คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญด้านวัคซีนโควิด-19 ของสิงคโปร์ ให้ความเห็นต่อกรณีความเสี่ยงของวัคซีนชนิด mRNA ภายหลังพบความเป็นไปได้ที่การฉีดวัคซีน mRNA โดสที่ 2 อาจมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่ ‘น้อยมาก’ ในการก่อให้เกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบในกลุ่มชายหนุ่มอายุระหว่าง 18-30 ปี
ซึ่งจากการประเมิน ทางคณะกรรมการยังมั่นใจว่าการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ยังคงมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง
“ผลการประเมินหลังการตรวจสอบของเรา คือประโยชน์จากการได้รับวัคซีนโควิด-19 แบบ mRNA ยังคงมีมากกว่าความเสี่ยงที่เกิดจากการฉีดวัคซีน ข้อมูลเกี่ยวกับโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบนั้นยังไม่เปลี่ยนแปลง และการประเมินของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญยังคงเหมือนเดิม” คณะกรรมการระบุ
ความเห็นของคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญชุดนี้ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลสิงคโปร์มีขึ้นเมื่อวานนี้ (27 มิถุนายน) หลังจากที่มีการเผยแพร่จดหมายเปิดผนึกจากกลุ่มแพทย์ ที่ถูกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย เรียกร้องให้ทางการสิงคโปร์ระงับการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่เยาวชน โดยอ้างข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคระบาด (CDC) ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับการสืบสวนกรณีการเสียชีวิตของเด็กชายวัย 13 ปี ภายหลังได้รับวัคซีน mRNA โดสที่ 2
“โพสต์ในโซเชียลมีเดียระบุว่า ชายวัย 13 ปีจากสหรัฐฯ เสียชีวิตจากภาวะหัวใจล้มเหลว แม้ว่าจะไม่ได้เปิดเผยสาเหตุการตายต่อสาธารณะ และคดีนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโดยทางการสหรัฐฯ” คณะกรรมการกล่าว
ที่ผ่านมามีรายงานจากนานาชาติ ชี้ถึงความเกี่ยวข้องระหว่างโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ กับการฉีดวัคซีน mRNA โดสที่ 2 ในกลุ่มชายวัยรุ่น
ซึ่งสิงคโปร์นั้นใช้วัคซีนชนิด mRNA จาก Pfizer-BioNTech และ Moderna เป็นวัคซีนหลักในโครงการฉีดวัคซีนภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของสิงคโปร์มองว่า ข้อมูลที่ได้จากสหรัฐฯ นั้นบ่งชี้ว่า กรณีกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังการฉีดวัคซีน mRNA นั้นเกิดขึ้นได้ยาก และเกือบทั้งหมดได้รับการแก้ไขด้วยการรักษาทางการแพทย์เพียงเล็กน้อย อีกทั้งทางสมาคมการแพทย์ในสหรัฐฯ เอง ก็ยังคงสนับสนุนการฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป
“สมาคมแพทย์อาชีพในสหรัฐฯ รวมถึงสมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน (AAP) และสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา (AHA) ยังคงสนับสนุนการให้วัคซีนแก่ทุกคนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป” คณะกรรมการกล่าว พร้อมยืนยันว่าจะแนะนำให้ใช้วัคซีนโควิด-19 แบบ mRNA ในกลุ่มชายวัยรุ่นต่อไป แต่จะยังคงเฝ้าติดตามและตรวจสอบข้อมูลจากการฉีดวัคซีนอย่างต่อเนื่อง และพร้อมจะทบทวนข้อแนะนำด้านวัคซีนหากมีความจำเป็น
ภาพ: Photo Illustration by Marcos del Mazo / LightRocket via Getty Images
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: