×

ปีแห่งการปรับตัวและหาคำตอบว่า ‘ไอดอลไทย’ ควรพูดเรื่องการเมืองหรือไม่

30.12.2020
  • LOADING...
ปีแห่งการปรับตัวและหาคำตอบว่า ‘ไอดอลไทย’ ควรพูดเรื่องการเมืองหรือไม่

HIGHLIGHTS

10 min read
  • ปี 2020 คือช่วงเวลาที่สร้างบาดแผลให้กับวงการบันเทิงไทยมากที่สุดปีหนึ่ง เมื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และส่งผลให้ทุกภาคธุรกิจกลายเป็นอัมพาต ‘วงการไอดอลไทย’ คือหนึ่งในนั้น 
  • เมื่อหลายอีเวนต์ที่ทุกคนควรจะได้มาสนุกสนานกับเหล่าไอดอลต่างถูกยกเลิก คำถามต่อมาที่ทุกวงต้องแก้ปัญหาคือ เราจะปรับตัวอย่างไรเพื่อรักษาฐานแฟนคลับกลุ่มเดิมเอาไว้ พร้อมทั้งสร้างฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่ให้วงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ออนไลน์คอนเทนต์จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสะพานที่เชื่อมระหว่างไอดอลและแฟนคลับได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง
  • เมื่อการแสดงออกทางการเมืองของวงไอดอลเริ่มได้รับการกล่าวถึง คำถามต่อมาที่ใครหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยคือ ‘ไอดอลควรพูดเรื่องการเมืองหรือไม่’  

แม้จะไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าปี 2020 คือช่วงเวลาที่สร้างบาดแผลให้กับวงการบันเทิงไทยมากที่สุดปีหนึ่ง เมื่อเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มแพร่ระบาดอย่างหนักในช่วงต้นปีที่ผ่านมา และส่งผลให้ทุกภาคธุรกิจกลายเป็นอัมพาต ‘วงการไอดอลไทย’ คือหนึ่งในนั้น 

 

เป้าหมายสำคัญของวงไอดอลทุกวงในปี 2020 จึงไม่ใช่แค่การเพิ่มฐานแฟนคลับให้กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึง ‘การจะทำอย่างไรให้วงข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้’ 

 

นี่คือเรื่องราวตลอดปี 2020 ของวงการไอดอลไทย หมุดหมายแห่งการปรับตัวเพื่อข้ามผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปจนถึงประเด็นสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามอย่างการออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองที่ชวนทุกคนร่วมตั้งคำถามสำคัญว่า ‘ไอดอลควรพูดเรื่องการเมืองหรือไม่’  

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/bnk48official

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/cgm48official/

 

โควิด-19: วายร้ายที่พรากเหล่าไอดอลและแฟนคลับออกจากกัน

 

เริ่มตั้งแต่ BNK48 ที่เพิ่งเปิดตัวซิงเกิลลำดับที่ 8 ในชื่อ High Tension ออกมาในเดือนกุมภาพันธ์ และกำลังจะมีงานจับมือในเดือนถัดมา รวมถึงอีเวนต์ใหญ่ประจำปีอย่าง 9th Single Senbatsu General Election ที่มีกำหนดการจัดงานในเดือนมีนาคม แต่ทุกอย่างต้องถูกเลื่อนออกไป 

 

รวมถึงภาพยตร์สารคดีเรื่องที่ 2 ของวงอย่าง One Take ที่มีกำหนดเข้าฉายในช่วงเดือนเมษายน ก็ถูกนำเข้าฉายบนแพลตฟอร์มสตรีมมิงอย่าง Netflix แทน เช่นเดียวกับ CGM48 ซึ่งกำลังจะมีงานจับมือครั้งแรกของวงในเดือนมีนาคม แต่ต้องถูกเลื่อนออกไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่นกัน

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/IDOLCONNECTTH

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/siamdol/

 

ขณะเดียวกัน อีเวนต์สำคัญของวงไอดอลหลายงานที่แฟนๆ ต่างเฝ้ารอก็ถูกยกเลิกและเลื่อนงานออกไปอย่างน่าเสียดาย เช่น IDOL CONNECT เล่นอะไรกัน หนึ่งในอีเวนต์ไอดอลที่หลายคนเฝ้ารอ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม, Siamdol Festival 2020: 3rd Anniversary IDOL Super Live อีเวนต์ใหญ่จากค่าย Siamdol ที่รวบรวมวงไอดอลจากหลายสัญชาติมาไว้ในที่เดียว, การจัดเดบิวต์สเตจของวง Tossagirls ที่ถูกวางไว้ในเดือนมีนาคม ฯลฯ

 

ออนไลน์คอนเทนต์: การปรับตัวเพื่อข้ามผ่านวิกฤตด้วยการสร้างสะพานเชื่อมระหว่างไอดอลและแฟนคลับ

 

เมื่อหลายอีเวนต์ที่ทุกคนควรจะได้มาสนุกสนานกับเหล่าไอดอลต่างถูกยกเลิก คำถามต่อมาที่ทุกวงต้องแก้ปัญหาคือ เราจะปรับตัวอย่างไรเพื่อรักษาฐานแฟนคลับกลุ่มเดิมเอาไว้ พร้อมทั้งสร้างฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่ให้วงเป็นที่รู้จักมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ทุกคนต้องกักตัวเพื่อความปลอดภัย (Safe-Quarantine)

 

ออนไลน์คอนเทนต์จึงกลายเป็นเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อสร้างสะพานที่เชื่อมระหว่างไอดอลและแฟนคลับได้กลับมาพบหน้ากันอีกครั้ง

 

 

กิจกรรม BNK48เล่าต่อเรื่อง

 

การประกาศผลงาน 9th Single Senbatsu General Election ของวง BNK48 รูปแบบออนไลน์

การประกาศผลงาน 9th Single Senbatsu General Election ของวง BNK48 รูปแบบออนไลน์

 

กรณีศึกษาที่ชัดเจนที่สุด คือวง BNK48 ที่สร้างรากฐานของออนไลน์คอนเทนต์ไว้อย่างแข็งแกร่งมาตั้งแต่ต้น เช่น แอปพลิเคชัน iAM48, Digital Live Studio, Vlog และคลิปวิดีโอต่างๆ ที่สมาชิกในวงเป็นผู้สร้างสรรค์ ฯลฯ  

 

ทำให้ BNK48 สามารถรีดเร้นศักยภาพของออนไลน์คอนเทนต์ที่มีอยู่แต่เดิมมาใช้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์โควิด-19 จนเกิดเป็นคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น เช่น BNK48เล่าต่อเรื่อง ที่มอบหมายให้สมาชิกทุกคนอัดคลิปวิดีโอเล่านิทานต่อกันให้ครบ, Digital Live From Home ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการไลฟ์สดผ่านสตูดิโอที่มีผู้ชม มาเป็นการไลฟ์สดผ่านแอปพลิเคชัน Zoom, Greeting You Online กิจกรรมทางเลือกที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทดแทนงานจับมือที่ถูกเลื่อนออกไป โดยสามารถเข้าร่วมผ่านทางแอปพลิเคชัน iAM48 ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เข้ามาเชื่อมโยงให้สมาชิกและแฟนคลับได้กลับมาพบกันมากยิ่งขึ้น ฯลฯ

 

รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบของอีเวนต์ใหญ่แห่งปีอย่างงานประกาศผลเลือกตั้งครั้งที่ 2 9th Single Senbatsu General Election ที่ถูกจัดขึ้นผ่านออนไลน์เต็มรูปแบบ และถือเป็นงานเลือกตั้งออนไลน์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ 48Group 

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/SweatSixteen

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/FEVERTH/

 

ขณะที่วงไอดอลอีกหลายวงก็เริ่มสร้างสรรค์คอนเทนต์ออนไลน์ออกมาเสิร์ฟให้กับแฟนคลับมากขึ้น ไล่เรียงตั้งแต่ Sweat16 ที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบกิจกรรม Birthday Meet เป็นการไลฟ์สดแบบออนไลน์ เพื่อให้แฟนคลับสามารถร่วมฉลองวันเกิดของสมาชิกได้แม้จะอยู่ที่บ้าน พร้อมทั้งเปิดขายบัตรให้แฟนคลับสามารถวิดีโอคอลร่วมกับสมาชิก, การสร้างสรรค์คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่ให้เหล่าสมาชิกมาแนะนำกิจกรรมระหว่างกักตัวให้กับแฟนๆ, Sweat16 LIVE SPECIAL กิจกรรมที่เหล่าสมาชิกจะร่วมพูดคุยและทำกิจกรรมสุดพิเศษให้แฟนๆ ได้ชมในช่วงกักตัวผ่านการไลฟ์ ฯลฯ

 

วง Fever ที่ตัดสินใจเปิดตัวซิงเกิลใหม่อย่าง Stop! และ NGLMD ผ่านการไลฟ์สดบน Facebook

 

ค่าย Siamdol กับกิจกรรม Siamdol 1st Online Meeting ที่เปิดให้แฟนๆ ซื้อบัตรเพื่อร่วมพูดคุยกับเหล่าสมาชิกจากทั้ง 4 วงอย่าง Love Letter, SiamDream, AMERYU และ Sumomo แบบตัวต่อตัวผ่านทางแอปพลิเคชัน Zoom 

 

เช่นเดียวกับวง DAISY DAISY ที่จัดกิจกรรม Video Call “We Miss You” ที่เปิดให้แฟนคลับซื้อบัตรเพื่อพูดคุยกับสมาชิกผ่านทางแอปพลิเคชัน Zoom และค่าย Cm Cafe ที่เปิดให้แฟนๆ ซื้อบัตรเข้าร่วมจัดกิจกรรม ZOOM Call เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมพูดคุยกับสมาชิกจากยูนิต Honey Toast และ Daifuku 

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/spaceidolofficial

 

รวมถึงอีเวนต์สำคัญที่ถือเป็นการก้าวเข้าสู่การจัดคอนเสิร์ตไอดอลในรูปแบบ Live Interactive ครั้งแรกกับงาน Space Idol Music Fest 2020 คอนเสิร์ตออนไลน์เต็มรูปแบบที่รวบรวมศิลปินไอดอลถึง 11 วงมามอบความสุขให้กับแฟนคลับได้หายคิดถึงผ่านแอปพลิเคชัน Zoom พร้อมกิจกรรมพิเศษอย่าง Live Fan Meeting ที่ให้แฟนคลับมาร่วมพูดคุยกับไอดอลที่ชอบอีกด้วย

 

เหตุการณ์ครั้งนี้ได้ย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างสรรค์ออนไลน์คอนเทนต์รูปแบบต่างๆ เพื่อรักษาฐานแฟนคลับของตัวเองไปพร้อมๆ กับการดึงดูดฐานแฟนคลับกลุ่มใหม่ มากกว่าแค่การปล่อยเพลงและการจัดอีเวนต์อย่างที่เคยเป็น 

 

อีกทั้งยังเป็นการเน้นย้ำให้เห็นว่าในปี 2021 ออนไลน์คอนเทนต์จะเป็นอีกหนึ่งหนึ่งตัวแปรสำคัญที่ทุกค่ายต้องเริ่มลงมือสร้างสรรค์อย่างจริงจังมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ใช่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับวงเพียงอย่างเดียว แต่หมายรวมถึงการเอาตัวรอดจากการ Disruption ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน และปรับตัวเพื่อเข้าสู่วิถีของ New Normal ในอนาคต

 

กำลังใจ: แม้ทุกอย่างจะหยุดนิ่ง แต่หน้าที่ของไอดอลไม่เคยหยุดพัก

 

ขณะที่วงไอดอลทุกวงต่างหาวิธีการปรับตัวอย่างขะมักเขม้นเพื่อข้ามผ่านวิกฤตในครั้งนี้ แต่พวกเธอก็ยังคงทำหน้าที่ของไอดอลอย่างไม่หยุดพัก ด้วยการส่งมอบรอยยิ้มและกำลังใจให้กับแฟนคลับ เจ้าหน้าที่และบุคลากรทางการแพทย์ และคนไทยทุกคน เพื่อร่วมกันก้าวผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปด้วยกัน

 

 

 
 
 
 
 
View this post on Instagram
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 

 

A post shared by Cherprang BNK48 (@cherprang.bnk48official)

 

กิจกรรม #washyourhandschallenge จากวง BNK48 

 

 

แคมเปญ เพื่อใครสักคน จากวง CGM48 

 

เริ่มต้นกันที่ BNK48 กับกิจกรรม #washyourhandschallenge ที่สมาชิกร่วมกันสร้างสรรค์คลิปวิดีโอเพื่อเชิญชวนให้แฟนๆ ล้างมืออย่างถูกวิธี 

 

ขณะที่วงน้องสาวจากแดนเหนืออย่าง CGM48 ก็ได้สร้างสรรค์แคมเปญ เพื่อใครสักคน คลิปวิดีโอที่จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อกลางในการขอบคุณบุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ไฟป่าที่มุ่งมั่นตั้งใจในการปฏิบัติหน้าที่อย่างสุดความสามารถ 

 

 

คลิปแนะนำการทำ DIY: Face Shield จากวง Sweat16

 

ตามมาด้วยวง Sweat16 ที่สมาชิกร่วมกันทำคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการป้องกันโควิด-19 ออกมาอย่างหลากหลาย เช่น DIY: Face Shield เพื่อเชิญชวนแฟนๆ มาร่วมออกแบบเฟซชีลด์ของตัวเอง, คลิปแนะนำวิธีการออกกำลังกายภายในบ้าน รวมถึงคอนเทนต์ Do & Don’t แนะนำสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/FEVERTH/

 

วง Fever กับการจัดกิจกรรมพิเศษในชื่อ Fever Live Heart From Home โดยที่สมาชิกจะมาไลฟ์สดเพื่อเปิดหน้าไมค์ให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในธุรกิจส่วนตัวต่างๆ ได้มาฝากร้านและพูดคุยกับสมาชิก

 

 

เพลง หัวใจใกล้กัน… Touch by Heart จากวง BNK48 และ CGM48

 

 

เพลง จะไม่ทิ้งกัน (Cover) จากวง Sweat16 

 

 

เพลง HEAL FROM HOME จากวง DAISY DAISY

 

ไม่เพียงเท่านั้น เหล่าวงไอดอลจากหลายค่ายต่างร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์บทเพลงสุดพิเศษด้วยรูปแบบ Work from Home ทุกขั้นตอน เพื่อส่งมอบกำลังใจให้กับทุกคน

 

ไม่ว่าจะเป็น BNK48 และ CGM48 ร่วมกันสร้างสรรค์บทเพลง หัวใจใกล้กัน… Touch by Heart, วง Sweat16 ที่นำบทเพลง ‘จะไม่ทิ้งกัน’ ของศิลปิน บอย โกสิยพงษ์ มาคัฟเวอร์ในรูปแบบของตัวเอง, วง DAISY DAISY ที่หยิบเพลง HEAL ของตัวเองมาสร้างสรรค์เป็นมิวสิกวิดีโอสุดพิเศษในชื่อ HEAL FROM HOME ฯลฯ 

 

 

เพลง จากฉันส่งถึงเธอ (Social Distancing Ver.) จากไอดอลกว่า 34 ชีวิต

 

รวมถึงโปรเจกต์สุดพิเศษที่รวบรวมเหล่าไอดอลกว่า 34 ชีวิต ได้แก่ สมาชิกจากค่าย Cm Cafe, Sweat16, DAISY DAISY, Tossagirls, Secret12, The Glass Girls, Aster, WISH23, GRANITA, School Day, Shining Stars, RESWEET และ GIE, KOOKKAI มาร่วมกันถ่ายทอดบทเพลง จากฉันส่งถึงเธอ (Social Distancing Ver.) 

 

และอีกหลายวงที่เราไม่ได้หยิบยกมากล่าวถึง ซึ่งสิ่งเหล่านี้ได้สะท้อนภาพให้เราเห็นว่า พวกเธอไม่ได้ถูกเรียกว่า ‘ไอดอล’ เพียงแค่ชื่อเท่านั้น แต่พวกเธอคือไอดอลผู้คอยมอบรอยยิ้มและกำลังใจให้กับแฟนๆ อย่างที่พวกเธอตั้งใจจริงๆ แม้ว่าหลายสิ่งอย่างจะไม่เป็นใจนักก็ตาม

 

ภาพประกอบโดย: https://www.facebook.com/bambamfingerscross

 

การเมือง: เสียงของเหล่าไอดอล เสียงของเหล่าคนรุ่นใหม่

 

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่เราไม่อาจมองข้าม คือการออกมาแสดงทัศนะทางการเมืองของเหล่าไอดอล ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์สำคัญที่ถูกหยิบยกมากล่าวถึงอย่างกว้างขวางบนโลกโซเชียลมีเดีย

 

หนึ่งในเหตุการณ์ที่ถูกพูดถึงมากที่สุด เริ่มต้นหลังจากเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมตัวกลุ่มแกนนำจำนวน 21 คน ที่จัดการชุมนุมบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในวันที่ 13 ตุลาคม ซึ่งเป็นการจุดชนวนให้ประชาชนร่วมกันออกมาสนับสนุนให้ทุกฝ่ายเคารพสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องให้หยุดคุกคามประชาชน รวมถึงเหล่าศิลปิน นักแสดง และคนวงการบันเทิงต่างเริ่มออกมาแสดงจุดยืนเพื่อสนับสนุนข้อเรียกร้องดังกล่าวผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเองอย่างล้นหลาม จนเกิดแฮชแท็ก #วันนี้ดาราCallOutหรือยัง ขึ้นอย่างรวดเร็ว 

 

(อ่านบทความ #วันนี้ดาราCallOutหรือยัง เมื่อคนบันเทิงไทยร่วมแสดงจุดยืนไม่ให้คุกคามประชาชน พร้อมเรียกร้องสิทธิเสรีภาพและประชาธิปไตยได้อย่างปลอดภัย ต่อได้ที่ https://thestandard.co/thai-celebrities-standing-up-for-not-threaten-people/)

 

สมาชิกไอดอลจากหลายวงคือหนึ่งในกลุ่มศิลปินที่ออกมาร่วม Call Out ผ่านโซเชียลมีเดียเช่นเดียวกัน โดยไฮไลต์สำคัญที่ทำให้วงการไอดอลถูกหยิบยกมาพูดถึงอย่างกว้างขวางในเวลานั้น คือการเปิดบทสนทนาเกี่ยวกับประเด็นการเมืองของสองสมาชิกจาก BNK48 อย่าง เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ และ ฝ้าย-สุมิตรา ดวงแก้ว ผ่านทางไลฟ์สดบน Instagram ของพวกเธอในคืนวันเดียวกัน 

 

ซึ่งหัวข้อสนทนาที่เจนนิษฐ์และฝ้ายหยิบยกมาพูดถึง ไม่ได้มีเพียงประเด็นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้น แต่พวกเธอยังชวนแฟนคลับและผู้ชมร่วมกันตั้งคำถามถึงระบบการศึกษาของประเทศที่วางรากฐานให้นักเรียนและกลุ่มคนรุ่นใหม่คิดว่า ‘การเมืองเป็นเรื่องไกลตัว’ และการแสดงทัศนะเกี่ยวกับการชุมนุมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องถือเป็นสิทธิที่ทุกคนสามารถออกมาเรียกร้องได้อย่างเสรีเช่นเดียวกับต่างประเทศ 

 

ไปจนถึงการก่อตั้งกลุ่ม ‘ไอดอลปลดแอก’ ขึ้นเพื่อพูดคุยและแบ่งปันข่าวสารเกี่ยวกับการเมืองให้สมาชิกคนอื่นๆ และบทสนทนาของพวกเธอก็ส่งให้แฮชแท็ก #ไอดอลปลดแอก พุ่งติดเทรนด์ Twitter อย่างรวดเร็ว (อ่านบทความ รวมบทสนทนา ‘ไอดอลปลดแอก’ เจนนิษฐ์ และ ฝ้าย BNK48 ไลฟ์ชวนคุยเรื่องม็อบ การเมือง ประวัติศาสตร์ และประชาธิปไตย ต่อได้ที่ 

https://thestandard.co/bnk48-liberal-idol-conversation-with-fai-and-jennis/)

 

อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ทุกคนไม่มีวันลืม คือเหตุการณ์สลายการชุมนุมด้วยรถฉีดน้ำแรงดันสูงบริเวณแยกปทุมวันเมื่อค่ำคืนวันที่ 16 ตุลาคม และเป็นอีกครั้งที่เหล่าไอดอลต่างออกมาต่อต้านการใช้ความรุนแรงกับประชาชน 

 

หลังจากที่เกิดกระแสแฮชแท็ก #ไอดอลปลดแอก ทำให้ผู้คนจำนวนมากเริ่มมองเห็นการออกมาแสดงจุดยืนของสมาชิกไอดอลวงอื่นๆ มากขึ้น เช่น CGM48, Sweat16, Fever, Sumomo, Siamdream, Ameryu, AKIRA-KURØ, Secret12, Finger Cross ฯลฯ พร้อมทั้งเรายังได้เห็นภาพของไอดอลหลายคนต่างออกไปร่วมการชุมนุมมากขึ้นอีกด้วย (อ่านบทความ ‘เมล็ดพันธุ์อันผลิบาน’ รวบรวมทัศนะศิลปินไทยแสดงออกถึงการต่อต้านการใช้ความรุนแรงทางการเมือง ต่อได้ที่ https://thestandard.co/thai-artists-expressed-their-resistance-to-political-violence/)

 

 

เพลง  ViVA LA RESiSTANCE จากวง AKIRA-KURØ 

 

 

เพลง สู้แต่ต้องไม่ตาย จากวง Fingers Cross 

 

นอกจากการออกมาแสดงจุดยืนทางการเมืองของเหล่าไอดอลแล้ว บทเพลงถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ถูกนำมาใช้เพื่อแสดงทัศนะของพวกเธอ เช่น ViVA LA RESiSTANCE จากวงจิกะไอดอลสุดดาร์กอย่าง AKIRA-KURØ และเพลง สู้แต่ต้องไม่ตาย จากสี่สาววง Fingers Cross 

 

Fingers Cross เปิดการแสดงกลางที่ชุมนุมบริเวณหน้าธนาคาร SCB สาขารัชโยธิน ในวันที่ 25 พฤศจิกายน

รับชมได้ที่นี่: https://www.facebook.com/watch/?v=386076999267456

 

ซึ่งเหล่าสมาชิกจากวง Fingers Cross อย่าง หยก-ศุภัทรา พันชะนะ, แบมแบม-กนกอร อิศรานนท์, แบม นิภาภัทร สิงหวีระสมรม และ ณัฏฐ์-ธัญชณัท เอกจิรวรรธ ถือเป็นอีกหนึ่งวงไอดอลที่เรามักจะเห็นพวกเธอตามสถานที่ชุมนุมอยู่บ่อยครั้ง โดยวันที่ 25 พฤศจิกายน พวกเธอได้จัดการแสดงของตัวเองกลางที่ชุมนุมบริเวณหน้าธนาคาร SCB สาขารัชโยธิน ซึ่งมีเหล่าแฟนคลับมาร่วมให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย

 

เมื่อการแสดงออกทางการเมืองของวงไอดอลเริ่มได้รับการกล่าวถึง คำถามต่อมาที่ใครหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยคือ ‘ไอดอลควรพูดเรื่องการเมืองหรือไม่’  

 

หากมองเพียงภาพลักษณ์ภายนอก พวกเธออาจจะดูเป็นเหล่าเด็กสาวผู้เปี่ยมไปด้วยความสดใส น่ารัก และมีแรงปรารถนาที่เปี่ยมล้นเพื่อไล่ตามความฝันของแต่ละคน

 

แต่ภายใต้เสื้อผ้าหน้าผมแสนน่ารักและรอยยิ้มที่สดใส พวกเธอต่างเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงทัศนะทางการเมืองของตัวเอง ที่มองเห็นปัญหาและอยากจะผลักดันให้ประเทศของเราเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น และเสียงของพวกเธอก็ถือเป็นเสียงของประชาชนคนหนึ่งเช่นเดียวกับเราทุกคน

 

และหากจะต้องตอบคำถามที่ว่า ‘ไอดอลควรพูดเรื่องการเมืองหรือไม่’ ให้ชัดเจนมากกว่านี้ ก็คงไม่มีคำตอบไหนที่ดีไปกว่าสิ่งที่พวกเธอเองเป็นคนพูด เราจึงขอทิ้งท้ายเรื่องราวตลอดปี 2020 ของวงการไอดอลไทยด้วยประโยคหนึ่งของ บีมบีม-กมลพร โกสียรักษ์วงศ์ หนึ่งในสมาชิกวง Fever ที่ตอบคำถามนี้ไว้อย่างตรงไปตรงมาผ่านรายการ #POPLiveXFever ว่า

 

“อยากรู้จังว่าใครเป็นคนพูดว่าไอดอลไม่ควรพูดเรื่องการเมือง มันรู้สึกแปลกๆ แล้วหรือเปล่ากับบางเรื่องที่ต้องพูดแต่พูดไม่ได้

 

การที่บีมหรือดาราอีกหลายคนออกมาแสดงจุดยืน บีมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่ต้องทำ เราเห็นกันอยู่แล้วว่ามันผิดปกติไปหมดเลย บีมอาจจะไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงหรือมีอิมแพ็กมากๆ ขนาดนั้น แต่รู้สึกว่าการที่บีมมาทำอย่างนี้ก็ทำให้บางคนเห็นว่า เฮ่ย น้องเขายังออกมาเลยนะ แล้วก็หวังว่าจะเป็นคนหนึ่งที่จุดประกายให้คนอื่นๆ รู้สึกว่าถึงเวลาแล้วหรือเปล่าที่จะต้องออกมาพูดอะไรสักอย่าง หรือต้องทำอะไรสักอย่างเพื่ออนาคตของเรา

 

การมาอยู่ตรงนี้แล้วพูดอะไรบางอย่างออกไป บีมก็มีสิ่งที่เสียไปเหมือนกัน คือคนอาจจะคิดว่าบีมไม่ได้ดังมาก ไม่มีงานให้เสีย บีมเสียสิ ใครจะไม่มีอะไรให้เสีย ถูกไหม มันมีสิ่งที่ต้องเสียไปอยู่แล้ว บางคนเขาก็ไม่ชอบให้เรามาพูดเรื่องนี้ แต่บีมก็อยากยืนยันอยู่เหมือนเดิมค่ะ ว่าบีมจะพูดต่อไป และหวังว่าทุกคนก็จะออกมาพูดเหมือนกัน และไม่อยากให้มันเงียบหายไป”

 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising