×

สั่งเซ็ตซีโร่ขึ้นทะเบียนห้องเย็นทั่วประเทศ พบนักการเมืองใหญ่-ข้าราชการ เอี่ยวปมหมูเถื่อน คาดปัญหาคลี่คลายต้นปี 67

โดย THE STANDARD TEAM
24.11.2023
  • LOADING...
หมูเถื่อน

วันนี้ (24 พฤศจิกายน) ที่ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย บัญชา สุขแก้ว รองอธิบดีกรมประมง, พล.ต.ต. เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.), พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ นสพ.สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ แถลงความคืบหน้าเรื่องการปราบปรามการนำเข้าหมูเถื่อน

 

นสพ.สมชวน กล่าวว่า เริ่มจากวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เราเข้าตรวจสอบห้องเย็น 2,210 แห่ง ประกอบด้วย ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมปศุสัตว์, ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม, ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการค้าภายใน, ห้องเย็นที่ขึ้นทะเบียนกับกรมประมง และห้องเย็นที่ไม่ขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานใดเลย มี 1,100 แห่ง

 

ทั้งนี้ ชิ้นส่วนซากสัตว์ที่ถูกอายัดและดำเนินคดี ตามการบังคับใช้กฎหมายพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ. 2559 รวมมูลค่า 287.72 ล้านบาท เป็นซากโค-กระบือ 441,336 กิโลกรัม, ซากสุกร 689,649 กิโลกรัม และซากสัตว์ปีก 1,467,337 กิโลกรัม รวม 2,568,322 กิโลกรัม ทั้งหมดอยู่ในพื้นที่ 35 จังหวัด มี 92 คดี โดยเป็นคดีที่ผิดในประเทศ เช่น โรงฆ่าเถื่อน, นำเนื้อจำหน่ายโดยไม่มีแหล่งที่มา หรือมีแหล่งที่มาแต่ไม่ดำเนินการขออนุญาตให้ถูกต้อง

 

ด้านบัญชากล่าวว่า กรมประมงดำเนินการตามนโยบายกระทรวงเกษตรฯ อย่างเคร่งครัด ตั้งชุดฉลามขาว และให้ประมงจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ตรวจสอบห้องเย็น 2,062 แห่ง ส่วนประเด็นนำเข้าสัตว์เถื่อนได้เร่งรัดดำเนินการนำข้อมูลประสานกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรณีมีหลักฐานพบว่าเป็นสัตว์น้ำหรือสัตว์ชนิดอื่น กรมประมงจะเร่งรัดมาดำเนินการต่อไป

 

ดีเอสไอเผย มีข้าราชการ-นักการเมืองใหญ่เกี่ยวข้อง

 

พ.ต.ต. สุริยา กล่าวว่า สืบเนื่องจากกรมศุลกากรได้ส่งหมูเถื่อน ซึ่งเป็นของกลาง จำนวน 161 ตู้ ให้ดีเอสไอพิจารณาเป็นคดีพิเศษ ช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาทางดีเอสไอเร่งรัดดำเนินการกับหน่วยบูรณาการทั้งหมด ผลการสืบสวนสอบสวนเรามีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อว่า กลุ่มขบวนการที่เรากำลังทำเป็นคดีพิเศษนั้นเป็นองค์กรอาชญากรรมที่ส่งผลกระทบรุนแรงต่อความมั่นคงทางอาหารและอาชีพเกษตรกร

 

ทั้งนี้ องค์กรอาชญากรรมประกอบด้วย กลุ่มนายทุน กลุ่มข้าราชการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกลุ่มข้าราชการฝ่ายการเมือง จากพยานหลักฐานที่ดีเอสไอตรวจสอบพบว่าในคดีมีความเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ เราจึงส่งสำนวนไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งเป็นคดีแรก

 

ระหว่างที่เราดำเนินการในคดีของกลาง 161 ตู้ ทำให้เราพบว่าแผนประทุษกรรมของกลุ่มขบวนการนี้ ได้มีการนำเข้ามาในช่วงที่ห้ามนำเข้าเศษซากหมู ปี 2564-2566 จำนวน 2,385 ตู้ พบว่ามีขบวนการในกลุ่มแรกที่ดำเนินคดีและส่ง ป.ป.ช. ไปแล้ว จะทำไม่ได้เลยหากไม่มีดีมานด์ของกลุ่มถัดมา ซึ่งเป็นกลุ่มที่สองที่เรากำลังดำเนินการ คือมีผู้ต้องหา 1 รายที่เข้ามอบตัว ในสัปดาห์ถัดไปจะเห็นความคืบหน้าของตัวละครที่ต้องการหมูเถื่อนที่จะไประบายให้กับผู้บริโภค เราจะไม่เอาไว้ ถึงเป็นใครก็จะดำเนินการทั้งหมด 

 

“นโยบาย รมว.ยุติธรรม ได้สั่งการมายังดีเอสไอให้เร่งรัดดำเนินการและเอาผิดกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเกี่ยวข้องกับบุคคลใด ระดับใด หรือเป็นผู้มากอิทธิพลในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งคดีที่ค้างอยู่เราดำเนินควบคู่กับ ป.ป.ง. ควบคู่กับการยึดทรัพย์ด้วย” พ.ต.ต. สุริยา กล่าว

 

ยึดทรัพย์แล้ว 53 ล้านบาท

 

พล.ต.ต. เอกรักษ์ กล่าวว่า ส่วนของ ปปง. ความผิดตาม พ.ร.บ.ศุลกากร ลักลอบนำเข้า รับสินค้าหลบหนีภาษีศุลกากรเป็นความผิดมูลฐาน และอยู่ในอำนาจ ปปง. ทั้งสัตว์ อาหาร พืช โดยความผิดจากที่ดีเอสไอได้กล่าวมา ปปง. ได้เอาผิดและยึดทรัพย์ 8 บุคคล 6 บริษัท ยึดแล้วประมาณ 53 ล้านบาท และระหว่างนี้ได้ประสานกับดีเอสไอถึงพยานหลักฐาน และจะดำเนินการยึดทรัพย์กลุ่มต่อไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดี หรือผู้ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กับกลุ่มที่ ปปง. จะดำเนินการทางแพ่งและยึดทรัพย์มาดำเนินคดีในชั้นศาลทั้งหมด ผู้ที่เกี่ยวข้องจะต้องไปชี้แจงการได้มาถึงทรัพย์ดังกล่าวในชั้นศาลอีกทีหนึ่งเพื่อคุ้มครองสินค้าอาหาร ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์หรือสินค้าทางการเกษตรของพี่น้องประชาชนที่เป็นเกษตรกรได้ราคาที่เหมาะสม และไม่มีการนำเข้าจากต่างประเทศเข้ามาทำลายราคา ไม่ทำให้พืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ยืนยัน ปปง. ดำเนินการสุดความสามารถ

 

ที่ปรึกษากรมศุลกากร ตามนโยบายที่รัฐบาลเข้มงวดกับสินค้าเกษตรเถื่อนทุกประเภท ปัจจุบันศุลกากรตรวจสอบเข้มข้นและบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานพื้นที่ หากมีข้าราชการเกี่ยวข้องจะตั้งกรรมการสอบหาผู้กระทำผิด ในส่วนของการตรวจสอบนอกเหนือจาก 161 ตู้ที่อายัดอยู่ระหว่างตรวจสอบ เราได้ดำเนินการจับอีก 92 ตู้ที่แหลมฉบัง เป็นหมู 16 ตู้ เป็นสินค้าเกษตรอื่นๆ อีก เนื้อวัว ขาไก่ ตามแนวชายแดน ได้ตรวจสอบในพื้นที่ให้บูรณาการกับหน่วยงานความมั่นคงเพื่อตรวจสอบ

 

ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า ในส่วนที่สำคัญนายกฯ ได้สั่งการให้ตนตั้งชุด ฉก.พญานาคราช ประกอบด้วยหลายๆ หน่วยงาน ทำงานลับและตรวจค้นได้ทันที ในเรื่องคดีต่างๆ ที่บูรณาการระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมศุลกากร ดีเอสไอ และ ปปง. ดำเนินการอย่างเอาจริงเอาจัง

 

ข้าราชการ-นักการเมืองเบอร์ใหญ่ เอี่ยวประมาณ 10 ชีวิต  

 

พ.ต.ต. สุริยา สิงหกมล อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ในส่วนข้าราชการการเมืองที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นอดีตข้าราชการทางการเมือง มีจำนวนมากพอสมควร ไม่สามารถลงรายละเอียดได้ ยืนยันว่าดีเอสไอมีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เชื่อว่าสังคมจะต้องได้รู้ความจริงว่ามีผู้ใดเกี่ยวข้องบ้าง เบื้องต้นมีจำนวนหลัก 10 คน ซึ่งตามอำนาจหน้าที่นั้น เมื่อตรวจสอบแล้วจะมีการขยายเพิ่มเติมอีก แต่ในทางกฎหมายมีความจำเป็น ยืนยันว่าไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ 

 

ส่วนระยะเวลาในการตรวจสอบของสำนักงาน ป.ป.ช. นั้น ตนเองไม่ขอก้าวล่วง โดยทางดีเอสไอได้ดำเนินการเสร็จสิ้นลุล่วง พร้อมส่งต่อไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบไปแล้ว หากสำนักงาน ป.ป.ช. จะประสานหรือส่งกลับมาให้ดีเอสไอดำเนินการต่อ ก็เป็นไปตามกรอบอำนาจหน้าที่ สำนักงาน ป.ป.ช. สามารถสั่งได้ และเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวจะคลี่คลายได้ภายในต้นปีหน้า

 

ร.อ. ธรรมนัส กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ก่อนที่ตนเองจะแถลงข่าวในวันนี้ได้พบกับนายกรัฐมนตรีก่อน รวมถึงได้โทรศัพท์ต่อสายไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแล้ว มีข้อมูลว่าเป็นนักการเมืองใหญ่ แต่ไม่สามารถเปิดเผยชื่อหรือรายละเอียดต่างๆ ได้ เนื่องจากมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ พร้อมย้ำว่าเป็นนักการเมืองเบอร์ใหญ่ 

 

ไม่ตอบ ใช่อดีตรัฐมนตรี ป ปลา หรือไม่ 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ใช่อดีตรัฐมนตรี ป ปลา ตามที่ปรากฏตามข่าวหรือไม่ ร.อ. ธรรมนัส กล่าวว่า “เราอย่าไปเอ่ยอย่างนั้น มันผิดกฎหมาย เราขี้เกียจไปขึ้นศาลด้วยกัน ผมขอรักษาพี่น้องที่นั่งอยู่กับผมตรงนี้ก่อน เพราะเรายังต้องทำงานต่อไป” 

 

ร.อ. ธรรมนัส ยังกล่าวอีกว่า นายกฯ ได้สั่งการให้เซ็ตซีโร่กับห้องเย็นทั่วประเทศให้มาขึ้นทะเบียนให้ถูกต้อง โดยถ้าไม่มีก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย รวมถึงห้องเย็นตามรถบรรทุกด้วย รวมถึงการนำเข้าเถื่อนสินค้าการประมง สินค้าการเกษตร ก็ได้ให้อายัดไว้ติดตามต่อ ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับนักการเมือง และจะมีการแถลงข่าวต่อไป

 

ส่วนของขั้นตอนการฝังกลบ ภายในสิ้นเดือนนี้จะฝังกลบทั้งหมด โดยขอสงวนสิทธิ์ว่าเป็นความลับ เนื่องจากยอมรับว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังจะมีกระบวนการที่ทำให้เราไม่สามารถดำเนินการได้ และหลังจากที่ทำลายเรียบร้อยทั้งหมดภายในสิ้นเดือนนี้ จะเปิดเผยรายละเอียดให้สาธารณชนทราบต่อไป

 

‘หมูเถื่อน’ มีที่มาที่ไปอย่างไร 

 

สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ประชาชาติธุรกิจเปิดเผยรายงาน ‘หมูเถื่อนล้นท่าเรือแหลมฉบัง พิรุธสวมพิกัดนำเข้าปลา’ โดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า มีการนำเข้าหมูเถื่อนจากต่างประเทศผ่านแหล่งต้นทางใหญ่ นำเข้าผ่านท่าเรือแหลมฉบัง ส่งผลให้ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มซื้อขายกันจริงดิ่งลงเหลือเพียง 72-73 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ต้นทุนผู้เลี้ยงรายย่อยตกเกือบ 100 บาทต่อกิโลกรัม 

 

ขณะเดียวกัน กลุ่มเลี้ยงสุกรแห่งชาติได้มีการนัดทุกภาคส่วนมาร่วมหาทางออกและข้อสรุป ประกอบด้วย 

 

  1. เสนอให้ตั้งคณะกรรมการ 3 ฝ่าย คือ ตัวผู้เลี้ยงเองในนามสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กรมศุลกากร และกรมปศุสัตว์ เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว 

 

  1. สมาคมจะทำหนังสือถึงอธิบดีกรมศุลกากรให้เปิดเผยรายชื่อผู้นำเข้าเนื้อหมูผิดกฎหมาย เพื่อจะได้ประสานงานกับกรมปศุสัตว์ในการเข้มงวดผู้นำเข้าที่ผิดระเบียบ 

 

  1. หากกรมศุลกากรไม่ยอมเปิดเผยอาจต้องแจ้งความ รวมถึงมีการหารือเรื่องการตั้งทนาย เพื่อทำเรื่องฟ้องร้องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพราะถือเป็นกระบวนการทำลายตลาดสุกรในประเทศ ถือเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

 

จากนั้นปัญหาหมูเถื่อนเริ่มเข้ามาอยู่ในสปอตไลต์ของสื่อมวลชนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ ร.อ. ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน ซึ่งได้ประกาศว่าต้องไม่มีเนื้อสัตว์ผิดกฎหมายในประเทศไทยอีก 

 

ร.อ. ธรรมนัส ยังได้ขอความร่วมมือกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร นำกำลังตรวจสอบทุกพื้นที่ทั่วประเทศ หากพบว่ามีการกระทำความผิด ให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด 

 

โดยเฉพาะเมื่อเศรษฐาออกปากถามถึงความคืบหน้าเกี่ยวกกับปัญหาหมูเถื่อนด้วยสีหน้าดุดัน “ได้สั่งการไปแล้ว แต่ไม่ทำ” พร้อมสั่งการเด็ดขาดให้ทำงานอย่างครอบคลุมแบบบูรณาการ ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ประสานตำรวจภูธรจังหวัด กรมปศุสัตว์ กรมศุลกากร ปูพรมตรวจค้นในแต่ละจุด หลังได้รับรายงานว่ามีหมูเถื่อนซุกซ่อนอยู่ตามห้องเย็น พร้อมทั้งจะดำเนินคดีย้อนหลังกับการลักลอบซากสัตว์หลายชนิด 2,835 ตู้ ที่มีการตรวจพบตั้งแต่ปี 2563-2566 ด้วย

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เศรษฐาถามความคืบหน้าการแก้ปัญหาหมูเถื่อนว่า ต้องเร็วที่สุด สัปดาห์นี้ก็ต้องมีอะไรขึ้นมาบ้าง เพราะถ้าหากนับสัปดาห์นี้ก็ 10 วันแล้ว มันก็ต้องมีบ้าง และเหนือสิ่งอื่นใดจะต้องสาวถึงต้นตอให้ได้ ตัวเล็กๆ เอาไว้ทีหลัง ตัวใหญ่เอามาก่อนดีกว่า จะได้จบสักที ไม่เช่นนั้นพอกวาดล้างได้ไม่นาน 6 เดือน 12 เดือน ก็เกิดขึ้นมาใหม่อีก

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising