Seven & i Holdings Co บริษัทแม่ของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในญี่ปุ่น ส่งจดหมายปฏิเสธข้อเสนอซื้อกิจการจาก Alimentation Couche-Tard บริษัทค้าปลีกสัญชาติแคนาดา โดยระบุว่า ข้อเสนอดังกล่าว ‘ประเมินมูลค่าต่ำเกินไป’ และ ‘ไม่เป็นผลประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอื่นๆ ของ Seven & i’
การเปิดเผยจดหมายนี้ถือเป็นการตอบโต้ครั้งสำคัญของ Seven & i ต่อ Couche-Tard ที่ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการทั้งหมดด้วยเงินสดในราคา 14.86 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวมสูงถึง 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือราว 1.29 ล้านล้านบาท
ก่อนที่ Seven & i จะเปิดเผยจดหมายดังกล่าว อเล็กซ์ มิลเลอร์ ซีอีโอคนใหม่ของ Couche-Tard บอกกับนักลงทุนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (5 กันยายน) ว่า บริษัทมั่นใจในความสามารถของเราในการจัดหาเงินทุนและดำเนินการเข้าซื้อกิจการตามที่เสนอ
Seven & iให้เหตุผลในการปฏิเสธข้อเสนออย่างชัดเจน โดยระบุว่า คณะกรรมการบริษัทได้ข้อสรุปอย่างเป็นเอกฉันท์ในการปฏิเสธข้อเสนอ โดยอ้างอิงจากคำแนะนำของคณะกรรมการพิเศษที่ประกอบด้วยกรรมการอิสระ ซึ่งได้ตรวจสอบข้อเสนออย่างละเอียดถี่ถ้วน
หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ Seven & iหยิบยกขึ้นมาคือ Couche-Tard ‘ไม่ได้ตระหนักถึงความท้าทายต่างๆ’ ที่ Seven & iกำลังเผชิญอยู่ เช่น กฎระเบียบของสหรัฐฯ ที่ต่อต้านการผูกขาดตลาด ซึ่งอาจเป็นอุปสรรคสำคัญหากการเข้าซื้อกิจการเกิดขึ้นจริง เนื่องจาก 7-Eleven เป็นเครือข่ายร้านสะดวกซื้อที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสาขากว่า 85,000 แห่งใน 20 ประเทศและดินแดน
นอกจากนี้ฝ่ายบริหารของ Seven & iยังแสดงจุดยืนที่แข็งกร้าวว่า จะต่อต้านข้อเสนอใดๆ ที่กีดกันผู้ถือหุ้นจากมูลค่าที่แท้จริงของบริษัท หรือไม่สามารถแก้ไขปัญหาข้อกังวลด้านกฎระเบียบได้อย่างชัดเจน
ทาคาฮิโระ คาซาฮายะ นักวิเคราะห์จาก UBS SECURITIES ให้ความเห็นว่า ราคาที่ Couche-Tard เสนอนั้นต่ำเกินไป และหลังจากการเปิดเผยราคา โอกาสที่การเข้าซื้อกิจการจะเกิดขึ้นก็ยิ่งลดลงไปอีก เขาแนะนำว่า Couche-Tard ควรพิจารณาการออกหุ้นใหม่หรือการแลกเปลี่ยนหุ้นเพื่อเพิ่มแหล่งเงินทุน และควรตั้งราคาเสนอซื้อเริ่มต้นให้มีช่องว่างสำหรับการเพิ่มราคาในภายหลัง
ฮิราคุ สุกาวาระ นักวิเคราะห์จาก Iwai Cosmo Securities ก็มีความเห็นในทำนองเดียวกัน โดยมองว่า Seven & iอาจกำลังรอให้ราคาหุ้นของบริษัทฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ชะลอตัว
นอกจากนี้ เอเมอร์ แอนวาร์ซาเดห์ นักยุทธศาสตร์จาก Asymmetric Advisors บริษัทที่ปรึกษาด้านตราสารทุนอิสระของญี่ปุ่น ซึ่งมีสำนักงานในฮ่องกงและสิงคโปร์ มองว่า มีความเป็นไปได้ที่รัฐบาลญี่ปุ่นอาจเข้ามาแทรกแซงเพื่อปิดกั้นการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้ เช่นเดียวกับที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังปิดกั้นการเข้าซื้อกิจการ U.S. Steel ของ Nippon Steel
แม้จะปฏิเสธข้อเสนอในครั้งนี้ แต่ Seven & iก็ยังคงเปิดกว้างสำหรับการเจรจาและพร้อมที่จะพิจารณาข้อเสนอที่ดีกว่า หากการเข้าซื้อกิจการประสบความสำเร็จ จะทำให้เกิดบริษัทค้าปลีกขนาดยักษ์ที่มีร้านสะดวกซื้อกว่า 1 แสนแห่งทั่วโลก
อ้างอิง:
