาตินี้เอง ได้ก่อให้เกิดเป็นแนวคิดพีพี โมเดล ซึ่งนับว่าเป็นต้นแบบของแผนปะการังแห่งชาติ ภายใต้แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ดำเนินมาเป็นเวลานาน ซึ่งมีพัฒนาการด้านบวกที่เป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องเรื่อยๆ
รวมถึงล่าสุด ปัญหาปะการังฟอกขาวได้กลับมาอีก และเป็นประเด็นที่สังคมวงกว้างควรตระหนักและร่วมกันแก้ปัญหา เพราะปะการังเป็นส่วนสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ไม่ว่าจะเป็นแหล่งอาหารหรือที่หลบภัยของสัตว์น้ำต่างๆ และเป็นตัวแปรสำคัญในการสร้างความสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล นำมาซึ่งแหล่งอาหารของมนุษย์ ปัญหานี้จึงเป็นปัญหาที่ใกล้ตัวพวกเราอย่างมาก
“ช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้มีโอกาสทำงานร่วมกับสิงห์ เอสเตท เกิดโครงการขึ้นหลายโครงการ และส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีอย่างเห็นได้ชัด ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และชุมชน เป็นผลดีกับทุกฝ่าย ส่วนตัวมองว่าสังคมยังคงต้องการผู้กล้า หน่วยงานที่พร้อมร่วมมือกับภาครัฐอย่างจริงจังอีกมาก เพื่อให้เกิดการพัฒนาและดูแลทรัพยากรธรรมชาติกันอย่างยั่งยืน” ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ กล่าวทิ้งท้าย
ด้าน ดร.ทรงธรรม สุขสว่าง ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า โครงการฟื้นฟูธรรมชาติต่างๆ จะเกิดขึ้นไม่ได้หากไม่ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานจากภาคต่างๆ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งนิมิตหมายที่ดี และเป็นตัวอย่างที่ดีในการร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนที่จะช่วยกันดูแลธรรมชาติต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าในอนาคตทุกภาคส่วนจะตระหนักถึงปัญหาและร่วมกันแก้ปัญหาอย่างจริงจังและเห็นผลได้มากขึ้น”
ขณะเดียวกัน นริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เผยว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่ตลอดเวลา รวมถึงยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการ ‘พีพี โมเดล’ ซึ่งเป็นแนวทางที่ใช้จัดการอุทยานฯ โดยอิงตามหลัก IUCN ด้วยการใช้หลักธรรมชาติเพื่อแก้ไขปัญหาเน้นการคืนสมดุลธรรมชาติ ซึ่งเริ่มตั้งแต่การบริจาคเรือตรวจการ บริจาคทุ่นลอยเพื่อใช้จอดเรือ รวมไปถึงการสนับสนุนกิ่งปะการังที่ฟื้นฟูด้วยแปลงอนุบาลลอยน้ำให้กับทางอุทยานฯ
ก่อนจะจัดแคมเปญล่าสุดอย่างแคมเปญ #SeaYouTomorrow ทะเลวันพรุ่งนี้อยู่ในมือคุณ เพื่อรณรงค์ให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมประชาชนตามท้องถิ่น หรือนักท่องเที่ยวได้ลดปริมาณขยะพลาสติก และป้องกันการเกิดขยะบนท้องทะเลที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้มากที่สุด
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า