×

เปิด 3 อันดับธุรกิจที่ทุนนอกขนเงินลงทุนไทยมากสุด เผยทุนสิงคโปร์ทะลุ 9.2 หมื่นล้าน แซงญี่ปุ่น

26.11.2025
  • LOADING...
เปิด 3 อันดับธุรกิจที่ทุนนอกขนเงินลงทุน ไทย มากสุด เผยทุนสิงคโปร์ทะลุ 9.2 หมื่นล้าน แซง ญี่ปุ่น

10 เดือนปี ‘68 ต่างชาติลงทุนในไทยสูงถึง 2.76 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปี ‘67 ถึง 1.15 แสนล้านบาท หรือ 72% สิงคโปร์ลงทุนสูงสุด อันดับหนึ่ง 92,318 ล้านบาท ตามด้วย ญี่ปุ่น และจีน 25,404 ล้านบาท

 

พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว เปิดเผยว่า ช่วง 10 เดือนของปี 2568 (มกราคม – ตุลาคม) มีการอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย ภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 จำนวน 869 ราย

 

โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 228 ราย และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 641 ราย มูลค่าเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 276,736 ล้านบาท โดย จำนวนชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุน 5 อันดับแรก นำโดยญี่ปุ่น แต่สิงคโปร์มูลค่าลงทุนสูงสุด ได้แก่

 

1. ญี่ปุ่น 158 ราย คิดเป็น 18% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 78,285 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

  • ธุรกิจบริการทางวิศวกรรมและเทคนิค เช่น การออกแบบแม่พิมพ์และอุปกรณ์สำหรับการผลิตยานยนต์ การให้คำปรึกษาด้านเทคนิคเกี่ยวกับกระบวนการผลิตยานยนต์ เป็นต้น
  • ธุรกิจบริการให้ใช้ระบบเทเลเมติกส์สำหรับบริหารจัดการและติดตามตรวจสอบสถานะรถยนต์
  • ธุรกิจบริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์และเครื่องใช้สำหรับแม่และเด็ก
  • ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า

 

2. สหรัฐอเมริกา 127 ราย คิดเป็น 15% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 4,830 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

  • ธุรกิจกิจการโฆษณา
  • ธุรกิจบริการออกแบบ พัฒนา ติดตั้ง และบำรุงรักษาซอฟต์แวร์ แพลตฟอร์ม
  • ธุรกิจบริการคิดค้น วิจัย และพัฒนาสูตรการผลิต ผลิตภัณฑ์จากผัก ผลไม้ และสินค้าการเกษตร

 

3. สิงคโปร์ 126 ราย คิดเป็น 14% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 92,318 ล้านบาท

  • ธุรกิจแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย
  • ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อจำหน่าย และ/หรือ ให้บริการ
  • ธุรกิจบริการติดตั้ง บำรุงรักษา และซ่อมแซมเกี่ยวกับเครื่องจักร
  • ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์โลหะและชิ้นส่วนโลหะขึ้นรูป สายสวนหัวใจ (Mapping and Ablation System Catheter) ไส้กรองอากาศ (Air Filter)

 

4. จีน 116 ราย คิดเป็น 13% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 25,404 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

  • ธุรกิจแปรรูปไม้เพื่อการผลิตถ่านกัมมันต์
  • ธุรกิจบริการรับจ้างพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้า
  • ธุรกิจบริการทดสอบทางวิทยาศาสตร์ โดยเป็นการทดสอบชิ้นส่วนไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์
  • ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ Flexible Printed Circuit Board

 

5. ฮ่องกง 93 ราย คิดเป็น 11% ของจำนวนธุรกิจต่างชาติในไทย ลงทุน 13,198 ล้านบาท ในธุรกิจ อาทิ

  • ธุรกิจแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือนและเครื่องใช้สอย
  • ธุรกิจบริการขุดเจาะปิโตรเลียม ภายในบริเวณพื้นที่แปลงสำรวจที่ได้รับสัมปทานในอ่าวไทย
  • ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์

 

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 พบว่า การอนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย เพิ่มขึ้น 83 ราย (11%) (เดือน ม.ค. – ต.ค. 68 ลงทุน 276,736 ล้านบาท / เดือน ม.ค. – ต.ค. 67 ลงทุน 161,169 ล้านบาท) รวมถึงมีการจ้างงานคนไทย เพิ่มขึ้น 77% โดยจำนวนนักลงทุนที่เข้ามาสูงสุดยังคง เป็นนักลงทุนญี่ปุ่นเช่นเดียวกับปีก่อน

 

นอกจากนี้ ยังพบว่า การลงทุนของต่างชาติที่เข้ามา ส่วนใหญ่มาจากการลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (BOI) สูงถึง 424 ราย คิดเป็น 49% ของจำนวนการอนุญาตทั้งหมด 869 ราย มูลค่าลงทุน 210,101 ล้านบาท คิดเป็น 76% ของมูลค่าการลงทุนทั้งหมด 276,736 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติของรัฐบาลที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมอนาคต (Future Industries) เช่น เทคโนโลยีขั้นสูง ดิจิทัล AI ยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานสะอาด และเกษตรอาหาร

 

ธุรกิจที่ได้รับอนุญาตผ่าน BOI สูงสุด 3 อันดับแรก

 

1. ธุรกิจบริการรับจ้างผลิตสินค้า เช่น ผลิตภัณฑ์โลหะ/พลาสติก ชิ้นส่วนยานยนต์ เป็นต้น ซึ่งสนับสนุนการพัฒนา การผลิตที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

 

2. กิจการสนับสนุนการค้าและการลงทุน (TISO) ที่มีส่วนสำคัญในการเพิ่มบทบาทของไทยในฐานะศูนย์กลางการลงทุนและโลจิสติกส์ในภูมิภาค

 

3. ธุรกิจบริการด้านคอมพิวเตอร์ เช่น พัฒนาซอฟต์แวร์ และ Data Center เป็นต้น โดยตรงกับเป้าหมายเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) และการพัฒนา Data Center และ AI Services

 

อธิบดีพูนพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการลงทุนในจังหวัดพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ ช่วง 10 เดือนของปี 2568 (มกราคม – ตุลาคม) มีนักลงทุนต่างชาติสนใจลงทุนในพื้นที่ EEC 253 ราย คิดเป็น 29%

 

ภาพ: pigphoto/Getty Images

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising