พรรค PAP (People’s Action Party) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของสิงคโปร์ คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งทั่วไปของสิงคโปร์เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคมที่ผ่านมา ได้คะแนนเสียงไปถึง 65.57% และกวาดที่นั่งสมาชิกรัฐสภาได้ 87 จาก 97 ที่นั่ง ทั้งยังเป็นชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งแรกของ ลอว์เรนซ์ หว่อง นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค PAP เมื่อปี 2024
นี่คือ ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้พรรค PAP และ ลอว์เรนซ์ หว่อง ชนะเลือกตั้งสิงคโปร์ 2025 อย่างถล่มทลาย
-
ความกังวลด้านเศรษฐกิจและความไม่แน่นอนระดับโลก
ผู้มีสิทธิเลือกตั้งชาวสิงคโปร์ต่างกำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับค่าครองชีพ เงินเฟ้อ โอกาสในการจ้างงาน และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต โดยเฉพาะผลกระทบจากสงครามภาษีระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีนที่อาจทำให้เกิดภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งสิงคโปร์เป็นหนึ่งในประเทศที่สหรัฐฯ เตรียมเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้า 10%
เอียน จง (Ian Chong) รองศาสตราจารย์ด้านรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) ให้สัมภาษณ์ BBC News ว่า “สิงคโปร์รู้สึกเปราะบางเป็นพิเศษ เมื่อพิจารณาจากขนาดเศรษฐกิจและการพึ่งพากองกำลังระหว่างประเทศ อีกทั้งเรายังเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ชอบความเสี่ยงอย่างมาก (Risk-Averse)”
ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จึงถูกมองว่า เป็นการ ‘หันกลับสู่ความมั่นคง’ โดยการสนับสนุนพรรค PAP ท่ามกลางความผันผวนทั่วโลก ซึ่งก่อนหน้านี้ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ และพรรค PAP ใช้กลยุทธ์ที่ชาญฉลาด เตือนชาวสิงคโปร์ให้เตรียมพร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของโลก และเน้นย้ำถึงความเสี่ยงหากมีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลหรือสูญเสียที่นั่งรัฐมนตรีบางตำแหน่งในอนาคต ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวนมากจึงเลือก ‘ความมั่นคงและความต่อเนื่อง’ ท่ามกลางพลวัตของความไม่แน่นอนนี้
-
ภาพลักษณ์และประสบการณ์ของ ลอว์เรนซ์ หว่อง
หว่องให้คำมั่นหลายต่อหลายครั้งว่า เขาและทีมของเขาจะ “พาสิงคโปร์ฝ่าพายุไปให้ได้” พร้อมทั้งชี้ว่า หากฝ่ายค้านมี สส. เพิ่มขึ้น อาจทำให้รัฐบาล PAP สูญเสียเก้าอี้รัฐมนตรีที่มีฝีมือไป และอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ ทำให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในสิงคโปร์มองหาความมั่นคงในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน
ประกอบกับบทบาทของหว่องที่โดดเด่นอย่างมากในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเขาเคยเป็นหัวหน้าทีมควบคุมโควิดของสิงคโปร์ และปรากฏตัวต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ ทำงานใกล้ชิดประชาชน จึงมีส่วนช่วยอย่างมากในการสร้าง ‘ความเชื่อมั่น’ ให้กับประชาชนว่า เขามีความสามารถและมีภาวะผู้นำที่จะนำพาสิงคโปร์ก้าวข้ามปัญหาและความท้าทายต่างๆ เหล่านี้ไปให้ได้
หว่องกล่าวขอบคุณผู้มีสิทธิเลือกตั้ง พร้อมทั้งระบุว่า ผลการเลือกตั้งครั้งนี้จะทำให้สิงคโปร์มีความพร้อมมากขึ้นในการเผชิญหน้ากับโลกที่ปั่นป่วน นี่คือสัญญาณชัดเจนของความเชื่อมั่น เสถียรภาพ และความมั่นใจในรัฐบาล
ดร. ยูจีน ตัน (Eugene Tan) จากมหาวิทยาลัยการจัดการสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์กับ CNA ว่า ผลเลือกตั้งสิงคโปร์ 2025 เป็น ‘ชัยชนะอันกึกก้อง และเป็นมติที่เด็ดขาด’ สำหรับพรรค PAP โดยการเปลี่ยนผ่านสู่ผู้นำรุ่นที่ 4 เสร็จสิ้นแล้ว ด้วยมติที่น่าภาคภูมิใจไม่แพ้ยุคของผู้นำรุ่นก่อนๆ พร้อมทั้งระบุว่า หว่องเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของพรรค PAP ที่สามารถเพิ่มคะแนนเสียงของพรรคได้ในการเลือกตั้งครั้งแรกของเขา ขณะที่นายกรัฐมนตรีคนก่อนๆ ที่ลงเลือกตั้งครั้งแรก มักได้รับคะแนนเสียงสนับสนุนพรรคที่ลดลง แม้จะยังได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งก็ตาม
-
ฝ่ายค้านอ่อนแอและกระจัดกระจาย
แม้จะมีถึง 10 พรรคการเมืองที่ลงแข่งกับพรรค PAP แต่ส่วนใหญ่กลับทำผลงานได้ไม่ดี เนื่องจากฝ่ายค้านกระจัดกระจายกันและอ่อนแอ โดยพรรคแรงงาน (Workers’ Party: WP) ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านหลักของสิงคโปร์ ไม่สามารถคว้าที่นั่งเพิ่มเติมได้ในการเลือกตั้งหนนี้ แต่ยังคงรักษาที่นั่งเดิมในรัฐสภาไว้ได้ 10 ที่นั่ง เท่ากับการเลือกตั้งเมื่อปี 2020
เตียว เคย์ คีย์ (Teo Kay Key) นักวิจัยจากสถาบันวิจัยนโยบายศึกษา (Institute of Policy Studies) กล่าวว่า แม้การเลือกตั้งในช่วงหลังๆ จะสะท้อนว่า ประชาชนชาวสิงคโปร์ต้องการ ‘ความหลากหลายทางการเมือง’ แต่ผลเลือกตั้งครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ประชาชนพอใจกับจำนวน สส. ฝ่ายค้านที่มีอยู่ในตอนนี้ พร้อมระบุว่า ชาวสิงคโปร์ดูเหมือนจะ ‘เลือกมากขึ้น’ เมื่อต้องลงคะแนนให้กับฝ่ายค้าน โดยดูที่ศักยภาพจริงมากยิ่งขึ้น แทนที่จะเลือกเพียงเพราะเป็นฝ่ายค้าน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่โลกกำลังปั่นป่วนอย่างเช่นในปัจจุบัน
พริทัม สิงห์ หัวหน้าพรรค WP ก็ออกมายอมรับหลังทราบผลการเลือกตั้งว่า ครั้งนี้เป็นการเลือกตั้งที่ยากลำบากตั้งแต่แรกแล้ว แต่ตอนนี้กระดานสะอาดแล้ว ตัวเขาและพรรค WP จะเดินหน้าสู้ต่อไป
นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งเสนอว่า ระบบพรรคการเมืองสองพรรค (Two-Party System) อาจเป็นทางออกในอนาคตสำหรับสิงคโปร์ เพราะผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเริ่มเลือกพรรคต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณมากขึ้น และคาดหวังให้พรรคฝ่ายค้านมีมาตรฐานเดียวกันกับพรรค PAP ทั้งยังเชื่อว่า พรรค WP จะยังเป็นคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อกับพรรค PAP ต่อไป หากได้รับการสนับสนุนเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
-
เรื่องอื้อฉาวไม่กระทบต่อการเลือกตั้งมากนัก
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พรรค PAP ของสิงคโปร์เผชิญกับเรื่องอื้อฉาวหลายกรณีที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรค เช่น คดีคอร์รัปชันของ เอส อิสวารัน อดีตรัฐมนตรีคมนาคมจากพรรค PAP ที่ยอมรับผิด และถูกศาลตัดสินจำคุก 12 เดือน ซึ่งถือเป็นรัฐมนตรีคนแรกในรอบเกือบ 50 ปีของสิงคโปร์ที่ถูกจำคุกจากคดีคอร์รัปชัน, กรณีการลาออกของประธานรัฐสภาและ สส. พรรค PAP จากความสัมพันธ์ที่ไม่เหมาะสม โดย ลีเซียนลุง อดีตนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เคยระบุว่า การลาออกของทั้งสองคนเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อรักษามาตรฐานจริยธรรมของพรรค PAP รวมถึงกรณีความขัดแย้งภายในครอบครัวลี ระหว่างลีเซียนลุง และ ลีเซียนหยาง น้องชายที่อยู่คนละพรรค ก็เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจและส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรค PAP ไม่น้อย
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีเรื่องอื้อฉาวเหล่านี้ แต่พรรค PAP ยังคงได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2025 อย่างล้นหลาม นักวิเคราะห์มองว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ความสำคัญกับปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้น อีกทั้งความต้องการเสถียรภาพ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนยังคงสนับสนุนพรรค PAP ต่อไป
ปัจจัยเหล่านี้มีส่วนทำให้พรรคกลางขวา (Centre-Right) อย่างพรรค PAP ของสิงคโปร์ชนะการเลือกตั้งและเป็นรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 1959 หรือยาวนานกว่า 65 ปี และถือเป็นหนึ่งในพรรคการเมืองที่ครองอำนาจต่อเนื่องยาวนานที่สุดในโลกภายใต้ระบบเลือกตั้ง
ภาพ: Reuters / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://www.bbc.com/news/articles/cly505gqwwpo
- https://www.channelnewsasia.com/singapore/ge2025-pap-win-wp-analysis-psp-sdp-5107206
- https://www.straitstimes.com/singapore/politics/ge2025-pap-the-clear-choice-to-steer-singapore-through-uncertainty-say-analysts
- https://www.theguardian.com/world/2025/may/03/singapore-ruling-party-wins-election-in-landslide