ก.ล.ต. พัฒนาระบบ AI ใช้ส่งสัญญาณความผิดปกติกรณีบริษัทจดทะเบียนทำผิดกฎหมายเพื่อเป็นเครื่องมือตรวจสอบเส้นทางเชื่อมโยงการเงิน ตัวบุคคล หวังต่อจิ๊กซอว์นำผู้กระทำผิดมาลงโทษ พร้อมคาดเกณฑ์กำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่มีผล 4 เมษายนนี้ จะสามารถอุดช่องโหว่ลดความร้อนแรงหุ้นผิดปกติได้
เอนก อยู่ยืน ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ก.ล.ต. อยู่พัฒนาระบบ AI เพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือช่วยในการตรวจสอบและตรวจการเชื่อมโยงทางการเงิน การเชื่อมโยงบุคคลที่เกี่ยวข้อง กรณีที่มีการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การสร้างราคา หรือการปั่นหุ้น เพื่อนำมาต่อจิ๊กซอว์การเชื่อมโยงกัน
“ในช่วงปลายปีนี้เราน่าจะมีความคืบหน้ามาเล่าให้ฟังว่าเราทำอะไรบ้าง และทำอะไรไปถึงไหนแล้ว” เอนกกล่าว
การพัฒนาระบบ AI ดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งในแผนยุทธศาสตร์การบังคับใช้กฎหมาย ซึ่ง ก.ล.ต. อยู่ระหว่างการเสนอเพื่อให้มีการแก้ไขปรับปรุงโดยให้อำนาจสำนักงาน ก.ล.ต. สามารถสืบสวนสอบสวนและรวบรวมหลักฐานเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลกรณีความผิดทางอาญา ตลอดจนการให้ความคุ้มครองพยานด้วย
“การจะใช้มาตรการทางแพ่งหรืออาญา ก.ล.ต. เป็นคนตัดสินใจ แต่เมื่อใช้มาระยะหนึ่งแล้วก็ต้องมีการทบทวน ซึ่ง ก.ล.ต. เห็นว่าควรมีการลงโทษทางอาญาควบคู่ไปด้วยก็ต้องเสนอให้แก้กฎหมายกัน เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาซักระยะหนึ่ง”
ส่วนกรณีการกล่าวโทษ ผู้ใช้นามแฝง มด คันหุ้น จากความผิดเข้าข่ายดำเนินการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จ (เฟกนิวส์) แบบเป็นขบวนการผ่านโปรแกรมไลน์ ปัจจุบันได้ส่งเรื่องต่อไปยังชั้นสืบสวนเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมแล้ว
“เคสนี้ถือว่าน่าสนใจ เราไม่ได้กล่าวโทษแค่คนที่ใช้นามแฝง แต่ส่งเรื่องคนที่เกี่ยวข้องไปทั้งหมด ข้อมูลที่ได้มาพบว่า ไม่ใช่ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียน หรือนักวิเคราะห์ ดังนั้นหากคดีถึงที่สุด ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนอาจจะฟ้องร้องฐานละเมิดได้”
เอนกยังกล่าวถึงกรณีที่ตลาดหลักทรัพย์จะนำกฎเกณฑ์การกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.ล.ต. ออกมาใช้โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 เป็นต้นไปว่า มาตรการดังกล่าวเป็นการยกระดับความเข้มข้นขึ้นจากมาตรการเดิมจึงน่าจะช่วยอุดช่องโหว่และลดความร้อนแรงของหุ้นที่เข้าข่ายผิดปกติได้
สำหรับมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่มี 3 ระดับ คือ
มาตรการระดับ 1 ต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด 100% และห้ามโบรกเกอร์นำหุ้นตัวนั้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย
มาตรการระดับ 2 ต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด100% และห้ามโบรกเกอร์นำหุ้นตัวนั้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย และห้ามหักกลบค่าซื้อค่าขายหุ้นตัวนั้นในวันเดียวกัน
มาตรการระดับ 3 ตลาดหลักทรัพย์จะพักการซื้อขายหุ้นตัวนั้นในวันแรกที่มาตรการมีผลบังคับใช้ โดยจะเปิดให้ซื้อขายได้อีกครั้งในวันถัดไป แต่ยังต้องซื้อหุ้นด้วยเงินสด 100% และห้ามโบรกเกอร์นำหุ้นตัวนั้นมาคำนวณวงเงินซื้อขาย และห้ามหักกลบค่าซื้อค่าขายหุ้นตัวนั้นในวันเดียวกัน
ทั้งนี้มาตรการแต่ละระดับจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 3 สัปดาห์
