×

เปิด ‘มาตรฐานใหม่’ หอพักแรงงานข้ามชาติในสิงคโปร์ ภายใต้เป้าหมาย ‘ปรับปรุงความเป็นอยู่-ลดความเสี่ยงการแพร่โรคติดเชื้อ’

18.09.2021
  • LOADING...
หอพักแรงงานข้ามชาติ

เมื่อวานนี้ (17 กันยายน) สิงคโปร์ประกาศมาตรฐานใหม่สำหรับหอพักของแรงงานข้ามชาติ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อและปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ หลังจากมีการระบาดของโควิดในหอพักเหล่านี้เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งจะมีผลสำหรับหอพักที่สร้างใหม่ทั้งหมด และมีการนำร่องทดสอบไปบ้างแล้วในหอพักประเภทที่สร้างได้อย่างรวดเร็ว (Quick Build Dormitories: QBDs) พร้อมระบุว่า รัฐบาลได้ดำเนินการทบทวนมาตรฐานหอพักที่มีอยู่อย่างครอบคลุมโดยปรึกษาหารือกับผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและโรคติดเชื้อ โดยอ้างอิงจากมาตรฐานท้องถิ่นและระดับสากล และการทบทวนนี้ยังมีการพิจารณาข้อเสนอแนะของผู้มีส่วนได้เสีย เช่น นายจ้าง ผู้ประกอบการหอพัก แรงงานข้ามชาติ องค์กรพัฒนาเอกชน และสถาปนิก

 

และนี่คือสาระสำคัญส่วนหนึ่งในมาตรฐานใหม่ ซึ่งพัฒนาขึ้นโดย 3 กระทรวง และแถลงโดยกระทรวงแรงงานสิงคโปร์

 

  • กำหนดจำนวนผู้พักอาศัยต่อห้องไม่เกิน 12 คน และกำหนดให้เว้นระยะห่างระหว่างเตียงอย่างน้อย 1 เมตร โดยอนุญาตให้ใช้เตียงแบบสองชั้น ซึ่งเป็นการปรับปรุงจากที่ปัจจุบันไม่มีข้อกำหนดว่าจะมีผู้พักอาศัยได้มากที่สุดกี่คนต่อห้อง (แต่ในทางปฏิบัติมักมีผู้อาศัย 12-16 คน) และไม่มีข้อกำหนดการเว้นระยะระหว่างเตียง
  • ลดการปะปนกันระหว่างผู้อยู่อาศัยในหอพัก โดยยังคงจำกัดจำนวนผู้อยู่อาศัยต่อชั้นไม่เกิน 240 คนเช่นเดิม แต่เพิ่มข้อกำหนดให้สามารถรองรับการแยกเป็นส่วนย่อยที่มีผู้อาศัยได้ 120 คน และมีการออกแบบที่อนุญาตให้แบ่งส่วนสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลาง (เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำอาหาร การรับประทานอาหาร และการซักรีด) ให้ถูกใช้โดยผู้อาศัยไม่เกิน 120 คนต่อส่วน, กำหนดให้ใช้ห้องสุขาแบบในตัวและให้มีห้องสุขา ห้องอาบน้ำและอ่างซิงก์อย่างน้อย 1 ชุดต่อผู้พักอาศัย 6 คน, กำหนดจำนวนเต้ารับไฟฟ้าขั้นต่ำ 1 เต้ารับต่อผู้พักอาศัย 1 คนต่อพื้นที่นอนหลับ เป็นต้น
  • การปรับปรุงการระบายอากาศในห้องของหอพักและห้องสุขาเพื่อลดการสะสมตัวของไวรัสในพื้นที่ปิด อาทิ ต้องมีพัดลมดูดอากาศอย่างน้อยหนึ่งตัวต่อห้องสุขา และจำนวนพัดลมที่เพียงพอในห้องพักรวมเพื่อให้แน่ใจว่ามีการไหลเวียนของอากาศเพียงพอ นอกจากนี้ยังระบุว่าหากมีเครื่องปรับอากาศในห้องจะมีข้อกำหนดเพิ่มเติมอีก เช่น การติดตั้งตัวกรองอย่างน้อยในระดับมาตรฐาน MERV14 เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อในพื้นที่ปิด
  • มีการอำนวยความสะดวกในการตรวจหาผู้อยู่อาศัยที่ไม่สบายแต่เนิ่นๆ และการแยกตัวอย่างรวดเร็วของผู้อาศัยเหล่านี้ เช่น เพิ่มจำนวนเตียงที่ใช้ในการกักตัวในยามปกติ จาก 1 เป็น 10 เตียงต่อ 1,000 พื้นที่เตียง (แต่จำนวนเตียงในการกักตัวที่สามารถจัดขึ้นเพิ่มเติมในสถานการณ์โรคระบาดลดลงเล็กน้อย จาก 19 เป็น 15 เตียงต่อ 1,000 พื้นที่เตียง) รวมถึงมีข้อกำหนดเพื่ออำนวยความสะดวกในการเฝ้าระวังน้ำเสียด้วย
  • อนึ่ง มาตรฐานนี้ยังจะช่วยปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัยในหอพัก อาทิ ผู้อยู่อาศัยจะมีห้องพักที่กว้างขวางมากขึ้น คือมีพื้นที่อยู่อาศัย (ที่ไม่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ร่วมกัน) อย่างน้อย 4.2 ตารางเมตรต่อผู้อยู่อาศัยหนึ่งคน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากระดับเดิมที่ 3.5 ตารางเมตรต่อผู้อยู่อาศัยหนึ่งคน และมีบริการ Wi-Fi ที่ครอบคลุมพื้นที่ในห้องเพื่อให้พวกเขาสามารถติดต่อสื่อสารกับครอบครัวและเพื่อนได้ จากเดิมที่กำหนดไว้ให้ครอบคลุมพื้นที่ส่วนกลางเท่านั้น
  • การแถลงดังกล่าวยังระบุว่า มาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงจากเดิมนี้จะช่วยเสริมมาตรการป้องกันที่มีอยู่ อาทิ ช่วยเสริมมาตรการในการใช้ชีวิตและการทำงานที่ปลอดภัยที่หอพักและสถานที่ปฏิบัติงาน รวมถึงการดำเนินการตามแนวทางปฏิบัติในการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ และกลยุทธ์แบบหลายชั้น (Multilayered) ในการตรวจจับ แยก และควบคุมการแพร่ระบาด นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแผนการสนับสนุนทางการแพทย์ในระยะยาวเพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานข้ามชาติสามารถเข้าถึงบริการปฐมภูมิที่ครอบคลุมและทันท่วงที
  • แม้ข้อกำหนดเหล่านี้จะมีผลต่อสิ่งอำนวยความสะดวกแห่งใหม่เท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ทางการก็กำลังทบทวนว่าจะปรับปรุงหอพักที่มีอยู่แล้วภายใต้ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ในปัจจุบันได้อย่างไร ทั้งนี้การแถลงวานนี้ยังระบุว่า รัฐบาลสิงคโปร์ยังวางแผนที่จะสร้างหอพักใหม่อีก 2 แห่งด้วยจำนวนเตียงรวมกันอย่างน้อย 12,500 เตียง
  • หากย้อนกลับไปในเดือนมิถุนายน 2020 พบว่าเคยมีการแถลงร่วมจากกระทรวงแรงงานและกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติสิงคโปร์มาแล้วครั้งหนึ่งว่า จะปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของแรงงานข้ามชาติ คำแถลงครั้งนั้นระบุว่ารัฐบาลยังจะปรับปรุงมาตรฐานและรูปแบบการดำเนินงานของหอพัก โดยจะ ‘ทดลองใช้’ มาตรฐานที่ได้รับการปรับปรุงกับหอพักประเภทที่สร้างได้อย่างรวดเร็ว (QBDs) แห่งใหม่ๆ
  • อย่างไรก็ตาม หากเทียบมาตรฐานที่ประกาศว่าจะทดลองใช้ในขณะนั้นกับมาตรฐานที่เพิ่งประกาศวานนี้ พบว่ามีความต่างกันในรายละเอียด ได้แก่ มาตรฐานที่ใช้ทดสอบกำหนดให้มีจำนวนเตียงต่อห้องไม่เกิน 10 เตียง และให้ใช้เฉพาะเตียงเดี่ยวเท่านั้น ในระยะห่างระหว่างเตียงกำหนดไว้ที่ 1 เมตร, กำหนดให้มีพื้นที่อยู่อาศัย (ที่ไม่รวมสิ่งอำนวยความสะดวกที่ใช้ร่วมกัน) อย่างน้อยถึง 6 ตารางเมตร, กำหนดให้ใช้ห้องสุขา ห้องอาบน้ำ และอ่างซิงก์อย่างน้อยหนึ่งชุดต่อ 5 เตียง และกำหนดให้มีเตียงผู้ป่วย 15 เตียงต่อ 1,000 พื้นที่เตียง และจัดตั้งเพิ่มเติมได้อีกหากจำเป็น 10 ต่อ 1,000 พื้นที่เตียง

 

อนึ่ง สิงคโปร์ปิดกั้นบริเวณที่อยู่อาศัยเหล่านี้เป็นเวลาหลายเดือนในปีที่แล้ว เพื่อป้องกันจำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ในหอพักที่พุ่งสูงขึ้น รายงานจากสำนักข่าว BBC เมื่อเดือนกันยายน 2020 ระบุว่า แม้แรงงานต่างชาติราวหมื่นคนที่ทำงานในบริการที่จำเป็นและมีสุขภาพดีจะได้รับการย้ายไปอาศัยในที่พักอื่น แต่ก็มีแรงงานจำนวนมากถูกกักไว้ในหอพัก บางคนก็ไม่สามารถออกจากห้องของตัวเองได้ หรือเผชิญกับความไม่แน่นอนในอาชีพ และมีผู้ที่ต้องอาศัยอยู่รวมกันในห้องขนาดเล็ก นำมาซึ่งรายงานข่าวเกี่ยวกับความเครียดของแรงงานกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและการขาดแคลน ซึ่งรวมถึงการทำร้ายตัวเองและการฆ่าตัวตาย

 

ส่วน Reuters รายงานว่า แม้ในปีนี้ (2021) พื้นที่ส่วนอื่นของสิงคโปร์จะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ในบางลักษณะ แต่กับแรงงานต่างชาติแล้ว พวกเขายังถูกกักอยู่ในที่พักอาศัยเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นกรณีที่ไปทำงาน พักผ่อนในบริเวณใกล้เคียงและทำกิจธุระที่จำเป็น และบอกว่าการแพร่ระบาดได้ฉายให้เห็นถึงสภาพที่มักจะคับแคบและไม่ถูกสุขอนามัยในหอพักที่มีแรงงานที่มีอัตราค่าแรงต่ำหลายหมื่นคนจากประเทศต่างๆ เช่น บังกลาเทศ อินเดีย และจีน

 

และในสัปดาห์นี้เช่นกันที่มีการทดลองผ่อนคลายมาตรการด้านการเดินทางที่บังคับใช้เพื่อระงับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในหอพัก โดยอนุญาตให้แรงงานที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว 500 คนสามารถไปเยือนสถานที่สาธารณะบางแห่งได้เป็นเวลา 6 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ และจะต้องรับการตรวจ Rapid Antigen Test ทั้งก่อนและหลังการไปเยือน Reuters ระบุว่า นี่เป็นเพียงส่วนเดียวของประชากรแรงงานที่มีจำนวนมากเท่านั้น

 

ภาพ: Suhaimi Abdullah / Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising