เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) เป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น ชิป (Chip) และเป็นตัวช่วยสำคัญในการผลักดันการเติบโตของเศรษฐกิจในหลายประเทศได้เป็นอย่างดี ทำให้รัฐบาลทั่วโลกได้ตระหนักถึงความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์เป็นอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อจัดการปัญหาด้านห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของเซมิคอนดักเตอร์ที่ค่อนข้างจำกัด รัฐบาลหลายประเทศได้ออกกฎหมายและนโยบายที่มุ่งเสริมศักยภาพการผลิตภายในประเทศ เช่น United State CHIPS ACT กฎหมายที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของสหรัฐฯ ใน 3 ด้าน
- สนับสนุนการวิจัยและพัฒนา เพื่อมุ่งให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำในการออกแบบและผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ทันสมัย โดยให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่มีค่าใช้จ่ายด้าน R&D
- สนับสนุนเงินทุนสำหรับจัดตั้งโรงงานที่พัฒนาและผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในสหรัฐฯ ให้กับบริษัทต่างๆ เช่น TSMC ได้ใช้ประโยชน์จากเงินทุนดังกล่าวแล้ว
- มุ่งพัฒนาบุคลากรในสหรัฐฯ โดยสนับสนุนเงินทุนสำหรับการฝึกอบรมและพัฒนาทักษะแรงงานให้รองรับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป และยังได้รับอานิสงส์จากการสร้างงานใหม่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ให้กับชาวอเมริกัน
เซมิคอนดักเตอร์นับเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตและเชื่อมโยงหลายอุตสาหกรรม เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ระบบหุ่นยนต์อัตโนมัติ โครงข่ายสื่อสาร และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (Internet of Things) เป็นต้น ทำให้ความต้องการเซมิคอนดักเตอร์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ภาพรวมการขยายตัวของตลาดเซมิคอนดักเตอร์มีโอกาสเติบโตสูง คาดมูลค่าตลาดมีโอกาสเติบโตอีกกว่า 100% ในช่วงปี 2020-2030 จาก 467 พันล้านดอลลาร์ เป็น 940 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าอัตราการเติบโตของ GDP โลก
ทั้งนี้ ธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์มีจุดเด่นหลักที่มาจากการมีจุดแข็งทางธุรกิจ และ Barrier to Entry จากนวัตกรรมเฉพาะ ถือเป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ทำให้บริษัทสามารถครองตลาดและเติบโตได้ในระยะยาว เช่น บริษัท ASML บริษัทชั้นนำที่ผลิตเครื่อง Extreme Ultraviolet Lithography (EUV) ซึ่งใช้ในการผลิตชิป 5 นาโนเมตร และ 3 นาโนเมตร เป็นชิปที่มีขนาดเล็กและคุณภาพสูง และบริษัท TSMC จากกำลังการผลิตที่มี Economy of scale ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของบริษัทออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็วและมีราคาถูก และช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับบริษัทคู่ค้าได้
บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) มีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ จากความต้องการชิปที่ยังคงอยู่ในระดับสูง คาดว่ารอบวัฏจักรราคาหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ใกล้ถึงจุดต่ำสุดแล้ว จากแรงหนุนของอุปสงค์ทั่วโลกต่อเซมิคอนดักเตอร์ที่มีแนวโน้มดีขึ้น ประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นที่ใกล้ถึงจุดสูงสุด น่าจะลดแรงกดดันต่อราคาหุ้นกลุ่ม Growth อย่างธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์ลง แนะนำกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Semiconductor (SCBSEMI) ที่เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนหลัก VanEck Vector Semiconductor UCITS ETF มีกลยุทธ์การลงทุนแบบ Pure Play เน้นลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม กลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ยังคงมีความเสี่ยงจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นค่อนข้างเร็วในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระดับมูลค่าพื้นฐานเริ่มตึงตัว อาจมีความอ่อนไหวหากมีข่าวระยะสั้นเชิงลบเข้ามากระทบ และจากปัจจัยเศรษฐกิจที่อาจจะชะลอตัวแบบ Soft Landing ซึ่งหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์เป็นหุ้นวัฏจักร (Cyclical Stocks) มีรายได้ผันผวนตามแนวโน้มเศรษฐกิจ ดังนั้นหากเศรษฐกิจถดถอยในระยะข้างหน้า อาจเป็นอีกปัจจัยกดดันต่อหุ้นกลุ่มนี้ อนึ่ง มองเป็นโอกาสทยอยสะสมลงทุนในระยะกลางถึงยาว หากราคาของกลุ่มธุรกิจนี้ปรับตัวลดลง จากปัจจัยสนับสนุนระยะยาวที่คาดว่าตลาดเซมิคอนดักเตอร์จะสามารถเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากการที่หลายอุตสาหกรรมยังคงมีความต้องการใช้เซมิคอนดักเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะการมาของ ChatGPT หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่คาดว่าจะทำให้ความต้องการใช้ชิปเร่งตัวสูงขึ้นในอนาคต
จากความสำคัญของเซมิคอนดักเตอร์ที่ทำหน้าที่ควบคุมระบบในอุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในยุค Internet of Things ไปจนถึงอุปกรณ์ที่ซับซ้อน เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ เครื่องบินที่ใช้ในการเดินทาง เครื่องมือที่ใช้วินิจฉัยรักษาโรค และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในการฟังเพลง ดูภาพยนตร์ เล่นเกม และอีกมากมาย ทำให้เซมิคอนดักเตอร์จำเป็นต้องมีการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อรองรับนวัตกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จึงเป็นหนึ่ง Strategic Sector ที่สำคัญ และมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในระยะยาว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- รู้จัก ‘ChatGPT’ แชตบอตโด่งดังสุดอัจฉริยะ ที่กำลังเขย่าโลก ‘AI’ และอาจจุดชนวน Tech Disruption อีกครั้ง
- โลกสะเทือนหรือไม่? การมาของ ‘ChatGPT’ จะ Disrupt วงการใดบ้าง
- ChatGPT ปลุกยักษ์! Google ตั้งทีมพิเศษเร่งพัฒนาเทคโนโลยี สู้ศึกกับ OpenAI หวังชิงเค้กคืน
การลงทุนในกองทุนรวมมิใช่การฝากเงิน และผลการดำเนินงานในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / กองทุนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ / ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง รวมถึงควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้ประกอบธุรกิจก่อนตัดสินใจลงทุน
ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลได้ที่ https://scbam.info/3Gc2170 หรือสอบถามข้อมูลและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการที่ บลจ.ไทยพาณิชย์ หรือ SCBAM Client Relations โทร 0 2777 7777