สถานีโทรทัศน์ CNN Business ได้สัมภาษณ์พิเศษ Nate Abderson ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Hindenburg Research ผู้สร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักในแวดวงการลงทุนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาในฐานะนักลงทุน Short Seller หรือนักเก็งกำไรในช่วงหุ้นขาลง ซึ่งจะคอยหาหุ้นที่มีมูลค่าสูงเกินไป (Overvalued) และมีงบการเงินที่ไม่ชอบมาพากล สวนทางกับแนวทางส่วนใหญ่ของตลาดที่นักลงทุนจะเลือกลงทุนหรือซื้อในช่วงที่หุ้นกำลังขึ้นและเทขายในจังหวะที่หุ้นกำลังตก
ทั้งนี้ Anderson ให้เห็นผลว่าภาพรวมของตลาดทุนในปัจจุบันที่ล้นไปด้วยกระแสทุนไหลเข้าอย่างต่อเนื่อง ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะมองหาหุ้นที่ต่ำกว่ามูลค่าตลาด และตลาดทุนยังคงอยู่ไกลจากการปรับฐาน ดังนั้นการมองหาโอกาสจากหุ้นที่มูลค่าเกินความเป็นจริงในตลาดจึงเป็นเรื่องที่ง่ายกว่า
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ Anderson สนใจเข้าไปลงทุนไม่ใช่เพราะว่าบริษัทเหล่านั้นมีมูลค่าเกินจริงเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะบริษัทเหล่านั้นล้วนก้าวเข้ามาในตลาดผ่านการควบรวมกิจการกับบริษัทที่จัดอยู่ในกลุ่ม SPAC (Special Purpose Acquisition Companies) หรือบริษัทที่สร้างขึ้นมาเพื่อระดมเงินทุนไปซื้อบริษัทอื่น โดย Anderson ยอมรับว่า แม้ SPAC จะค่อนข้างมีภาพลักษณ์ทางลบ แต่ SPACs ก็เป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยบริษัทระดมทุน ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแย่อะไรหากจะเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีการทำ SPAC ที่ดี
ขณะเดียวกันการรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูลแบบเจาะลึก ก็เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้การลงทุนในหุ้นขาลงสร้างผลตอบแทนกลับคืนมาได้ โดยเป้าหมายส่วนใหญ่ที่ Anderson ลงมือศึกษาวิเคราะห์ล้วนเป็นบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็ก และส่วนใหญ่แม้จะมีงบการเงินที่มีปัญหา แต่ก็มีปัจจัยพื้นฐานบางตัวที่เหมาะจะเข้าไปซื้อขายในระยะสั้น
นอกจากนี้ Anderson ยังใช้โอกาสนี้โต้กลับนักลงทุนส่วนหนึ่งในตลาดที่ออกมากล่าวหาว่าเจ้าตัวพยายามดันราคาหุ้นให้ลดลงด้วยงานวิจัยของตนเองเพื่อทำกำไร ด้วยการย้ำว่า แนวทางของตนเป็นการลงทุนระยัะสั้นเป็นหลัก และน้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ ก่อนใช้โอกาสนี้เตือนให้นักลงทุนระวังช่วงขาขึ้นของตลาดในเวลานี้ เพราะขึ้นชื่อว่าหุ้นไม่มีทางขึ้นได้อยู่ตลอดเวลา
อ้างอิง:
