วันนี้ (10 เมษายน) ที่ทำเนียบรัฐบาล พวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ ธสรณ์อัฑฒ์ ธนิทธิพันธ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แถลงข่าวผลการจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าใกล้สถานศึกษาในซอยรัชดาภิเษก 32 เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา โดยมีของกลาง 6,000 ชิ้น มูลค่า 1.5 ล้านบาท หนึ่งในของกลางที่เป็นที่ฮือฮาของสื่อมวลชนคือบุหรี่ไฟฟ้าสีส้ม ตัวเรือนเป็นรูปสัญลักษณ์พรรคก้าวไกล ใส่กล่องเป็นอย่างดี
พวงเพ็ชรกล่าวว่า โทษของบุหรี่ไฟฟ้าร้ายแรงต่อเยาวชน ไม่ว่าจะสูบที่สถานศึกษา ที่บ้าน ถือเป็นอันตรายทั้งสิ้น โดยนายกรัฐมนตรีเล็งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ส่งผลให้เยาวชนของชาติเติบโตไปในทางที่ไม่ถูกต้อง สมองก็จะเสื่อมไป ไม่ได้รับการดูแลที่ถูกต้อง เมื่อวานตนไปกับเลขาธิการ สคบ. เข้าไปดูว่าสามารถตรวจจับใครได้บ้าง เนื่องจากนายกฯ บอกว่ามีข้อกำหนดที่ให้ไปจับได้ 3 หน่วยงาน
“วันนั้นเรามีการประชุมกันไปครั้งหนึ่ง 437 โรงเรียนใน กทม. ให้ความรู้กับผู้ปกครองว่าหัวบุหรี่ไฟฟ้าหน้าตาเป็นอย่างไร เมื่อก่อนไม่มีบุหรี่ไฟฟ้ารูปขนม ตุ๊กตาพวกนี้ ยังมีรูปปากกาด้วยนะ…เพราะฉะนั้นต้องให้ความรู้ว่าสิ่งเหล่านี้เปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ถามว่ายากหรือไม่ในการตรวจจับ ต้องบอกว่ายากนะคะ เพราะบางครั้งเวลาเรารู้เบาะแสก็จะมีคนไปแจ้งร้านค้าให้ปิดไปก่อน” พวงเพ็ชรกล่าว
พวงเพ็ชรกล่าวว่า ตำรวจทุกหน่วยงานรวมถึงต่างจังหวัดต้องดำเนินการอย่างจริงจัง ยืนยันว่าเรามีความเด็ดขาดเรื่องของการได้รับโทษ แต่ก็ยอมรับว่าโทษอาจจะแรงไม่พอ เพราะเมื่อจับไปแล้วก็ยังไปเปิดอีก ตนจะไปปรึกษาทีมกฎหมายว่าจะแก้ไขในการตรวจจับอย่างไร
พวงเพ็ชรได้เน้นย้ำถึงโทษของบุหรี่ไฟฟ้าว่า การสูบในช่วงวัยรุ่นจะทำให้ส่งผลต่อสมอง การเรียนรู้ และอารมณ์ หลายคนอยากลองบุหรี่ไฟฟ้าว่ามีรสชาติเป็นอย่างไร อยากจะเตือนน้องๆ เวลาเราห้าม วัยรุ่นยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ แต่อยากให้ทุกคนมองว่าโทษของมันคืออะไร ถ้าไปลองแล้วมันติดใจ ท่านก็จะไปลองอย่างอื่นต่อไป ทั้งยาบ้า กัญชา เราต้องเห็นเด็กวัยรุ่น เยาวชนของชาติ บุหรี่ไฟฟ้ายังเสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า ผู้ใหญ่ที่สูบเข้าไปบางคนเข้าใจผิดว่าโทษของมันไม่รุนแรงเหมือนบุหรี่มวน แต่จริงๆ แล้วรุนแรงยิ่งกว่า เพราะมีสารอันตรายถึง 4-5 ชนิด
พวงเพ็ชรกล่าวอีกว่า ส่วนใหญ่ที่จับได้ผู้เฝ้าร้านเป็นต่างด้าว ดังนั้นต้องสาวไปให้ถึงตัวการการนำเข้าที่จะมาทางตะเข็บชายแดน ตอนนี้มีการบูรณาการร่วมกับหลายกระทรวง กำลังตั้งหน่วยเฉพาะกิจในการจับกุม ส่วนของตนคงไม่ก้าวก่ายกับหน่วยอื่น ยอมรับว่ามีข่าวรั่ว ทำให้ต้องมีหน่วยเฉพาะกิจขึ้นมาในการแจ้งเบาะแส
ในช่วงท้ายของการแถลง ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงบุหรี่ไฟฟ้าที่มีโลโก้พรรคก้าวไกล พวงเพ็ชรระบุว่า จะให้ไปตรวจสอบดูว่าทำไมถึงมีสัญลักษณ์ของพรรคก้าวไกล โดยอาจจะต้องย้ำพรรคการเมืองว่าให้ตรวจสอบควบคู่ไปด้วยว่ามีการนำชื่อ สัญลักษณ์ และสีของพรรคการเมืองมาแอบอ้างในการทำสินค้าหรือไม่
ก้าวไกลยืนยันไม่เกี่ยวข้องบุหรี่ไฟฟ้ามีโลโก้พรรค
ขณะที่ ภคมน หนุนอนันต์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ ในฐานะรองโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีพบว่าบุหรี่ไฟฟ้ามีแพ็กเกจสีส้ม ลักษณะคล้ายโลโก้พรรคก้าวไกลว่า พรรคก้าวไกลไม่เคยผลิตสินค้าผิดกฎหมาย และไม่เกี่ยวข้องกับสินค้าผิดกฎหมายที่ได้ตรวจพบอย่างแน่นอน
ภคมนกล่าวต่อว่า ขอให้พวงเพ็ชรในฐานะรัฐมนตรีที่มีอำนาจตรวจสอบให้ได้ถึงต้นตอ ป้องกัน ปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย และดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างถึงที่สุดด้วย อย่าจบแค่จับของกลางและมาแถลงต่อสื่อมวลชนโดยไม่มีการทำงานเชิงลึกต่อ หวังว่าเราจะเห็นผลงานการทลายต้นตอของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี