สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดแถลงข่าวด่วนในช่วง 20.30 น. ที่ผ่านมา หลังจากที่ในช่วงก่อนหน้านี้ได้เปิดรับฟังความเห็น (เฮียริ่ง) ถึงแนวทางการกำกับดูแลการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล (คริปโตเคอร์เรนซี) ซึ่ง ก.ล.ต. ได้กำหนดคุณสมบัติช่วงการทำเฮียริ่งไว้ว่า ผู้ลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวจะต้องมีรายได้ต่อปีไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท หรือ 83,000 บาทต่อเดือน และต้องมีความรู้ความเข้าใจ มีประสบการณ์ลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีมาก่อน
อย่างไรก็ตาม จากการเฮียริ่งพบว่า มีผู้ไม่เห็นด้วยกับเกณฑ์คุณสมบัติเรื่องรายได้จำนวนมาก ทางสำนักงาน ก.ล.ต. จึงถอนเรื่องนี้ออกมา ไม่ได้นำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ก.ล.ต.
ส่วนเกณฑ์เรื่องความรู้ยังคงเอาไว้และได้นำเสนอให้บอร์ด ก.ล.ต. ได้พิจารณา ซึ่งบอร์ดก็มีมติเห็นชอบเกณฑ์ดังกล่าว โดย ก.ล.ต. เตรียมประสานงานกับผู้ประกอบการ เพื่อออกแบบทดสอบประเมินคุณสมบัติและความรู้ของผู้ลงทุน เพื่อนำมาใช้ในเร็วๆ นี้
รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต. เป็นตัวแทนแถลงผลการรับฟังความคิดเห็นและแนวทางการกำกับดูแลการซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีในครั้งนี้ว่า จากการเปิดรับฟังความเห็น (เฮียริ่ง) ในเรื่องดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ – 27 มีนาคมที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้รับความคิดเห็นจากทั้งผู้ประกอบการและผู้ลงทุนเข้ามาจำนวนมาก และได้ประมวลผลข้อมูลเหล่านั้นเพื่อนำส่งให้คณะกรรมการ ก.ล.ต. พิจารณา ในวันนี้ (1 เมษายน)
ซึ่งทางคณะกรรมการ ก.ล.ต. มีมติเห็นชอบให้กำหนดเกณฑ์คุณสมบัติผู้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี ใน 2 เรื่องหลัก คือ 1. ด้านคุณสมบัติความรู้ และ 2. ด้านการรับความเสี่ยง
โดยเกณฑ์กำหนดคุณสมบัติด้านความรู้นั้น คณะกรรมการเห็นชอบให้พิจารณาจากการมีประสบการณ์ซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีมาก่อนหรือไม่ หากมีประสบการณ์แล้วจะถือว่าผ่านคุณสมบัติ หากไม่เคยมีประสบการณ์ จะมี 2 ทางเลือกสำหรับผู้ลงทุน คือ 1. เข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี และ 2. การทำแบบทดสอบความรู้ (Knowledge Test) เมื่อเข้ารับการอบรม หรือทำแบบทดสอบผ่านแล้ว จะถือว่าผ่านคุณสมบัติ
ในด้านคุณสมบัติด้านการรับความเสี่ยง คณะกรรมการเห็นชอบให้ผู้ประกอบการทำหน้าที่เป็นผู้ให้คำแนะนำการลงทุน และจัดพอร์ตการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีให้กับผู้ลงทุน เพื่อให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับความเสียหายจากการลงทุนมากนัก
พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล