ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐฯ เรียกร้องให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กำหนดให้ Shein ยักษ์ฟาสต์แฟชั่นสัญชาติจีน เปิดเผยการบังคับใช้แรงงานก่อนการเสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในสหรัฐอเมริกา
คาดว่า Shein ซึ่งกำลังเตรียมเสนอขายหุ้น IPO ปลายปีนี้ จะมีมาร์เก็ตแคปกว่า 64,000 ล้านดอลลาร์ด้วยกัน
ยักษ์ใหญ่แห่งวงการฟาสต์แฟชั่นรายนี้ถูกกล่าวหาว่า ขูดรีดแรงงานจากชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ชายขอบในจีน นอกจากนี้บริษัทยังถูกกล่าวหาว่า รายงานเท็จเกี่ยวกับแรงงานบังคับหรือแรงงานที่ได้รับค่าจ้างต่ำเกินไปในโรงงานของซัพพลายเออร์ ซึ่งบางแห่งตั้งอยู่ในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ของจีน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Shein เป็นแบรนด์ที่ถูกค้นหามากที่สุดในโลก ด้วยการครองอันดับ 1 ใน 113 ประเทศ
- ไม่หวั่น! ฟาสต์แฟชั่นแข่งขันสูงรอบทิศ Inditex เจ้าของ ‘ZARA’ ทุ่ม 1.7 พันล้านดอลลาร์ เร่งขยายสาขา ZARA พร้อมรีโนเวตร้านใหม่กว่า 30 แห่งในอเมริกา
- ไม่หวั่นตลาดฟาสต์แฟชั่นแข่งเดือด! ‘Forever 21’ ฟื้นจากความตายในรอบ 3 ปี มุ่งปรับภาพลักษณ์แบรนด์จับวัยรุ่น หวังชิงมาร์เก็ตแชร์กลับคืนให้เร็วที่สุด
การปฏิบัติที่ถูกกล่าวหาเหล่านี้ละเมิดกฎหมายว่าด้วยการป้องกันแรงงานบังคับชาวอุยกูร์ปี 2021 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการนำเข้าสินค้าที่ใช้แรงงานบังคับจากภูมิภาคซินเจียง
ฝ่ายนิติบัญญัติ 24 คน เรียกร้องให้ ก.ล.ต. กำหนดให้ Shein ถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานอิสระว่าไม่ได้ใช้แรงงานบังคับก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ออกหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา
พร้อมเน้นย้ำว่า ไม่ควรให้การเข้าถึงตลาดทุนของสหรัฐฯ แก่บริษัทที่มีส่วนร่วมในแนวทางปฏิบัติทางธุรกิจที่ชั่วร้าย ซึ่งไม่เพียงคุกคามความมั่นคงของสหรัฐฯ เท่านั้น แต่ยังทำให้ชาวอเมริกันมีส่วนพัวพันในการละเมิดกฎหมายของสหรัฐฯ
เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลเหล่านี้ Shein ระบุว่า บริษัทยังคงรักษานโยบายในการที่จะไม่อดทนต่อการบังคับใช้แรงงาน และมุ่งมั่นที่จะเคารพสิทธิมนุษยชนทั่วทั้งซัพพลายเชน
ที่ผ่านมากลุ่มสิทธิมนุษยชนและรัฐบาลตะวันตก รวมทั้งสหรัฐฯ และอังกฤษ กล่าวหาจีนว่า บังคับใช้แรงงานและกักขังชาวอุยกูร์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิม ในขณะที่รัฐบาลจีนปฏิเสธเรื่องดังกล่าว
Shein ซึ่งก่อตั้งขึ้นในเมืองหนานจิง ประเทศจีน เมื่อปี 2008 ปัจจุบันมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นบริษัทฟาสต์แฟชั่นยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักจากการวางกลุ่มเป้าหมายเป็น Gen Z ผ่านการโฆษณาบนแอปมือถือ เช่น TikTok และการร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลทางโซเชียลมีเดีย
จุดนี้เองทำให้ Shein ได้รับความนิยมในหมู่นักช้อปวัยหนุ่มสาวในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป ด้วยการนำเสนอแฟชั่นที่รวดเร็วในราคาที่ต่ำกว่าคู่แข่งหลายราย เช่น boohoo และ ASOS
อ้างอิง: