ในช่วงสิ้นปี 2018 ที่ผ่านมา ทาง DC ก็ได้ส่ง Aquaman ลงจอจนสามารถกอบโกยรายได้ไปอย่างถล่มทลายทั่วโลก และในตอนนี้เจ้าสมุทรก็พร้อมส่งไม้ต่อให้กับ Shazam ซูเปอร์ฮีโร่คนใหม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในจักรวาล DC
Shazam! ได้ เดวิด เอฟ. แซนด์เบิร์ก มารับหน้าที่ผู้กำกับ เขานี่แหละคือผู้ที่เคยสร้างความหลอนไว้ใน Lights Out และ Annabelle: Creation และยังได้ แซคารี ลีวาย ผู้ที่เคยเป็นเพียงนักรบแห่งแอสการ์ด จากภาพยนตร์เรื่อง Thor ของ Marvel มารับบทเป็น Shazam ตัวละครเด่นในจักรวาล DC ส่วน แอชเชอร์ แอนเจิล (จากซีรีส์ Andi Mack) รับบทเป็น บิลลี แบตสัน เด็กหนุ่มกำพร้าที่ใช้เวลาหลายปีออกเดินทางตามหาแม่ของตัวเอง
เนื้อเรื่องหลักๆ จะเล่าถึงชีวิตของบิลลี ที่วันหนึ่งต้องไปอยู่กับครอบครัวอุปถัมป์ ถูกดึงเข้าไปอยู่ในมิติลึกลับ และพบว่า ตัวเองได้รับเลือกให้มีพลังพิเศษ สามารถแปลงร่างเป็นซูเปอร์ฮีโร่ Shazam ได้
หนังเปิดเรื่องได้น่าสนใจมากๆ ที่ตั้งคำถามเรื่อง ‘คุณสมบัติ’ ของคนที่จะเข้ามาเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ว่าต้องเป็นคนที่จิตใจ ‘ดี’ เป็นที่ตั้ง หากแต่จากการคัดเลือกผู้ที่เหมือนจะเป็น ‘คนดี’ หลายคนก่อนหน้านี้ กลับไม่มีใครผ่านบททดสอบสุดท้ายได้แม้แต่คนเดียว
ซ้ำร้ายยังสร้างความคับแค้นใจให้กับ ดร.ธัสเดียส สิวานา หนึ่งในคนที่ไม่ผ่านการคัดเลือก และค้นพบว่า แท้จริงแล้วตัวเองไม่ใช่คนดีอย่างที่คิด และหันไปพึ่งพลัง ‘ด้านมืด’ เพื่อทำความต้องการของตัวเองให้สำเร็จ
สุดท้ายพลังที่ควรจะตกเป็นของคนดี ก็เลยถูกส่งมอบมาให้ บิลลี แบตสัน เด็กกำพร้าที่ทั้งเคยขโมยของ ป่วนตำรวจ ฯลฯ ที่มองจากภายนอกแล้วเขาคือคนที่ห่างไกลจากคำว่าคนดีมากที่สุด และก็เป็นเขานี่แหละที่กลายเป็นคนที่เหมาะสมกับการเป็นซูเปอร์ฮีโร่มากที่สุด
พลังของ Shazam เลยกลายเป็นสัญลักษณ์ที่เข้ามาพร่าเลือนเส้นแบ่งระหว่าง ‘ความดี’ และ ‘ความเหมาะสม’ ของการเป็น ‘ซูเปอร์ฮีโร่’ ได้อย่างน่าสนใจ
แต่ปัญหาที่ตามมาก็คือ ตัวหนังมีเวลาที่จะอธิบายเรื่องนี้น้อยเกินไป เพราะต้องเกลี่ยเวลาให้กับเส้นเรื่องอื่นๆ ในสัดส่วนที่เท่าๆ กัน ทั้งพาร์ตตลกที่ไม่ถึงกับหัวเราะลั่น แต่ก็ทำให้อมยิ้มได้ตลอดทั้งเรื่อง พาร์ตดราม่าที่ทำให้รู้สึกซึมๆ แต่ไม่ถึงขนาดหลั่งน้ำตาออกมา
ไปจนถึงฉากแอ็กชันนั้น สำหรับใครที่อยากจะเห็นการต่อสู้สุดดุเดือดตามสไตล์ซูเปอร์ฮีโร่ทั่วไป อาจจะต้องผิดหวังอยู่บ้าง เพราะดูท่า Shazam จะสร้างมาเพื่อตีตลาดฐานคนดูที่เป็นเด็กเป็นส่วนใหญ่ คือเน้นไปที่การเติบโตในช่วง Coming of Age ค่อนข้างสูง ซึ่งอาจจะเป็นการวางแผนเพื่อดึงฐานแฟนคลับอายุน้อยเข้ามาในจักรวาล DC ในเวลาต่อไป
นอกจากความเกรียน ความตลก และการ ‘ข้ามผ่าน’ ช่วงเวลาสำคัญ ใจความสำคัญอีกอย่างที่ซ่อนไว้ใต้เสียงหัวเราะคือ มิตรภาพระหว่างเพื่อน พี่น้อง และครอบครัวที่อบอุ่น ที่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับช่วงเวลาแห่งความสับสนของวัยรุ่น ที่ผู้ชมจะได้รับไปจากหนังเรื่องนี้เต็มๆ เหมาะกับการไปรับชมกับครอบครัวหรือเพื่อนอย่างยิ่ง
แต่อย่างที่บอกว่ามีหลายประเด็นที่ Shazam! พยายามพูดถึงมากเกินไปคือ บู๊ก็ต้องมี ตลกก็ต้องเอา เศร้าก็ห้ามทิ้ง อบอุ่นก็ขาดไม่ได้ ทำให้เรายังเห็นช่องโหว่และความไม่ปะติดปะต่อในการเชื่อมโยงเรื่องทั้งหมดอยู่บ้าง แต่ถ้าหวังเข้าไปเสพความบันเทิงแบบไม่ต้องคิดอะไรมาก Shazam! ก็ยังนับว่าเป็นตัวเลือกหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ที่แปลกใหม่และน่าสนใจทีเดียว
ตัวอย่างภาพยนตร์
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล