×

เสริมศักดิ์เข้ากระทรวงวันแรก ตั้งเป้าโกยเม็ดเงินเข้ารัฐ 3.5 ล้านล้านต่อปี ดันไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว

โดย THE STANDARD TEAM
08.05.2024
  • LOADING...
เสริมศักดิ์

วันนี้ (8 พฤษภาคม) เสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยภายหลังจากเข้ารับตำแหน่งว่า การขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจะต้องทำทั้งด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ทำให้ท่องเที่ยวเพิ่มรายได้ให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทต่อปี และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยว โดยการท่องเที่ยวจะต้องเกื้อกูลต่อการกีฬา พร้อมทำให้ทั้งการกีฬาเกื้อกูลการท่องเที่ยว และผลักดันให้ประสบความสำเร็จด้านกีฬา ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกของประชาชนในการออกกำลังกาย

 

การท่องเที่ยวจะต้องผลักดันอย่างครบวงจรและบูรณาการทุกฝ่าย การที่นักท่องเที่ยวจะตัดสินใจไปท่องเที่ยวที่ใดนั้น ข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวและบริการมีความสำคัญ จะต้องมีการปรับปรุงและเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวและบริการ ตลอดจนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่ออย่างเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า โดยขอให้เน้นการประชาสัมพันธ์ทุกช่องทาง ทุกรูปแบบ

 

เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติตัดสินใจมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทย จะต้องปรับการบริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่จำนวนเที่ยวบิน ค่าโดยสาร ระบบการเข้าเมือง ความสะดวกสบายและการบริการที่สนามบิน รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว ตลอดจนการคมนาคม เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

 

เนื่องจากโจทย์ที่จะต้องดำเนินการคือ การหารายได้จากการท่องเที่ยวให้ได้ 3.5 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งขณะนี้เวลาล่วงมาแล้ว 4 เดือน ยังมีเป้าหมายที่จะต้องทำอีกมาก จึงได้มอบนโยบายเร่งด่วนด้านการท่องเที่ยว ดังนี้

 

  1. การส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กันยายน เป็นช่วงที่ผู้ประกอบการการท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อน จะต้องมีการส่งเสริมการตลาดเชิงรุกไปยังกลุ่มประเทศที่ได้รับฟรีวีซ่า โดยให้มีการทำแพ็กเกจที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยวกับกิจกรรมอื่นๆ เช่น การตรวจสุขภาพ งานแต่งงาน การท่องเที่ยวของกลุ่ม LGBTQIA+ (กลุ่มข้ามเพศ), กลุ่มความเชื่อมูเตลู, กลุ่มแฟนคลับของไอดอลไทยและเกาหลี หรือกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ที่พำนักในประเทศไทยและมีค่าใช้จ่ายต่อหัวมากขึ้น

 

  1. วันหยุดยาวของประเทศจีน ช่วงวันที่ 1-7 ตุลาคม จะต้องคิดแคมเปญหรืออีเวนต์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวชาวจีน

 

  1. ช่วงไฮซีซัน ระหว่างเดือนตุลาคม-กุมภาพันธ์ ก็จะต้องคิดแคมเปญหรืออีเวนต์ใหม่ๆ เพื่อจูงใจนักท่องเที่ยวชาวตะวันตก ซึ่งหนีหนาวมาเที่ยวเมืองไทย เนื่องจากนักท่องเที่ยวจะวางแผนการท่องเที่ยวตั้งแต่บัดนี้

 

  1. การหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ การท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว (เมืองรอง) พัฒนาแหล่งเที่ยวแบบโฮมสเตย์ เพื่อเป็นการกระจายรายได้และเป็นการใช้ทรัพยากรการท่องเที่ยวอย่างเหมาะสม ซึ่งจะได้มีการรีบหารือกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในการกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อไป

 

อย่างไรก็ดี จะต้องมีการคำนึงถึงความยั่งยืนและการรักษาความสมดุลของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวด้วย

 

ด้านกีฬา จะมุ่งส่งเสริมให้เกิดความสำเร็จด้านการกีฬาอาชีพและสมัครเล่นควบคู่ไปกับการขยายการเข้าถึงการออกกำลังกายของประชาชนเพื่อรักษาสุขภาพ จึงได้มอบหมายนโยบายเร่งด่วนด้านการกีฬา ดังนี้

 

  1. ผลักดันให้นักกีฬาประสบความสำเร็จ จะต้องทำให้กีฬาคืออาชีพ นักกีฬาสามารถดำรงชีวิตและสร้างความมั่นคงให้แก่ตนเองได้ โดยผลักดันผ่านสโมสรกีฬาและสมาคมกีฬาต่างๆ 

 

  1. การนำกีฬามาช่วยขับเคลื่อนด้านเศรษฐกิจ โดยการสร้างศูนย์กลางกีฬาในระดับภูมิภาค, การกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว (Sport Tourism), การสร้าง World Class Event เช่น กอล์ฟ วิ่งมาราธอน ไตรกีฬา เรือใบ และ e-Sport ฯลฯ

 

  1. การส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนออกกำลังกายเพื่อรักษาสุขภาพ ลดความเจ็บป่วยจากโรคที่ไม่ติดต่อ (Non Communicable Diseases: NCD) เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดอุดตัน และโรคไตวาย ฯลฯ ซึ่งจะเป็นการลดภาระด้านสาธารณสุขของประเทศ โดยการปลูกฝังจิตสำนึกในการออกกำลังกาย การสร้างสนามกีฬา ลานกีฬา และพื้นที่สีเขียว เพื่อการออกกำลังกายให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และการส่งเสริมธุรกิจเพื่อการออกกำลังกาย (Fitness Center)

 

อย่างไรก็ดี การผลักดันนโยบายท่องเที่ยวและกีฬาจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และบุคลากรของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ตลอดจนความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

X
Close Advertising