×

เปรมศักดิ์เตือนสติวุฒิสภา ห่วงเดินหน้าตั้งองค์กรอิสระ พาประเทศถึงทางตัน ด้านอังคณายกประมวลจริยธรรมให้รอบคอบ

โดย THE STANDARD TEAM
30.05.2025
  • LOADING...
เปรมศักดิ์ เพียยุระ และ อังคณา นีละไพจิตร ร่วมอภิปรายในวุฒิสภาเรื่องการแต่งตั้งองค์กรอิสระ

วันนี้ (30 พฤษภาคม) ในการประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 2 สมัยวิสามัญ เป็นพิเศษ วาระพิจารณาญัตติขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติฯ ของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภา (สว.) จำนวนมาก ตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้ 

 

นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายสนับสนุนญัตติดังกล่าว โดยระบุว่า การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไทยระยะหลัง เกิดขึ้นเพราะองค์กรอิสระมาโดยตลอด แรกเริ่มก็ดูเหมือนเป็นความหวังสำหรับการปฏิรูปการเมือง แต่ต่อมาชักจะไม่ใช่ แต่เป็นในลักษณะของการแต่งตั้งองค์กรอิสระในยุคใด ก็มักจะตอบสนองคนแต่งตั้งในยุคนั้น ตอบสนองผู้มีอำนาจในการเห็นชอบ ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครองใดก็ตามก็ล้วนถูกผลกระทบจากองค์กรอิสระทั้งสิ้น

 

“นายกรัฐมนตรีบางท่านประชาชนเลือกเข้ามา 14-15 ล้านเสียง แต่ก็ตกกระป๋องเพราะมติของกรรมการองค์กรอิสระเพียง 9 คน ทฤษฎีใหม่ทางการเมืองบอกว่า การควบคุมประเทศไทยต้องหาทางให้มีส่วนได้เสียในการแต่งตั้งองค์กรอิสระ ซึ่งก็มีคณะปฏิวัติรัฐประหารได้มีส่วนในการแต่งตั้งองค์กรอิสระแล้วก็ปกครองประเทศมายาวนาน ผู้มีอำนาจแต่งตั้งก็ไม่มีความผิด เหมือนอย่างกรณีที่รู้จักกันทั้งประเทศว่ายืมนาฬิกาเพื่อนก็ไม่ผิด เพราะองค์กรอิสระบอกว่าไม่ผิด องค์กรอิสระคือทฤษฎีควบคุมประเทศไทยยุคใหม่ แม้เราจะพ้นจากการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เราก็มาเจอรูปแบบใหม่ในการควบคุมองค์กรอิสระ คือวุฒิสภา” นพ.เปรมศักดิ์ ระบุ

 

ทั้งนี้ เมื่อวุฒิสภาแต่งตั้งองค์กรอิสระแล้วอยู่ไปได้อย่างน้อย 7-9 ปีโดยไม่มีการถอดถอน ไม่เหมือนรัฐธรรมนูญปี 2540 รัฐธรรมนูญฉบับแรกที่มีองค์กรอิสระ รัฐธรรมนูญปี 2540 แต่งตั้งและถอดถอนองค์กรอิสระได้ เพราะเป็นคนมีผิดชอบชั่วดีได้ผิดพลาดได้ แต่รัฐธรรมนูญปี 2560 ให้องค์กรอิสระอยู่ไปจนครบวาระแต่งตั้งเสร็จแล้วถอดถอนไม่ได้ เหมือนตีเช็คเปล่าแล้วไปกรอกตัวเลขเอาเอง ตรงนี้เป็นอันตราย 

 

“ผมขอเตือนว่าอย่าให้ประเทศชาติถึงทางตัน คือคนเสื่อมศรัทธาองค์กรอิสระ เสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการแต่งตั้งที่มีปัญหา วันนี้ สว. ส่วนหนึ่งอยู่ในการไต่สวนสอบสวนของ กกต. วันนี้ก็มีการประกาศเพิ่มเติมเรียกผู้ถูกกล่าวหาไปชี้แจงอีก 22 คนรวมแล้วเป็น 127 คน จากจำนวนวุฒิสภา 200 คน เรื่องแบบนี้จึงต้องระวัง” นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

 

นพ.เปรมศักดิ์ ทิ้งท้ายว่า การพิจารณาจะช้าหรือเร็วไม่สำคัญ สำคัญตรงที่วุฒิสภาเลือกองค์กรอิสระต้องสง่างาม อย่ามองว่าวุฒิสภาจะทำอะไรก็ได้ อย่าลืมว่าวุฒิสภาอยู่ได้ต้องอาศัยความศรัทธาจากประชาชน ถ้าสวนกระแสประชาชนจะเป็นปัญหาภายหลังได้ เมื่อถึงวันนั้นเราจะเสียใจในภายหลัง วันนี้เรามีเครื่องมือมีอำนาจในการแต่งตั้งองค์กรอิสระ ถ้าเราทำอย่างสุกเอาเผากินไม่ฟังเสียงทักท้วงไม่ฟังเสียงใคร จะกลายเป็นบูเมอแรง ที่ขว้างออกไปแรง มันก็จะย้อนกลับมาเร็วตัดคอพวกเราเอง

 

อังคณาชมสปิริต สว. ลาออก กมธ.สอบประวัติ


ด้าน อังคณา นีละไพจิตร สว. ร่วมอภิปราย โดยกล่าวชื่นชม มงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ที่ได้เลื่อนวาระดังกล่าวเป็นลำดับแรก เนื่องจากปัจจุบันมี สว. มากกว่าครึ่งหนึ่งถูกตรวจสอบเรื่องความโปร่งใส และความชอบธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ สว. ทั้งยังมี สว. ร้องเรียนตอบโต้การตรวจสอบไปยังองค์กรอิสระอื่นด้วย 

 

อังคณาชี้ว่า ถ้าเราพิจารณาเรื่องตัวบทกฎหมาย เป็นจริงอย่างที่กล่าวไว้ว่าไม่มีกฎหมายห้ามการปฏิบัติหน้าที่ของ สว. แต่ถ้านำประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมาประกอบการพิจารณาจะพบว่า สว. มีหน้าที่ให้ความเห็นชอบต่อองค์กรอิสระ แต่ในระหว่างที่ สว. จำนวนเกือบครึ่งหนึ่งกำลังถูกตรวจสอบ ซึ่งอาจจะเป็นการขัดจริยธรรมหรือขัดผลประโยชน์ เรื่องนี้จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบระมัดระวังบนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคม แม้จะถูกกฎหมายแต่ก็อาจไม่ชอบธรรม

 

“ตามหลักนิติธรรมทุกท่านคือผู้บริสุทธิ์ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา เราจะแสดงต่อผู้ที่ถูกกล่าวหาเสมือนผู้กระทำผิดไม่ได้ แต่เมื่อมาชั่งน้ำหนักการปฏิบัติหน้าที่และการรักษาความชอบธรรมเพื่อปกป้องประโยชน์ของสาธารณะ เราอาจต้องยอมสละสิทธิหรือหน้าที่บางอย่าง เพื่อรักษาภาพใหญ่ของระบบยุติธรรมคือ หลักความโปร่งใส ถูกต้อง และความชอบธรรม” อังคณากล่าว

 

อังคณายกประมวลจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ระบุไว้ว่า นักการเมืองจะต้องไม่กระทำการอันเป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม สว. บางท่านอาจจะกังวลว่าหาก สว. ไม่ให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระจะสร้างความเสียหาย ทำให้ถูกกล่าวหาว่าละเว้นปฏิบัติหน้าที่ เราไม่ควรกังวล เพราะแม้ สว. จะไม่ให้ความเห็นชอบ แต่องค์กรอิสระยังคงปฏิบัติหน้าที่ได้อยู่ 

 

“ขอชื่นชมความกล้าหาญของ สว. ที่ได้รับเลือกเป็นคณะกรรมาธิการตรวจสอบประวัติฯ ของผู้ที่จะได้รับความเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ซึ่งตัดสินใจลาออก โดยกังวลว่าจะเป็นการขัดกันของผลประโยชน์และให้มีการแต่งตั้งกรรมการสามัญเพื่อให้ตรวจสอบคุณสมบัติแทน เช่นเดียวกับที่ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหยุดปฏิบัติหน้าที่ในส่วนที่กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ เราจึงควรใช้หลักการในทำนองเดียวกัน” อังคณาระบุ

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising