เกิดข่าวใหญ่ขึ้นทั่วโลกในวันนี้ (8 กรกฎาคม) หลังสื่อต่างประเทศรายงานว่า ชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว หลังถูกลอบยิงด้วยอาวุธปืนขณะกล่าวปราศรัยในเมืองนารา เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา
ชินโซะ อาเบะ วัย 67 ปี เป็นนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดของญี่ปุ่น
อาเบะมาจากตระกูลใหญ่ทางการเมืองของญี่ปุ่น โดยเป็นบุตรชายของ ชินทาโร อาเบะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ และเป็นหลานชายของ โนบุสุเกะ คิชิ อดีตนายกรัฐมนตรี
เส้นทางการเมืองของเขาเริ่มต้นเมื่อปี 1993 โดยในขณะนั้นเขาได้รับเลือกตั้งเข้าสู่สภาเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะขึ้นครองตำแหน่งนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดแห่งแดนซากุระในปี 2006-2007
ต่อมาในปี 2012 อาเบะได้รับเลือกให้เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นสมัยที่ 2 ซึ่งส่งผลให้เขาเป็นนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์จนถึงปี 2020
อาเบะเป็นนายกฯ สายเหยี่ยว ที่มุ่งมั่นสร้างให้ญี่ปุ่นมีบทบาทบนเวทีโลกมากขึ้น โดยเขาเป็นผู้นำที่ไม่ประนีประนอมในด้านการกลาโหมและนโยบายต่างประเทศ รวมถึงเป็นผู้สร้างยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ‘Abenomics’ ซึ่งเป็นนโยบายที่หวังกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่อยู่ในภาวะซบเซามายาวนาน ผ่านนโยบายลูกศร 3 ดอก ได้แก่ มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน การกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐ และการปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจ
ด้วยความที่เป็นผู้รักชาติอย่างแรงกล้า ทำให้บ่อยครั้งความคิดเห็นของอาเบะก่อให้เกิดความตึงเครียดระหว่างญี่ปุ่น จีน และเกาหลีใต้ อีกทั้งเขายังเป็นคนที่พยายามผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับสันติภาพ (Pacifist Constitution) เพื่อขยายบทบาทของกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น
ประชาชนที่ชื่นชอบในตัวอาเบะถึงกับตั้งฉายาว่าเขาเป็น ‘เจ้าชาย’ โดยเขาเป็นนักการเมืองฝ่ายขวา มีเสน่ห์ด้วยการพูดจาตรงไปตรงมา แต่ถึงเช่นนั้น ในช่วงหลังความนิยมของอาเบะและรัฐบาลของเขาลดน้อยลงเรื่อยๆ เนื่องจากมีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น การที่รัฐบาลทำบันทึกการจ่ายบำนาญสูญหาย จนกระทบต่อคำขอเงินบำนาญ 50 ล้านคำขอ
ในช่วงที่โควิดระบาดนั้น ความนิยมของอาเบะลดน้อยถอยลงไปกว่าเดิม เนื่องจากประชาชนไม่พอใจการรับมือกับวิกฤตโควิดที่ล่าช้าและขาดประสิทธิภาพ และท้ายที่สุดในปี 2020 ชินโซ อาเบะ ก็ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งนายกฯ ญี่ปุ่น หลังปัญหาสุขภาพรุมเร้า ยุติบทบาทการเป็นนายกฯ ที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น
เหตุอาชญากรรมจากอาวุธปืนถือว่าแทบไม่เคยเกิดขึ้นเลยในสังคมญี่ปุ่น เนื่องจากเป็นประเทศที่มีกฎหมายควบคุมอาวุธปืนเข้มงวดอย่างมาก เหตุการณ์ลอบสังหารอดีตผู้นำในวันนี้จึงถือเป็นเรื่องสะเทือนขวัญ ทำให้เกิดความสงสัยว่าเจตนาของคนร้ายคืออะไร และความปลอดภัยของประชาชนและนักการเมืองอยู่ตรงไหน
นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของภาคการเมืองญี่ปุ่น ซึ่ง THE STANDARD ขอร่วมแสดงความเสียใจกับการสูญเสียบุคลากรคนสำคัญ ผู้ตั้งมั่นด้วยอุดมการณ์ที่จะสร้างความมั่นคงและเฟื่องฟูให้กับญี่ปุ่นตลอดมา
บรรยาย: พลวุฒิ สงสกุล
ตัดต่อ: ธัชพร ตั้งตระกูล