เข้าไตรมาสสุดท้ายของปีทีไร บรรดาศิลปินชั้นนำก็จะขยันออกผลงานใหม่เป็นประจำ ทั้ง แฮร์รี สไตล์ส เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนกับเพลง Lights Up, เคที เพอร์รี สัปดาห์ที่แล้วกับเพลง Harleys in Hawaii ส่วนต้นเดือนหน้า ดัว ลิปา ก็จะกลับมาพร้อมซิงเกิลชื่อ Don’t Start Now และ Coldplay กับอัลบั้มใหม่ Everday Life ที่จะวางแผงในวันที่ 22 พฤศจิกายน (สำหรับอเดล เราก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าเธอจะมาจริงไหม) แต่มาสัปดาห์นี้ การกลับมาของ เซเลนา โกเมซ กับเพลง Lose You to Love Me ที่เธอยังคงท็อปฟอร์มกับการทำเพลงป๊อปที่มีชั้นเชิงและสะท้อนการเติบโตในฐานะศิลปินอันดับต้นๆ ของวงการ
สำหรับเพลง Lose You to Love Me นั้นเป็นการแต่งเพลงร่วมกันอีกครั้งของ จูเลีย ไมเคิลส์ และจัสติน เทรนเตอร์ สองนักแต่งเพลงที่อยู่เบื้องหลังเพลงสุดฮิตของเธออย่าง Good For You, Hands to Myself และ Bad Liar แต่สิ่งที่เพิ่มเติมกับเพลงใหม่คือการได้ ฟินเนียส โอคอนเนลล์ พี่ชายของ บิลลี อายลิช มาช่วยแต่งและโปรดิวซ์ให้ ร่วมกับทีมโปรดิวเซอร์จากสวีเดน Mattman & Robin
เซเลนาเผยว่าเนื้อหาเพลงนี้ได้แรงบันดาลใจจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากเธอปล่อยอัลบั้มชุดที่แล้ว Revival (2015) ออกมา และอยากให้ทุกคนรู้ว่าไม่ว่าจะผ่านอุปสรรคอันเลวร้ายอะไรก็ตามแต่ เราทุกคนจะออกมาจากสถานการณ์นั้นๆ ได้ในที่สุด ซึ่งถือเป็นเวอร์ชันที่ดีขึ้น โดยถ้าใครได้ตามชีวิตของเซเลนามาตั้งแต่ปี 2015 ก็จะรู้ว่าเธอต้องเผชิญปัญหาทั้งเรื่องราวความรักที่คาราคาซังกับ จัสติน บีเบอร์ และกับ The Weeknd
ขณะที่ด้านสุขภาพเธอก็เป็นโรค Lupus และต้องมีการเปลี่ยนไตกับเพื่อนสนิท ฟรานเซีย ไรซา ในปี 2017 เหตุการณ์ทั้งหมดก็ทำให้เซเลนาต้องเข้าสถานบำบัดอยู่บ่อยๆ เพื่อรักษาสุขภาพจิตและปัญหาวิตกกังวล (Anxiety) แต่เมื่อเดือนก่อนเธอก็เพิ่งได้กล่าวสปีชที่งาน McLean Hospital’s Annual Dinner ว่ามาวันนี้เธอก็รู้สึกเข้มแข็งและมีความสุขมากที่สุดในชีวิต หลังต้องโฟกัสและช่วยเหลือตัวเองมานานหลายปี
นอกเหนือจากเพลงใหม่แล้ว เซเลนาก็เพิ่งเป็นหนึ่งใน Executive Producer ของซีรีส์สารคดี Living Undocumented ทาง Netflix นอกจากนี้เธอยังได้พากย์เสียงเป็นตัวละครยีราฟในภาพยนตร์เรื่อง Dolittle ของค่าย Universal Pictures ที่ได้ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ มาเป็นนักแสดงนำ โดยจะเข้าฉายในช่วงต้นปีหน้า
ภาพ: selenagomez / Instagram
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
