หนึ่งในธุรกิจที่ดูเหมือนจะสร้างเม็ดเงินให้กับเมียนมาภายหลังจากการเปิดประเทศคงจะหนีไม่พ้น ธุรกิจการซื้อขายเส้นผมที่ทำกำไรได้จำนวนมากในแต่ละปี ซึ่งนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา รายงานสหประชาชาติระบุว่าเมียนมากลายเป็นผู้ส่งออกเส้นผมรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก
โดยเฉพาะในปี 2017 ที่ผ่านมา เมียนมามีรายได้จากการส่งออกเส้นผมสูงถึง 6.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 205 ล้านบาท) โดยส่งออกเส้นผมหนักเทียบเท่ากับน้ำหนักรถยนต์มาตรฐาน 1,160 คัน ซึ่งบรรดาเส้นผมในตลาดโลกจะไปรวมกันอยู่ที่ประเทศรับซื้อรายใหญ่อย่างจีนที่ทำธุรกิจด้านวิกผมและอุปกรณ์เสริมความงามด้านเส้นผมครบวงจร รวมถึงตลาดของกลุ่มคนผิวสีในสหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา แอฟริกาใต้ และไนจีเรีย
ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ของชาวเมียนมา ธุรกิจซื้อขายเส้นผมจากหญิงสาวชาวเมียนมาจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ เนื่องจากมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยตัดสินใจโกนศีรษะบวชชีตามความเชื่อของชาวพุทธในเมียนมาเพื่อเป็นสิริมงคล ต้อนรับสิ่งดีๆ ในปีใหม่
เส้นผมที่มีการซื้อขายกันในเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากการตัดผมใหม่ในทันที แต่เกิดจากการรับซื้อตามร้านตัดผมหรือเส้มผมที่หลงเหลืออยู่บนหวี ซึ่งจะมีราคาอยู่ที่ราวๆ 55 เซนต์ต่อเส้นผมน้ำหนัก 1 ออนซ์ โดย Win Ko หนึ่งในนักลงทุนด้านเส้นผมระบุว่า “ผู้คนทั่วโลกต่างต้องการเส้นผมจากเมียนมา เพราะเมื่อมันถูกสระด้วยยาสระผมและครีมบำรุงผมแล้วจะมีสีราวกับไข่มุก”
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: