สำนักงานสถิติกระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาจากรายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (Core Personal Consumption Expenditure: Core PCE) หรือ PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ให้ความสำคัญ เพิ่มขึ้น 5.1% ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบรายปี ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.2% แต่สูงกว่าระดับ 4.9% ในเดือนสิงหาคม
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนกันยายน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนสิงหาคม
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ซีอีโอ JPMorgan เตือน เศรษฐกิจสหรัฐฯ และโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอยภายใน 6-9 เดือน
- หุ้นสหรัฐฯ พลิกกลับมาปิดบวกถึง 800 จุด จากที่ร่วงหนักกว่า 500 จุด หลังการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน ก.ย.
- สหรัฐฯ รายงานเงินเฟ้อเดือน ก.ย. ที่ 8.2% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งทันที!
ทั้งนี้ ดัชนี PCE ถือเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)
สำหรับดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ทั่วไป ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ดีดตัวขึ้น 6.2% ในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายปี หลังจากปรับตัวขึ้น 6.2% เช่นกันในเดือนสิงหาคม ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 6.3%
เมื่อเทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายน สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากดีดตัวขึ้น 0.3% เช่นกันในเดือนสิงหาคม
ทั้งนี้ จากข้อมูลดังกล่าวเทียบกับข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภคเมื่อต้นเดือนนี้ ตัวเลขล่าสุดเน้นย้ำความรุนแรงและความกว้างของอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งทำให้เห็นชัดเจนขึ้นว่าทำไมผู้กำหนดนโยบายอย่าง Fed ที่พยายามให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมาย 2% จึงมีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% ในการประชุมสัปดาห์หน้า
ขณะที่ตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง อีกทั้งการเพิ่มขึ้นของค่าจ้างและการออมที่มั่นคง ได้ช่วยให้ครัวเรือนรับมือกับเงินเฟ้อที่สูงขึ้นสำหรับทุกอย่างตั้งแต่ร้านขายของชำไปจนถึงค่าเช่าได้บ้าง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าผู้บริโภคและเงินในกระเป๋าจะรองรับค่าใช้จ่ายที่พุ่งขึ้นได้นานแค่ไหน
บางบริษัทเริ่มมองเห็นการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค ตั้งแต่การซื้อขายไปจนถึงการซื้อที่น้อยลง และจากการสำรวจของสำนักงานสำรวจสำมะโนประชากร เมื่อเร็วๆ นี้พบว่า 4 ใน 10 ครัวเรือนกล่าวว่า เริ่มรู้สึกว่ารับมือกับค่าใช้จ่ายในครัวเรือนยากขึ้น
อ้างอิง: