วันนี้ (1 กรกฎาคม) ที่ กองคดีการฟอกเงินทางอาญา ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ รายงานข่าวระบุว่า คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 24/2568 กรณีความผิดฐานฟอกเงินที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) หรือคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. ได้ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของ สว. และผู้เกี่ยวข้อง
จากการตรวจสอบพบพฤติการณ์ที่น่าสงสัย 2 ประเด็นหลัก
- การโอนเงินลักษณะเครือข่ายจ้างผู้สมัคร ใน 3 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี ลำพูน และหนองบัวลำภู
- เส้นทางการเงินที่เกี่ยวพันกับ สว. ใน 24 จังหวัดทั่วประเทศ โดยแบ่งเป็น ภาคใต้ 7 จังหวัด (สุราษฎร์ธานี สตูล สงขลา ระนอง กระบี่ ภูเก็ต ชุมพร), ภาคอีสาน 8 จังหวัด (หนองบัวลำภู นครพนม บุรีรัมย์ บึงกาฬ อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ขอนแก่น), ภาคกลาง 6 จังหวัด (สิงห์บุรี นนทบุรี ราชบุรี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง เพชรบุรี), ภาคเหนือ 2 จังหวัด (ลำพูน ลำปาง) และ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด (ตราด)
ในการสอบสวนเบื้องต้น ได้มีการออกหมายเรียกพยานที่เกี่ยวข้องกลุ่มแรกจำนวน 7 ราย มาให้ปากคำชี้แจงเส้นทางการเงิน โดยมีพนักงานอัยการเข้าร่วมสอบคำให้การพยานด้วย
พยานที่ถูกเรียกมาให้ปากคำ ได้แก่:
- สุราษฎร์ธานี 4 ราย: วรพจน์, สินิตา, สุบิน, ญาณี
- หนองบัวลำภู 1 ราย: ภัณนิภา
- ลำพูน 2 ราย: อากร, อาทร
บุคคลเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ถูกเชิญรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ในคดีที่อยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนส่วนกลาง คณะที่ 26 ของ กกต. (ชุด 7 อรหันต์) เช่นเดียวกัน
ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา มีพยานเดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพียง 1 ราย คือ สินิตา ซึ่งเมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม สินิตา ได้ยิ้มตอบรับในตอนแรก แต่เมื่อถามถึงคดีอั้งยี่-ฟอกเงิน สว. เจ้าตัวปฏิเสธและเดินเข้าห้องกองคดีทันที
ต่อมาเวลา 11.00 น. สินิตา ได้ออกจากห้องกองคดีฯ และยอมรับว่าตนเองชื่อ สินิตา แต่ไม่ได้ยืนยันนามสกุล พร้อมยืนยันว่ามาให้ข้อมูลเรื่องส่วนตัวเกี่ยวกับคอนโดมิเนียม ไม่ใช่คดีอั้งยี่-ฟอกเงิน
เวลา 11.20 น. ระวี อักษรศิริ ผู้อำนวยการกองคดีการฟอกเงินทางอาญา ได้ออกมาเปิดเผยว่า วันนี้มีพยานเดินทางมาให้ข้อมูล 1 ราย คือ สินิตา โดยได้ชี้แจงที่มาที่ไปของเส้นทางการเงินที่ปรากฏในพยานหลักฐาน ซึ่งแม้จะพบความเกี่ยวข้องทางเส้นเงิน แต่ DSI จะตรวจสอบอย่างละเอียดถึงขอบเขตความเกี่ยวข้อง
ระวี ยืนยันว่า สินิตา ไม่ได้เป็นผู้สมัคร สว. และในส่วนของคำให้การ สินิตา ได้อธิบายรายการเดินบัญชี (Statement) โดยปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับขบวนการจัดฮั้ว สว. และระบุว่าเป็นเพียงค่าใช้จ่ายตามปกติ
ระวี กล่าวว่า พยานอีก 6 รายที่เหลือจะทยอยเข้ามาให้ปากคำตามวันเวลาที่กำหนด โดยพนักงานสอบสวนจะให้ความเป็นธรรมกับพยานอย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นที่สงสัย
เมื่อถามถึงความเชื่อมโยงระหว่างพยาน 7 รายที่ส่วนใหญ่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฮั้ว สว. โดย กกต. และการตรวจสอบเรื่องฟอกเงินของ DSI ระวีชี้แจงว่า พยานหลักฐานที่ DSI มีค่อนข้างสอดคล้องกับที่ กกต. มี แต่เป็นกฎหมายคนละฉบับ จึงต้องเรียกมาชี้แจงและให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ โดยดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ เป็นอีกส่วนหนึ่งของการดำเนินการ
ในส่วนของการพบนักการเมืองหรือข้าราชการฝ่ายการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในเส้นทางการเงินหรือไม่ ระวีระบุว่า ยังอยู่ในขั้นตอนการตรวจสอบในสำนวน ซึ่งเป็นเรื่องละเอียดอ่อนและต้องใช้เวลา โดย DSI จะเร่งรัดดำเนินการให้เร็วที่สุด เพื่อให้สอดรับกับการดำเนินการของ กกต. ด้วย