×

Shia LaBeouf บำบัดอาการป่วยทางจิต PTSD ด้วยการเขียนบท Honey Boy ที่เขาแสดงเป็นพ่อของตัวเอง

06.11.2019
  • LOADING...
Honey Boy

ไชอา ลาบัฟ นักแสดงหนุ่มวัย 33 ปี ผู้เขียนบทภาพยนตร์ Honey Boy เพิ่งได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม Hollywood Breakthrough Screenwriter Award จากงานประกาศรางวัล Hollywood Film Awards ครั้งที่ 23 ที่ลอสแอนเจลิส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (3 พฤศจิกายน) โดยเขาได้ขึ้นกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมเขาในเดือนกรกฎาคม ปี 2017 เนื่องจากอาการมึนเมาในที่สาธารณะ ทั้งยังหยาบคาย ก้าวร้าว ปฏิเสธและพยายามหลบหนีการจับกุม จากเหตุการณ์นี้เขาต้องจ่ายค่าปรับ 2,680 ดอลลาร์สหรัฐ และส่งผลต่อเนื่องให้เขาเข้ารักษาในสถานบำบัด และที่นี่เองที่ลาบัฟได้รับการวินิจฉัยว่ามีอาการป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรง (PTSD)

 

“ผมอยากจะขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จับกุมผมในรัฐจอร์เจียวันนั้น มันเป็นเหตุการณ์ที่เปลี่ยนชีวิตผมไปเลย” 

 

ระหว่างที่บำบัด ลาบัฟได้เขียนบทภาพยนตร์เกี่ยวกับชีวิตของเขาในชื่อ Honey Boy ซึ่งเป็นเรื่องราวของ โอทิส นักแสดงหนุ่มดาวรุ่งที่กำลังไปได้ดีในวงการ แต่กลับทำตัวไร้การควบคุมและคอยแต่จะสร้างปัญหาตลอดเวลา จิตแพทย์วินิจฉัยว่าพฤติกรรมของเขาเป็นผลพวงมาจากชีวิตวัยเด็กที่บกพร่อง และส่วนหนึ่งของความบกพร่องที่ว่านั้นมาจากพ่อที่คอยบังคับขู่เข็ญตลอดมา โอทิสพยายามปฏิเสธว่าคำกล่าวของหมอไม่ใช่ความจริง พร้อมกับค่อยๆ ย้อนกลับไปทบทวนชีวิตที่ผ่านมาของตนเอง และทำความเข้าใจผู้เป็นพ่อใหม่อีกครั้ง

 

แน่นอนว่าสำหรับลาบัฟแล้ว บทภาพยนตร์เรื่องนี้นอกจากจะเป็นคำสารภาพและคำขอโทษแล้ว มันยังเป็นรูปแบบหนึ่งของการบำบัดที่หยั่งรากลึกลงไปในอาการป่วยทางจิตจากเหตุการณ์รุนแรงที่เขาได้เผชิญในวัยเด็ก

 

Honey Boy

ไชอา ลาบัฟ กับโนอาห์ จูป นักแสดงที่รับบทเป็นโอทิสในวัยเด็ก

 

ในชีวิตจริงลาบัฟไม่ได้มีชีวิตที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาเป็นลูกชายคนเดียวของ เจฟฟรีย์ ทหารผ่านศึกสงครามเวียดนาม และ เชย์นา นักออกแบบเสื้อผ้าและจิวเวลรี ครอบครัวของเขาค่อนข้างยากจน อาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์ตรงข้าม Echo Park ลอสแอนเจลิส ลาบัฟเคยอธิบายพ่อแม่ของเขาว่าเป็นฮิปปี้ “เขาค่อนข้างแตกต่างจากคนอื่น แต่พวกเขาก็รักผม และผมก็รักพวกเขา” ครั้งหนึ่งพ่อของลาบัฟเคยถือปืนเล็งมาที่เขา เนื่องจากเกิดอาการหลอนจากสงครามเวียดนาม นอกจากนี้เขายังเคยถูกทารุณทางจิตใจและคำพูด พร้อมๆ กับการเห็นพ่อติดเฮโรอีนและแอลกอฮอล์

 

แต่ถึงอย่างนั้น ปัญหาชีวิตที่รุมเร้ากลับเป็นประตูที่เปิดไปสู่โลกอีกใบ เมื่อลาบัฟอายุได้ 10 ปี เขาไปเล่นเซิร์ฟกับพ่อที่มาลิบู ตอนนั้นเขาได้เจอกับเด็กรุ่นราวคราวเดียวกันสวมเสื้อผ้าและอุปกรณ์เล่นเซิร์ฟราคาแพงอย่างที่เขาไม่กล้าฝันถึง “ผมถามเขาว่าทำงานอะไร แล้วเขาก็ตอบว่าเป็นนักแสดง” เด็กคนนั้นยังแนะนำให้ลาบัฟลองติดต่อโมเดลลิ่งดู และเมื่อเขาลองติดต่อด้วยการเปิดหารายชื่อบริษัทโมเดลลิ่งจากสมุดหน้าเหลือง โชคก็เป็นของเขา เมื่อได้เซ็นสัญญาและได้งานแสดงอย่างรวดเร็วกับซีรีส์อย่าง Caroline in the City (1998), Suddenly Susan (1999), The X-Files (1999), ER (2000), Freaks and Geeks (2000) และรับบท หลุยส์ สตีเวนส์ ในซีรีส์ Even Stevens (2000-2003) ทางช่องดิสนีย์จนทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จัก ก่อนจะเริ่มรับงานแสดงภาพยนตร์ จนกระทั่งปี 2007 ที่ชื่อของเขาเริ่มโด่งดังไปพร้อมๆ กับ Disturbia, Surf’s Up และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Transformers ภาพยนตร์ที่เปลี่ยนชีวิตเขาให้กลายเป็นดาวรุ่งของฮอลลีวูดในทันที

 

 

Honey BoyEven Stevens (2000-2003) และ Transformers (2007)

 

วีรกรรมติสท์แตกหลุดโลกของลาบัฟเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งทำให้ชื่อเสียงของเขาอยู่ในแดนลบ จนกระทั่งเขาเข้ารับการบำบัดในปี 2017 หลังจากนั้นได้ให้สัมภาษณ์กับ Esquire US ไว้ว่ามันคล้ายกระบวนการเปิดปากแผล ปล่อยให้เลือดไหลออกมาจนกว่าจะหยุด “คุณต้องพูดเกี่ยวกับมันไปเรื่อยๆ ขุดคุ้ยมันขึ้นมา นึกถึงมัน นึกถึงกลิ่นหรือทางไหนก็ได้ที่คุณจะกลับไปสู่จุดนั้น และส่วนใหญ่มันเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับพ่อ เขาเป็นเหมือนน้ำมันให้กับชีวิตผม” 

 

จะบอกว่าพ่อเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญของชีวิตเขาก็คงไม่ผิด แม้จะมีความหลังวัยเด็กที่หนักหนา แต่หลังรับงานแสดงเพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัว พ่อของเขาก็คอยอยู่ในกองถ่ายกับเขาตลอดเวลา คอยยืนอยู่ใกล้ๆ กล้องเพื่อที่ลาบัฟจะได้มีสมาธิไปกับการทำงาน ถึงปัจจุบันเขายังยืนยันว่าการที่เขามาเป็นนักแสดง เหตุผลทั้งหมดก็คือพ่อคนเดียวกันนี้

 

การรับบทเป็นพ่อของตัวเองในภาพยนตร์ Honey Boy สำหรับลาบัฟไม่ต่างจากการบำบัดด้วยการสวมบทบาทเป็นอีกฝ่ายที่เรามีปมปัญหาด้วย มันทำให้เขาเข้าใจตรรกะ วิธีคิด และสิ่งที่พ่อของเขาต้องเผชิญในช่วงเวลานั้น ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็ช่วยคลี่คลายให้เข้าใจได้ว่าสิ่งที่พ่อกระทำกับเขาแบบนั้นเป็นเพราะอะไร

 

ลาบัฟยังได้ให้สัมภาษณ์กับ MTV News ว่าการเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้ช่วยชีวิตรวมถึงอาชีพการงานของเขาเอาไว้ “ผมกำลังหลงทางอย่างที่สุด ทั้งชีวิตผมเองและงานแสดง เหมือนเป็นจุดที่ต่ำที่สุดของผมแล้ว… ผมได้พบทางรอดชีวิตและกลับมามีชีวิตอีกครั้ง สิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง 5 ปีหลังมานี้ไม่ได้มาจากการทำงานกับสตูดิโอ แต่เป็นกลุ่มคนดีๆ ที่อยู่รอบตัวผม และผมก็ได้ใกล้ชิดกับครอบครัวอย่างที่ผมไม่เคยเป็นมาก่อน”

 

 

Honey Boy

ไชอา ลาบัฟ รับบทเป็นพ่อตัวเองในภาพยนตร์ Honey Boy

 

ผู้กำกับ อัลมา ฮาเรล ให้สัมภาษณ์กับ The Hollywood Reporter ว่าลาบัฟเขียนบทเสร็จระหว่างที่เขากำลังบำบัดและส่งอีเมลมาให้ ทันทีที่ได้อ่านเธอก็รู้เลยว่ามันจะกลายเป็นภาพยนตร์ และเริ่มคิดจะให้เขาแสดงเป็นพ่อของตัวเอง “ฉันว่ามันไม่ใช่แค่ภาพยนตร์เรื่องหนึ่ง การให้เขารับบทเป็นพ่อเป็นสิ่งที่ต้องใช้ความกล้าหาญมาก เสียสละ ทั้งยังเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับสภาพจิตใจของเขาด้วยเช่นกัน ตัวฉันเองที่เคยมีพ่อที่ติดแอลกอฮอล์ และรู้ว่ามีคนมากมายตกอยู่ในสภาพไม่ต่างกัน เราจึงร่วมมือกันสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อบอกเล่าเรื่องราวนี้”

 

Honey Boy ตั้งชื่อตามที่พ่อเรียกลาบัฟในช่วงวัยเด็ก และระหว่างถ่ายทำ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีชื่อเล่นว่า Jeffrey ตามชื่อพ่อของเขา

 

ตัวอย่างภาพยนตร์ 

 

 

ภาพ: David Livingston / Stringer, Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising