คิมอึนฮี นักเขียนหญิงที่ได้รับคำชมจากนักเขียนรุ่นใหญ่ในวงการมากมาย โดยเฉพาะในปี 2016 ที่ผลงานการเขียนบทซีรีส์ Signal ได้รับความนิยมล้นหลาม ทำให้เธอได้รับรางวัล Baeksang Arts Awards สาขาบทซีรีส์ยอดเยี่ยม และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ให้คำนิยามมาตรฐานใหม่ของทีวีซีรีส์เกาหลี
ปี 2019 ชื่อของคิมอึนฮีได้ก้าวขึ้นสู่ระดับสากลกับบทซีรีส์ Kingdom ที่เธอร่วมงานกับผู้กำกับ คิมซังฮุน สร้างปรากฏการณ์ซอมบี้โชซอนที่สั่นสะเทือนไปทั่วโลกผ่านแพลตฟอร์ม Netflix ซึ่งนับเป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ซีรีส์เกาหลีก้าวสู่มาตรฐานใหม่ที่สร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อผู้ชมทั่วโลก
“ฉันไม่เคยเรียนการเขียนบทซีรีส์มาก่อน ฉันฝึกเขียนตอนที่ได้ดูหนังที่ชอบ ทั้งศึกษาบทพูด การแสดง อารมณ์ การแสดงออกทางสีหน้า และข้อมูลเบื้องหลังแวดล้อมต่างๆ โดยเก็บสิ่งเหล่านี้แล้วเขียนออกมาเป็นตัวหนังสือ
“ปกติซีรีส์ 50 นาที ฉันจะเขียนออกมาราว 42-49 หน้า กระบวนการเขียนว่ายากแล้ว สิ่งที่ยากกว่าคือการแก้ไขให้มันสมบูรณ์ที่สุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องฝึกฝน ไม่ใช่ว่าต้องเป็นคนพิเศษถึงเป็นนักเขียนได้ และถ้าคุณไม่ยอมแพ้ คุณจะประสบความสำเร็จในการเป็นนักเขียน”
คิมอึนฮีเกิดในปี 1972 ยุคที่ทีวีเริ่มเป็นของที่แพร่หลายในครัวเรือน และเมื่อเธออายุราว 20 ปีในยุค 90 ก็นับเป็นยุคเติบโตของวงการโทรทัศน์เกาหลี หลังจบการศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ คิมอึนฮีได้เริ่มทำงานเป็นผู้กำกับรายการให้กับบริษัทเคเบิลทีวี และในภายหลังได้กลายมาเป็นนักเขียนที่ SBS ช่วงเวลานี้เองที่คิมอึนฮีได้พบกับผู้กำกับ ชางฮังจุน (Sign, 2011 และ Forgotten, 2017) ผู้ชายที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตและมีอิทธิพลกับชีวิตของเธอ
“ฉันเรียนรู้หลายอย่างจากสามี เขาเป็นคนที่อ่านหนังสือเยอะมากๆ ทั้งหนังสือยุคปัจจุบัน การเมือง การเปลี่ยนแปลงของโลก ประวัติศาสตร์โลก รวมไปถึงประวัติศาสตร์เกาหลี เขาเป็นคนที่เล่าเรื่องอะไรก็สนุก มีความรู้หลากหลายมาก ต้องขอบคุณเขานะคะที่ช่วยเปิดโลกและทำให้ฉันกลายเป็นนักเขียน”
คิมอึนฮีเขียนบทภาพยนตร์เรื่องแรก Once in a Summer ในปี 2006 ซึ่งแม้จะเป็นการทำงานร่วมกับนักเขียนหลายคน แต่ก็ถือว่าเปิดตัวได้ดี เพราะเป็นหนังรักที่นำแสดงโดย อีบยองฮอน และพัคซูเอ สะท้อนความงดงามของหนุ่มสาวในปี 1969 ใต้การปกครองระบอบเผด็จการของ พัคจองฮี ที่กลุ่มนักศึกษาและประชาชนต้องออกมาประท้วง
Once in a Summer (2006)
Harvest Villa (2010)
ผลงานเดบิวต์เขียนบทซีรีส์ของคิมอึนฮีคือ Harvest Villa (2010) ที่เธอร่วมเขียนบทกับชางฮังจุน สามีในชีวิตจริง ซีรีส์ตลกร้ายแสบๆ คันๆ เรื่องราวของนักแสดงสมทบที่พลัดพรากจากพ่อผู้ให้กำเนิดมานานถึง 20 ปี อยู่ๆ ก็รู้ข่าวว่าพ่อถูกฆาตกรรมและทิ้งมรดกไว้ให้ ตามพินัยกรรมระบุให้เขาย้ายเข้าไปอยู่ที่ Harvest Villa อพาร์ตเมนต์เก่าที่รวมตัวละครแปลกๆ มากมาย และที่นี่เองที่เขาพบรักและพบความลับเกี่ยวกับฆาตกรในคดีนี้
ตามมาด้วยผลงานที่คิมอึนฮีเขียน ชางฮังจุนกำกับ คือซีรีส์ Sign (2011) ที่ทั้งสองได้ทำงานร่วมกัน นำแสดงโดย คิมอาจุง และชินยาง ออกอากาศทางช่อง SBS เล่าเรื่องราวการสืบจากศพโดยที่ตัวเอกเป็นแพทย์นิติเวชจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ทำหน้าที่สืบหาสาเหตุการตายของผู้คน พวกเขาทำงานอย่างมุ่งมั่นเพื่อตามหาความจริงบางอย่างที่ซ่อนอยู่
ในปี 2012 คิมอึนฮีร่วมงานกับผู้กำกับ คิมฮยองชิก (About Time) และพัคชินอู (Encounter, It’s Okay To Not Be Okay) ในซีรีส์ Phantom การสืบสวนสอบสวนหาความจริงในโลกไซเบอร์ที่ได้พระเอกแห่งยุคอย่าง โซจีซอบ มานำแสดง เรื่องราวว่าด้วย คิมอูฮยอน ลูกชายคนเดียวของเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงเสียชีวิตลง พัคกียอง เพื่อนร่วมห้องสมัยเรียนของเขาที่เป็นแฮ็กเกอร์มืออาชีพก็ตัดสินใจสวมตัวตนของคิมอูฮยอนโดยใช้เทคนิคแฮ็กเกอร์ของเขาในการไขคดีฆาตกรรมทุกประเภทและแก้ไขวิกฤต เพื่อจะไขคดีต่างๆ พัคกียองและเพื่อนร่วมงานของเขาร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของ Phantom
Sign (2011)
Phantom (2012)
ความเกี่ยวโยงกันอย่างหนึ่งของงานเขียนอันเป็นเอกลักษณ์ของคิมอึนฮีคือการผสมผสานเรื่องเกี่ยวกับความตาย ศพ เลือด ตำรวจ ปมปริศนา แม้จะมีพระเอกนางเอกตามขนบซีรีส์ แต่ก็ไม่มีเลิฟไลน์มาเกี่ยวข้องนัก คิมอึนฮีเคยให้สัมภาษณ์ในประเด็นนี้ไว้ว่า “ฉันชอบดูซีรีส์อาชญากรรมต่างประเทศมากเลยค่ะ แต่มันก็มีความแตกต่างจากเหตุการณ์ในเกาหลีมาก ฉันมักจะคิดถึงเรื่องราวที่ใกล้เคียงความเป็นเกาหลีเพื่อให้คนดูเชื่อมโยงได้ อย่างที่คุณเห็นว่าหลายเหตุการณ์ในซีรีส์ที่ฉันเขียนจะเป็นความทริลเลอร์แบบเกาหลีที่มีประเด็นครอบครัวเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะมาก”
3 Days ซีรีส์ในปี 2014 ของคิมอึนฮีก็เช่นกัน ยังคงเป็นเส้นเรื่องเกี่ยวกับการเมือง แอ็กชัน ดราม่า ที่เธอได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับ ชินคยองซู เจ้าของผลงานซีรีส์ Tree With Deep Roots และ Nokdu Flower โดยเรื่องราวของ 3 Days เล่าถึงการหายตัวไปอย่างลึกลับของประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่มีการวางกำลังคุ้มกันอย่างเข้มงวด บอดี้การ์ดของประธานาธิบดีจึงออกติดตามและพยายามไขปริศนาว่าเหตุการณ์ร้ายๆ ที่เกิดขึ้นต่อเนื่องทั้ง 3 วันมีความเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปครั้งนี้อย่างไร หลังสืบหาพวกเขาก็ได้ค้นพบความจริงบางอย่างที่น่าตกตะลึง
Signal (2016)
ผลงานซีรีส์ Signal ในปี 2016 ของคิมอึนฮีกลายเป็นผลงานขึ้นหิ้งสุดคลาสสิกทันที ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศ 8.8 ในตอนที่ออกอากาศทางช่องเคเบิล tvN และยังคว้ารางวัลมากมายในปีนั้น โดยเฉพาะ Baeksang Arts Awards ที่ชนะ 3 รางวัลสำคัญคือ ซีรีส์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม และบทซีรีส์ยอดเยี่ยม
ด้วยความที่ซีรีส์ Signal สร้างโดยอิงจากคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่เกิดขึ้นจริงในเมืองฮวาซอง คดีสะเทือนขวัญยิ่งใหญ่ที่กว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดได้ก็ล่วงไปกว่า 30 ปี เมื่อจะเขียนซีรีส์ที่อ้างอิงเหตุการณ์นี้ คิมอึนฮีจึงต้องใช้เวลา 2 ปีเต็มๆ ในการเตรียมตัวเพื่อเขียนบท ค้นหา และจัดการข้อมูลเกี่ยวกับคดีความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งในเกาหลีและสหรัฐอเมริกา เธอยังไปพบตำรวจสายสืบที่ดูแลคดี สายสืบคดีฆาตกรรม นักนิติวิทยาศาสตร์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ภาคสนามที่ทำงานจริงในที่เกิดเหตุเพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุดในการเข้าใจเรื่องราวที่จะเขียน
ก่อนจะได้ออกมาเป็นซีรีส์ที่เล่าเรื่องราวของสายสืบ พัคแฮยอง ที่พี่ชายถูกจำคุกโดยไม่มีความผิดจนต้องจบชีวิตลง เขาได้พบวิทยุสื่อสารรุ่นเก่าที่มีเสียงของสายสืบ อีแจฮัน ซึ่งหายสาบสูญไปนาน 15 ปี เขาออกสืบคดีตามที่อีแจฮันบอกและพบว่าเป็นจริงตามนั้น ทำให้หลายคดีจาก 15 ปีก่อนที่ถูกปิดไปแล้วถูกสืบสวนสอบสวนใหม่จนสามารถดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดได้ สิ่งนี้ทำให้พวกเขารู้แล้วว่าต่างกำลังสื่อสารกับคนในอีกมิติเวลา ระหว่างพัคแฮยอง ชาซูฮยอน ที่อยู่ในโลกปัจจุบันปี 2015 และอีแจฮันจากอดีตในปี 1989
Kingdom (2019)
Kingdom (2019) Kingdom 2 (2020) รวมถึงจักรวาล Kingdom ที่จะตามมาทั้งภาคแยกและภาคต่อยังคงเป็นการทำงานระหว่างคิมอึนฮีและผู้กำกับคิมซองฮุน (Tunnel, 2016 และ A Hard Day, 2014) ซึ่งคิมอึนฮีเคยให้สัมภาษณ์มาตั้งแต่ต้นว่าเธอสามารถเขียนบทซีรีส์นี้ไปได้เป็นสิบซีซัน
นี่คือผลงานที่ดีที่สุดของคิมอึนฮีในตอนนี้ เพราะเป็นจุดเปลี่ยนที่สร้างแรงกระเพื่อมให้วงการซีรีส์เกาหลีที่ปรับรูปแบบซีรีส์ที่จำเป็นต้องมีอย่างน้อย 16 ตอนออกไป Kingdom เลือกเส้นทางที่กระชับฉับไวและตื่นเต้นสุดตัวตลอดเวลาอย่างไม่มีพัก แต่ละซีซันมีจำนวนเพียง 6 ตอน ทั้งยังเลือกแนวซีรีส์ยอดนิยมสองรูปแบบมาผสมผสานกัน คือซีรีส์ประวัติศาสตร์และแอ็กชันทริลเลอร์ซอมบี้ ทั้งยังผนวกประเด็นสะท้อนสังคม การเมือง ความโลภ การแย่งชิงอำนาจ รวมเข้ากับเอกลักษณ์ K-Zombie ของเกาหลีได้อย่างเข้มข้น เมื่อได้แพลตฟอร์มสตรีมมิงที่ส่งออกเนื้อหาไปได้ทั่วโลก ความสำเร็จของซีรีส์ Kingdom ก็กลายเป็นหมุดหมายและมาตรฐานใหม่ให้กับซีรีส์เกาหลีที่ทะเยอทะยานมากกว่าการบริโภคในประเทศ
“ฉันเริ่มเขียนเรื่อง Kingdom มาตั้งแต่ปี 2011 ในช่วงแรกนั้นฉันมีแค่โครงเรื่องคร่าวๆ ซึ่งจริงๆ แล้วเรื่องนี้ฉันเขียนลงในเว็บคอมิกด้วย ในตอนนั้นฉันไม่ได้คิดว่ามันจะกลายมาเป็นซีรีส์ดราม่า จนวันที่ฉันเขียนบท Signal เสร็จแล้วได้พบกับผู้กำกับคิมซองฮุนและ Netflix ซีรีส์เรื่องนี้จึงกลายเป็นโปรเจกต์ที่เกิดขึ้นจริง
“ฉันมองว่าซอมบี้เป็นสิ่งที่คนทั้งโลกรู้จักอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่ฉันอยากจะเล่าถึงมันก็เพราะฉันไม่ได้มองว่าซอมบี้คือสิ่งที่น่ากลัวและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ฉันกลับรู้สึกเศร้าเสียใจไปกับมัน ตอนที่ฉันได้เห็นซอมบี้ ฉันมักจะคิดว่าอะไรที่ทำให้พวกเขากลายเป็นสัตว์ประหลาดแบบนี้ สัตว์ประหลาดที่สัญชาตญาณเหลืออยู่เพียงความหิวโหยและกลายเป็นภัยพิบัติที่ยิ่งใหญ่ นี่คือจุดที่เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น”
อ่านบทสัมภาษณ์คิมอึนฮีฉบับเต็มได้ที่นี่ https://thestandard.co/kingdom-netflix/
ในตอนนี้คิมอึนฮีขึ้นแท่นเป็นนักเขียนอันดับต้นๆ ของวงการซีรีส์เกาหลี ผลงาน Kingdom 3 ยังอยู่ระหว่างงานสร้าง รวมถึงซีรีส์เรื่องล่าสุดที่มีชื่อของเธอเป็นผู้เขียนบทอย่าง Jiri Mountain ซีรีส์ฟอร์มใหญ่แห่งปี 2021 ที่เธอร่วมงานกับผู้กำกับ อีอึงบก (Descendants of the Sun, Mr. Sunshine) โดยมีรายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการว่า Jiri Mountain จะใช้ทุนสร้าง 2.8 หมื่นล้านวอน หรือราว 555 ล้านบาท ซึ่งถ้าเป็นไปตามนั้นจะทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ขึ้น Top 10 ซีรีส์ทุนสร้างสูงสุดของเกาหลีใต้
Jiri Mountain เล่าเรื่องราวของ ซออีกัง (รับบทโดย ชอนจีฮยอน) เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติจีรีซานที่เชี่ยวชาญที่สุด เธอรู้ทุกสิ่งเกี่ยวกับพื้นที่นี้ รวมถึงสถานที่ในการปีนเขา และคังฮยอนโจ (รับบทโดย จูจีฮุน) เจ้าหน้าที่อุทยานคนใหม่ที่จบมาจากโรงเรียนเตรียมทหาร อดีตร้อยเอกที่มีความลับซึ่งบอกใครไม่ได้ ทั้งคู่จะกลายมาเป็นคู่หูในการทำงานช่วยเหลือผู้คนในอุทยานแห่งชาติแห่งนี้
Jiri Mountain (2021)
คิมอึนฮีให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแรงบันดาลใจในงานเขียนของเธอไว้ว่า “การทำงานของฉันในฐานะนักเขียน มักจะมีคนถามตลอดว่าได้ไอเดียเหล่านี้มาจากไหน จริงๆ แล้วไม่ต่างกัน ฉันดูหนัง ดูซีรีส์ ฟังเพลง แต่จะมีความจำเกี่ยวกับหนังสือได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นนิยายหรือหนังสือชีวประวัติ ฉันจะชอบอ่านอะไรที่เป็นเท็กซ์ ที่บ้านฉันไม่ว่าจะในห้องน้ำหรือห้องนอนก็จะมีหนังสืออยู่ทุกๆ ที่เลยค่ะ
“ระดับความลึกซึ้งของซีรีส์ขึ้นอยู่กับความเข้าใจมนุษย์ด้วย การอ่านหนังสือเชิงลึกเกี่ยวกับมนุษยศาสตร์เรียกว่าเป็นพื้นฐานของการทำงานเขียน หลังจากที่ฉันดูหนังหรือซีรีส์ก็มักจะคุยกับคนอื่นเพื่อเรียนรู้ว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับประเด็นนั้นๆ การได้รู้จักคนมากมายหลายแบบ ได้ฟัง หรือได้รับรู้ความคิดพวกเขา มันช่วยได้มากในการเป็นข้อมูลให้คาแรกเตอร์ที่หลากหลาย
“และที่แน่นอนก็คือซีรีส์เรื่องหนึ่งเป็นการทำงานจากหลายฝ่าย ในฐานะนักเขียนก็มีหน้าที่ร่างเรื่องราวขึ้นมา ส่วนการทำงานในกองถ่าย บรรยากาศ ความคิดสร้างสรรค์ การกำกับการแสดง ทีมงาน รวมถึงทีมนักแสดงก็ล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้น แล้วยังจะมีมิติเรื่องเรตติ้งความนิยมหลังจากออกอากาศแล้วด้วย มันยากที่จะหาจุดสมดุลระหว่างสิ่งเหล่านี้ ถ้าคุณให้น้ำหนักมากเกินไปในคดีความ ตัวละครก็จะหายไป ถ้าคุณโฟกัสไปที่ตัวละครอย่างเดียว ตัวเรื่องก็อาจจะอ่อนยวบ ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าตรงไหนคือบาลานซ์ที่ดีที่คนดูจะชอบ มันเหมือนการไปเดตน่ะค่ะ ฉันตั้งใจกับงานตัวเองมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าคนจะชอบมันไหม”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง:
- https://www.hankyung.com/entertainment/article/202003261637H
- http://topclass.chosun.com/mobile/board/view.asp?tnu=201604100002
- https://asianwiki.com/Kim_Eun-Hee_(screen_writer)
ผลงานการเขียนบทของคิมอึนฮี
ซีรีส์
- Jiri Mountain (tvN, 2021)
- Kingdom 2 (Netflix, 2020)
- Kingdom (Netflix, 2019)
- Signal (tvN, 2016)
- 3 Days (SBS, 2014)
- Phantom (SBS, 2012)
- Sign (SBS, 2011)
- Harvest Villa (tvN, 2010)
ภาพยนตร์
- Once in a Summer (2006)