เตือน ‘ดอลลาร์สิงคโปร์’ และ ‘บาทไทย’ จ่ออ่อนค่าอีก หากเงินหยวนของจีนทรุดต่อ เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ หลังแบงก์ชาติจีนประกาศลดการอุ้มเงินหยวน ขณะที่จีนยังคงยึดมั่นกลยุทธ์ Zero-COVID ต่อไป เหตุ 2 สกุลเงินนี้มีค่าสหสัมพันธ์ (Correlation) กับหยวนมากที่สุด
ตามข้อมูลจาก Bloomberg ระบุว่า ในช่วง 90 วันที่ผ่านมา การเคลื่อนไหวของดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยมีค่าสหสัมพันธ์ หรือเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับเงินหยวนที่ซื้อขายนอกประเทศจีน (Offshore Yuan) มากที่สุด เมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่เอเชีย (EM Asia) อื่นๆ ไม่ว่า รูปีอินเดีย เปโซฟิลิปปินส์ ริงกิตมาเลเซีย ดอลลาร์ไต้หวัน วอนเกาหลีใต้ และรูเปียห์อินโดนีเซีย
ด้วยความสัมพันธ์ที่ว่านี้จึงมีสัญญาณว่าดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยอาจจะอ่อนค่าลงอีกตามเงินหยวน หลังจากในวันนี้ (7 พฤศจิกายน) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศยุติการตรึงอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนแบบแข็งค่าเกินคาด หลังจากพยายามตรึงมาตั้งแต่เดือนสิงหาคม ทำให้นักลงทุนเดิมพันว่าทางการจีนกำลังลดการสนับสนุนสกุลเงินของตน
โดยเงินหยวนที่ซื้อขายกันทั้งใน (Onshore Yuan) และนอกชายฝั่ง อ่อนค่าลงมากที่สุดในหมู่ประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชีย หลังจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีนให้คำมั่นว่าจะ ‘ยึดมั่น’ กับนโยบาย Zero-COVID อย่างแน่วแน่ต่อไป เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นอกจากนี้ เศรษฐกิจสิงคโปร์ซึ่งพึ่งพาการส่งออก ก็จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน ขณะที่การขาดนักท่องเที่ยวชาวจีนก็จะส่งผลกระทบต่อค่าเงินบาท เนื่องจากภาคการท่องเที่ยวครองสัดส่วนของ GDP ไทยราว 20% ในช่วงก่อนการระบาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- จีนประกาศ ‘ตรึง’ อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนแข็งค่ากว่าคาด พร้อมเตือนนักลงทุนอย่าชอร์ตเซล
- เงินหยวน อ่อนค่าหนักแตะ 7.3 หยวนต่อดอลลาร์ คาดมีโอกาสร่วงลงอีก เหตุวิตกกังวลแนวโน้มเศรษฐกิจ
- เงินหยวน ผงาดขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งสกุลเงินต่างประเทศที่ซื้อ-ขายมากที่สุดในรัสเซีย
ด้วยความสัมพันธ์ที่ว่านี้จึงมีสัญญาณว่าดอลลาร์สิงคโปร์และบาทไทยอาจจะอ่อนค่าลงอีกตามเงินหยวน
อ้างอิง:
