สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยการดำเนินคดีด้วยมาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด 7 ราย กรณีสร้างราคาหุ้น บมจ.เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น หรือ NBC โดยเรียกให้ชำระค่าปรับทางแพ่งรวม 6,266,640 บาท
สำนักงาน ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและตรวจสอบเพิ่มเติม พบการกระทำความผิดของบุคคล 7 ราย ได้ร่วมรู้เห็นตกลงแบ่งหน้าที่กันสลับเข้าซื้อขายหุ้น NBC ในลักษณะจับคู่ซื้อขายกันเอง อันเป็นการอำพรางให้บุคคลอื่นหลงผิดเกี่ยวกับสภาพการซื้อขาย และซื้อขายในลักษณะผลักดันราคาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาหรือปริมาณการซื้อขายหุ้น NBC ผิดไปจากสภาพผิดปกติของตลาด เพื่อจูงใจให้ผู้ลงทุนรายอื่นเข้าซื้อหรือขายตาม และแสวงหาประโยชน์จากการกระทำดังกล่าว ดังนี้
เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2559 บุคคลจำนวน 5 ราย ได้แก่ 1. ยรรยงค์ อินทรสงเคราะห์ 2. เอกวิชญ์ กมลเทพา 3. กรรณิดา ตั้งกิจตรงเจริญ 4. ภาณุรักษ์ แสงอร่าม 5. ภควันต์ วงษ์โอภาสี ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาหุ้น NBC เพิ่มขึ้นจาก 2.46 บาท ขึ้นไปสูงสุดที่ 3.02 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 10,000 หุ้น เป็น 11,680,000 หุ้น
เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2559 บุคคลจำนวน 6 ราย ได้แก่ 1. ยรรยงค์ 2. เอกวิชญ์ 3. กรรณิดา 4. พรเพ็ญ นิธิเกษม 5. ภควันต์ และ 6. กรวิช อัศวกุล ได้ร่วมกันกระทำการโดยมีผลทำให้ราคาหุ้น NBC เพิ่มขึ้นจาก 2.46 บาท ขึ้นไปสูงสุดที่ 2.80 บาท และปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจาก 441,200 หุ้น เป็น 15,224,200 หุ้น
การกระทำของบุคคลจำนวน 7 ราย ดังกล่าวเป็นความผิดตามมาตรา 243 (1) ประกอบมาตรา 244 และมาตรา 243 (2) ซึ่งต้องระวางโทษมาตรา 296 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ซึ่งมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2559 บัญญัติให้นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้กับการกระทำความผิดดังกล่าวได้
คณะกรรมการพิจารณามาตรการลงโทษทางแพ่ง (ค.ม.พ.) มีมติให้ ก.ล.ต. นำมาตรการลงโทษทางแพ่งมาใช้บังคับกับผู้กระทำความผิดทั้ง 7 ราย โดยกำหนดให้ชำระค่าปรับทางแพ่งดังนี้ 1. ยรรยงค์ จำนวน 1,000,000 บาท 2. เอกวิชญ์ จำนวน 1,000,000 บาท 3. กรรณิดา จำนวน 1,000,000 บาท 4. ภาณุรักษ์ จำนวน 500,000 บาท 5. พรเพ็ญ จำนวน 893,439 บาท 6. ภควันต์ จำนวน 1,373,201 บาท และ 7. กรวิช จำนวน 500,000 บาท
หากผู้กระทำความผิดไม่ยินยอมปฏิบัติตามมาตรการลงโทษทางแพ่งที่ ค.ม.พ. กำหนด ก.ล.ต. จะมีหนังสือขอให้พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีต่อศาลแพ่ง เพื่อกำหนดมาตรการลงโทษทางแพ่งในอัตราที่ไม่ต่ำกว่าที่ ค.ม.พ. กำหนด จนถึงอัตราสูงสุดที่กฎหมายบัญญัติ
การที่ ค.ม.พ. ใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งกับผู้กระทำความผิด เป็นเหตุให้ผู้กระทำความผิดดังกล่าวเข้าข่ายเป็นผู้มีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการหรือผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียน รวมทั้งการมีลักษณะต้องห้ามการเป็นบุคลากรในธุรกิจตลาดทุน
ทั้งนี้ เงินค่าปรับทางแพ่งที่ได้รับจากการกระทำความผิดเป็นรายได้แผ่นดินที่นำส่งกระทรวงการคลัง