×

ขึ้นเรือโจรสลัด สำรวจเส้นทางแห่งสีสันและรสชาติตามแบบฉบับ Pirate Arena [ปิดกิจการ]

07.04.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

5 Mins read
  • ชั้น 3 คือ Fallabella Luxe ปลุกคืนชีพ Fallabella ไนต์คลับชื่อดังในตำนานบนถนนราชดำริให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง กับแสงสีเสียงและความบันเทิงที่มาพร้อมดนตรีสดและดีเจชื่อดัง
  • ชั้นแรกเป็น Pirate Saloon เบียร์และวิสกี้บาร์แบบโอเพ่นแอร์ มีการใช้ระบบแสงสีสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในท้องเรือใต้ทะเล เป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์บาร์ที่มีความยาวอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯ โดยโซน Pirate Saloon มีบาร์ยาวกว่า 13 เมตร รองรับลูกค้าหน้าบาร์ได้พร้อมกันถึง 20 คน

Seenspace ในซอยทองหล่อ 13 รีโนเวตและปรับโฉมกลายเป็น Pirate Arena (ไพเรต อารีน่า) เรือโจรสลัดที่โผล่ใจกลางทองหล่อ ครบครันทั้งเรื่องกินดื่ม ดนตรี และแสงสีเสียงบนพื้นที่ 3 ชั้น กว่า 4,300 ตารางเมตร

 

บาร์แบบที่มีดีไซน์ของความเป็นอินดัสเทรียล

 

The Vibe

ชั้นแรกเป็น Pirate Saloon เบียร์และวิสกี้บาร์แบบโอเพ่นแอร์ มีการใช้ระบบแสงสีสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในท้องเรือใต้ทะเล เป็นที่ตั้งของเคาน์เตอร์บาร์ที่มีความยาวอันดับต้นๆ ในกรุงเทพฯ สามารถนั่งพร้อมกันได้ถึง 20 ท่าน และมีเวทีแสดงสำหรับดนตรีสดหรือกิจกรรมต่างๆ บูธดีเจ รวมถึงโซนที่นั่งไว้รองรับกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ชั้น 2 กำลังจะเป็น Pirate Bazaar โซนที่อัพสเกลขึ้นมาอีกหน่อย มี Wine Ministry สำหรับคอไวน์ที่สามารถมานั่งชิลล์พร้อมฟังดนตรีแจ๊ซ และโซนอาหารธีมนิวยอร์กและเยาวราช นำเสนออาหารสไตล์ครีเอทีฟและสตรีทฟู้ดคู่ขนานกัน และชั้น 3 คือ Fallabella Luxe ปลุกคืนชีพไนต์คลับชื่อดังในตำนานบนถนนราชดำริให้กลับมามีชีวิตอีกครั้งกับแสงสีเสียงและความบันเทิงครบครัน พร้อมดนตรีสดและดีเจชื่อดัง นอกจากนี้หลังคาของ Pirate Arena ยังสามารถเลื่อนเปิด-ปิดตามสภาพอากาศและบรรยากาศได้อีกด้วย

 

ภายในร้านที่ออกแบบให้ละม้ายคล้ายเรือโจรสลัด

 

นอกจากจะเป็นแหล่งบันเทิงแห่งใหม่ล่าสุดในย่านทองหล่อ ที่นี่ยังมีโซนร้านอาหารและบาร์ให้ได้นั่งสังสรรค์กับเพื่อนฝูงก่อนที่จะไปสนุกกันต่อใน Fallabella Luxe ซึ่งเมนูอาหารล้วนแต่ครีเอตให้แปลกใหม่และมีลูกเล่นเฉพาะ แต่ยังคงใส่ใจในเรื่องรสชาติและคุณภาพ

 

ปีกไก่ทอดกับชีสเยิ้มๆ และไก่ทอดคลุกซอสเกาหลีที่หวานอมเผ็ด

 

The Dishes

ระหว่างที่รอเพื่อนก็สั่งของมากินเล่นเพลินๆ กันก่อนกับ Cheesy Wings (260 บาท) ปีกไก่ทอดหน้าตาธรรมดาที่ไม่ธรรมดา ตั้งแต่การนำไก่ไปหมักในน้ำเกลือ แล้วยัดไส้ด้วยมอสซาเรลลาชีสคลุกเคล้ากับแป้งและนำไปทอดกรอบ โรยผงเกลืออีกเล็กน้อย พร้อมเสิร์ฟตรงถึงโต๊ะ แค่กินกับน้ำจิ้มไก่เบสิกก็อร่อยแล้ว แต่ถ้ากลัวเลี่ยน ลองกินโคลสลอว์กะหล่ำม่วงรสเปรี้ยวที่ช่วยตัดรสชาติและความเลี่ยนได้ดี หรือจะเป็น Spicy Wings (260 บาท) ไก่ทอดคลุกซอสเกาหลีรสหวานเผ็ดเบาๆ โรยงา เสิร์ฟคู่กับหอมใหญ่ดอง

 

เบอร์เกอร์ปอเปี๊ยะกรอบๆ

 

ต่อด้วย Cheese Burger Rolls (280 บาท) ของกินเล่นที่เกิดจากความชอบและเบื่อชีสเบอร์เกอร์ในเวลาเดียวกัน โดยอยากให้ชีสเบอร์เกอร์มีรูปแบบหน้าตาเป็นแบบๆ บ้าง ด้วยเหตุนี้จึงเปลี่ยนจากขนมปังมาเป็นปอเปี๊ยะทอดไส้เนื้อบด ชีส และแตงกวาดอง เพิ่มความอร่อยด้วยเตกีล่าเค็ตฉับ ซอสมะเขือเทศผสมเหล้าเตกีล่าให้รสชาติที่ละมุนยิ่งขึ้น หรือจะจิ้มกับอาร์มายัคมัสตาร์ด (Armagnac Mustard) ที่เป็นซอสมัสตาร์ดพร้อมเมล็ดผสมบรั่นดีจากแคว้นอาร์มายัค

 

หมูปิ้งหมักสไปรท์อันลือชื่อของชาว Fallabella

 

นักเที่ยวสมัย Fallabella น่าจะคุ้นเคยกับพลังของหมูปิ้งอันลือชื่อของที่นั่น (ที่นักท่องราตรียุคนั้น ว่ากันว่าโด่งดังน้องๆ หมูปิ้งสีลมทีเดียว) ซึ่งที่นี่ได้นำเมนูในตำนานออกมาเสิร์ฟอีกครั้ง Fame Fallabella Pork Skewers (200 บาท) หมูปิ้งฟาลาเบลล่าเนื้อนุ่มสูตรพิเศษหมักในสไปรท์ (ใช่แล้ว คุณอ่านไม่ผิด สไปรท์ น้ำอัดลมนั่นแหละ!) ที่มาพร้อมน้ำจิ้มแจ่วและข้าวเหนียว ระวังกินเพลินจนหมดทั้ง 5 ไม้โดยไม่รู้ตัว

 

พาสต้า Lobster Bouillabaisse Rigatoni

 

สลัดผักใบเขียวและอะโวคาโด มีกุ้งตัวโตเสียบไม้ กินกับไอศกรีมซอร์เบต์

 

มาถึงสลัดกันบ้าง Prawn & Avocado Salad (260 บาท) สลัดผักใบเขียวและอะโวคาโดราดบัลซามิกเดรสซิ่ง มีกุ้งตัวโตเสียบไม้เคียงมาในจานพร้อมกับซอร์เบต์มะนาว หลายคนอาจจะงงว่าทำไมถึงเสิร์ฟซอร์เบต์ในสลัด ซึ่งเชฟได้บอกกับเราสั้นๆ เพียงว่าให้ลองชิมก่อนถาม ไม่รอช้า จัดแจงคลุกเคล้าซอร์เบต์ให้เข้ากับสลัดแล้วลองชิม ไม่น่าเชื่อว่ารสชาติไปกันได้ดีและยังได้ความสดชื่นอีกด้วย ส่วน Lobster Bouillabaisse Rigatoni (950 บาท) จานนี้เป็นพาสต้าริกาโตนีเส้นกลวง มีรูใหญ่ตรงกลาง ผัดกับล็อบสเตอร์ในซอสบุยยาเบส ซึ่งเป็นซอสทะเลแบบฝรั่งเศสที่ได้จากการเคี่ยวซีฟู้ดหลายชนิดรวมกัน และเชฟยังได้ใส่เหล้าเพอร์นอตของฝรั่งเศสเพิ่มกลิ่นหอมหวานปิดท้าย

 

คุณชอบเหล้าเข้มแบบ Flying Dutchman หรือเปรี้ยวหวานแบบ Head Over Heels ล่ะ

 

The Drinks

บาร์เทนเดอร์แนะนำซิกเนเจอร์ค็อกเทล 2 แก้วคือ Head Over Heels (380 บาท) ดัดแปลงมาจาก Pina Colada เบสด้วยดาร์กรัมแล้วผสมไซรัปสองชนิดคือเกรนาดีนกับเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ที่ให้กลิ่นหอม ตกแต่งด้วยดอกลาเวนเดอร์แห้ง ส่วนใครที่ชอบเหล้าเข้มๆ ต้องลอง Flying Dutchman (380 บาท) ที่ใช้เหล้าเบอร์เบินอินฟิวส์กับน้ำผึ้งผสมดรายเวอร์มุทและสวีทเวอร์มุท แล้วหยดบิตเทอร์นิดหน่อยปิดท้าย ในแก้วมาพร้อมเข็มฉีดยาที่ใส่น้ำผึ้งให้ฉีดลงแก้วเพื่อเพิ่มรสหวานได้ตามใจชอบ

 

What You Should Know

  • Pirate Arena คือร้านอาหารในเครือเดียวกับ Fallabella ไนต์คลับเลขที่ 100 ถนนราชดำริอันโด่งดัง ซึ่งกำลังจะกลับมาเปิดใหม่อีกครั้งบนชั้น 3 ของ Pirate Arena เร็วๆ นี้ในชื่อ Fallabella Luxe
  • สำหรับเครื่องดื่ม ที่นี่มีหลายแบรนด์หลายราคาให้เลือกตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักแสน ซึ่งหนึ่งในเหล้าที่แพงที่สุดของร้านคือ Remy Martin Louis XIII ราคาขวดละ 150,000 บาท

 

Pirate Arena

Open: เปิดบริการทุกวัน เวลา 18.00-2.00 น.

Address: ซอยทองหล่อ 13 สุขุมวิท 55 กรุงเทพฯ

Budget: เริ่มต้นที่ 200 บาท

Contact: 08 3639 9919

Page: www.facebook.com/piratearena.official

Map:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X