วันนี้ (15 กรกฎาคม) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ได้ควบคุมตัว วิลาวัลย์ หรือ สีกากอล์ฟ มาควบคุมตัวที่ห้องควบคุมขัง
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามสีกากอล์ฟว่า สำนึกผิด หรืออยากจะขอโทษในสิ่งที่ตัวเองทำลงไปหรือไม่ สีกากอล์ฟ ไม่ตอบคำถามใดๆ กับสื่อมวลชน เพียงแค่ยกมือไหว้เท่านั้น
โดยจากการสังเกตพบว่า สีกากอล์ฟมีความอิดโรย และ เคร่งเครียดนอกจากนี้ยังมีรายงานว่ามีครอบครัวของสีกากอล์ฟมาเยี่ยมด้วย
จากปฏิบัติการ ‘นารีพิฆาตพระ’ ที่ร่วมกันระหว่าง 4 หน่วยงานหลัก ได้แก่ ตำรวจสอบสวนกลางร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) , สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.)
ได้นำไปสู่การจับกุมตัวสีกากอล์ฟ หญิงอายุ 35 ปี ที่พบว่ามีความพัวพันกับพระชั้นผู้ใหญ่หลายรูป
โดยมี 2 หมายจับ และ 1 หมายเรียก ได้แก่
1. คดีวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากข้อมูลของ บก.ปปป. วิลาวัลย์ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีที่เกี่ยวข้องกับเส้นทางการเงินจำนวน 380,000 บาท จากวัดชูจิตธรรมารามฯ และถูกออกหมายจับจากศาลอาญาทุจริตและประพฤติมิชอบกลางใน 4 ข้อหา
- สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐยักยอกทรัพย์ ตามมาตรา 147
- สนับสนุนเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ตามมาตรา 157
- ร่วมกันฟอกเงินและสมคบฟอกเงิน
- รับของโจร
2. คดีวัดโสธรวรารามวรวิหาร และ สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร
สีกากอล์ฟมีส่วนเกี่ยวข้องกับ 2 คดีหลัก รวม 3 ข้อหา โดยแยกเป็น
- หมายจับจากศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับอดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ จำนวน 2 ข้อหา ได้แก่ รีดเอาทรัพย์ และทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียเสรีภาพฯ
- หมายเรียก ในคดีฉ้อโกงที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพิจิตร
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสอบสวนและขยายผลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพฤติการณ์ของนางสาววิลาวัลย์ในคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องต่อไป