×

“ไทยพาณิชย์ – ศิริราช” ผนึกกำลังสร้างการเปลี่ยนแปลง ต้นแบบองค์กรยั่งยืนเพื่อสังคมไทย [ADVERTORIAL]

16.12.2025
  • LOADING...

“ธนาคารไทยพาณิชย์” ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกของคนไทย และ “โรงพยาบาลศิริราช” โรงพยาบาลแห่งแรกของประเทศไทย 2 องค์กรแห่งแผ่นดินที่ต่างมีประวัติศาสตร์ยาวนานคู่กับสังคมไทย และมีบทบาทสำคัญต่อการดูแลประชาชนไทยมาแล้วมากกว่าร้อยปี ผ่านการให้บริการที่แม้จะแตกต่างกันในธุรกิจ หากแต่มีหลักคิดที่ตรงกันในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้สังคมไทยอย่างยั่งยืน ด้วยการปรับตัวให้ก้าวทันกับการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยนำแนวคิดทางด้านความยั่งยืนทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ผสานการพัฒนาศักยภาพเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการให้บริการ ที่มุ่งหวังความพึงพอใจของลูกค้าเป็นผลลัพธ์ของความสำเร็จ ด้วยเป้าหมายสูงสุดที่จะอยู่ดูแลคนไทยให้มั่นคงทางการเงินและสุขภาพต่อไปอีกนับร้อยปี

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ โรงพยาบาลศิริราช 2 องค์กร

 

SCB เดินหน้าสร้างพันธมิตรขับเคลื่อนความยั่งยืน ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางการเงิน

 

“ด้วยบทบาทของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่เป็นสถาบันการเงินมอบความมั่นคงทางการเงินให้แก่คนไทย ธนาคารมุ่งมั่นนำเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นรากฐานในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ โดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง พร้อมต่อยอดความเชี่ยวชาญให้แก่พันธมิตรในหลากหลายภาคส่วนที่ต้องการใช้นวัตกรรมขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเพื่อร่วมปกป้องอนาคตของโลกเรา” ดร.ยรรยง ไทยเจริญ Chief Economist and Sustainability Officer ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงแนวทางความยั่งยืนของไทยพาณิชย์

 

ในฐานะผู้นำด้านการบริหารความยั่งยืนของธนาคาร ดร.ยรรยง เชื่อว่า “ความยั่งยืนเริ่มได้จากตัวเรา” และต้องต่อยอดสู่พันธมิตร เพื่อร่วมสร้างคุณค่าร่วมกันอย่างแท้จริง โดยธนาคารไม่เพียงสนับสนุนด้านการเงิน แต่ยังร่วมออกแบบโซลูชันทางเทคโนโลยีเพื่อยกระดับประสิทธิภาพและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนผ่านความร่วมมือกับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ในหลายมิติ อาทิ

  • แอปพลิเคชัน “Siriraj Connect” ดิจิทัลแพลตฟอร์มที่เชื่อมโยงข้อมูลการให้บริการสุขภาพในรูปแบบออนไลน์ ช่วยให้ผู้ป่วยตรวจสอบข้อมูล นัดหมายล่วงหน้า เช็คอินยืนยันเวลาพบแพทย์ และชำระเงินออนไลน์ได้สะดวกผ่าน SCB Payment Gateway โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแล้วกว่า 1 ล้านราย
  • โครงการจัดทำหลักสูตรฝึกอบรมบุคลากรศิริราช เพื่อพัฒนาผู้นำและผู้บริหารให้พร้อมสำหรับยุคดิจิทัล ผ่าน 3 หลักสูตรหลัก ได้แก่
  1. Foundation Courses เน้นพัฒนา Power Skills และ Mindset ที่จำเป็นสำหรับบุคลากรระดับหัวหน้างาน
  2. Executive Program for Siriraj หลักสูตรผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงเพื่อสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดด
  3. Lean Evangelist for Siriraj สำหรับบุคลากรที่ทำงานด้านลีน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความสูญเสียในกระบวนการ
  • การเปลี่ยนระบบการชำระเงินคู่ค้า ผ่านโครงการ “SCB ดิจิทัล เพย์เมนท์ โซลูชัน” ซึ่งธนาคารไทยพาณิชย์ได้พัฒนาร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เพื่อยกระดับการบริหารจัดการทางการเงินขององค์กรภาครัฐให้มีประสิทธิภาพ โปร่งใส และยั่งยืนยิ่งขึ้น โดยเปลี่ยนกระบวนการชำระเงินจากระบบเช็คเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด ช่วยลดการใช้ทรัพยากรในขั้นตอนการดำเนินงาน ลดต้นทุนเวลาและพลังงาน พร้อมสนับสนุนเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของศิริราชในการมุ่งสู่ความเป็นองค์กร Net Zero ซึ่งโครงการนี้ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาคจากเวที The Asset Awards ในฐานะตัวอย่างความร่วมมือระหว่างภาคการเงินและภาคสาธารณสุข ที่ขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านนวัตกรรมทางการเงิน

 

“ความร่วมมือเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การเงินยั่งยืนไม่ใช่เพียงการสนับสนุนเงินทุน แต่คือการใช้เทคโนโลยี ความรู้ และนวัตกรรมเพื่อสร้างระบบนิเวศการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริงในทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในภาคสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับคุณภาพชีวิตของคนไทย” ดร.ยรรยง กล่าว

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ โรงพยาบาลศิริราช 2 องค์กร

ดร.ยรรยง ไทยเจริญ

Chief Economist and Sustainability Officer

ธนาคารไทยพาณิชย์

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้กำหนดกรอบการดำเนินงานภายใต้แนวคิด “อยู่ อย่าง ยั่งยืน (Live Sustainably)” ครอบคลุม 3 ด้านหลัก ได้แก่

  1. การนำองค์กรสู่ Net Zero ภายในปี 2030 ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินงานของธนาคาร (Scope 1–2)
  2. การสนับสนุนลูกค้าเปลี่ยนผ่านสู่ความยั่งยืน และธนาคารไทยพาณิชย์ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อความยั่งยืน(sustainable finance)ไปแล้วกว่า 200,000 ล้านบาท ในช่วง 2023-2025 ทั้งยังเป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ตั้งเป้า Net Zero 2050 ตามมาตรฐาน SBTi จากพอร์ตสินเชื่อและการลงทุน
  3. การขับเคลื่อนสังคมให้ดียิ่งขึ้น ผ่านโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพชีวิต และการสร้างคนรุ่นใหม่เพื่ออนาคต

 

ดร.ยรรยง กล่าวย้ำว่า “ความยั่งยืนคือหัวใจที่อยู่คู่กับธนาคารไทยพาณิชย์มาตั้งแต่วันแรกของการก่อตั้ง จวบจนปัจจุบันที่ธนาคารมีอายุครบ 118 ปี เพื่อสานต่อเจตนารมณ์นี้เอง เราจึงยึดมั่นในพันธกิจ ‘อยู่ อย่าง ยั่งยืน’ ด้วยความตั้งใจที่จะส่งต่อคุณค่าความยั่งยืนสู่สังคมไทย ผ่านการลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง เพื่อสร้างแรงกระเพื่อมให้ทุกภาคส่วนร่วมกันขับเคลื่อน พร้อมสืบทอดคุณค่าระบบนิเวศแห่งความช่วยเหลือเกื้อกูลให้คงอยู่กับสังคมไทยอย่างยั่งยืน”

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ โรงพยาบาลศิริราช 2 องค์กร

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล

คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

 

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล  กล่าวว่า การสร้างความยั่งยืนของ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มีหลายมิติด้วยกัน ทั้งมิติสิ่งแวดล้อม มิติด้านเทคโนโลยีและดิจิทัล และมิติสังคม โดยในด้านสิ่งแวดล้อมนั้น ด้วยปณิธานสถาบันการแพทย์ของแผ่นดิน และวิสัยทัศน์ที่จะผลักดันการแพทย์ยั่งยืน เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน จึงได้กำหนดแนวทางการขับเคลื่อนสู่เป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals : 17 SDGs) โดยมี 4 เป้าหมายที่เป็นหัวใจสำคัญ ได้แก่ สุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างเท่าเทียม ให้การศึกษาที่มีคุณภาพผ่านการสร้างบุคลากรการแพทย์ที่มีความรู้ ทักษะและจริยธรรม การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัด และสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานทุกภาพส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ โรงพยาบาลศิริราช 2 องค์กร

ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร

ผู้อำนวยโรงพยาบาลศิริราช

 

ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ ศิริวัฒนอักษร ผู้อำนวยโรงพยาบาลศิริราช ได้ริเริ่มโครงการ “โรงพยาบาลศิริราชมุ่งสู่ความยั่งยืน” เพื่อเป็นต้นแบบของสถานพยาบาลที่มุ่งเน้นการดูแลสุขภาพประชาชนควบคู่ไปกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยโครงการดังกล่าวให้ความสำคัญในสามด้านหลัก ดังนี้

 

1) การจัดการพลังงานไฟฟ้าอย่างยั่งยืน โรงพยาบาลศิริราชมีการส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยร่วมมือกับการไฟฟ้านครหลวง ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) สามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้เฉลี่ย 1.5 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี และร่วมกับ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศึกษาและปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของระบบปรับอากาศแบบรวมศูนย์ใน อาคารศรีสวรินทิรา พบว่า สามารถลดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า 1 ล้านบาทต่อปี หรือคิดเป็นการลดการใช้ไฟฟ้าประมาณ 200,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมงต่อปี ทั้งนี้ โรงพยาบาลมีแผนที่จะขยายผลการศึกษาและปรับปรุงระบบปรับอากาศไปยังอาคารขนาดใหญ่อื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานอย่างต่อเนื่อง

 

2) การจัดการขยะอย่างยั่งยืน โรงพยาบาลศิริราชดำเนินกิจกรรมรณรงค์เพื่อลดการใช้พลาสติกแบบครั้งเดียวทิ้ง (single-use plastic) โดยสนับสนุนให้ผู้รับบริการใช้ ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก และยังพัฒนา ระบบคัดแยกขยะ ให้มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยปรับรูปแบบถังขยะในพื้นที่สาธารณะให้เหลือเพียง สองประเภท ได้แก่ ถังสีน้ำเงิน สำหรับขยะทั่วไป ถังสีเหลือง สำหรับขยะรีไซเคิล อีกทั้งร่วมมือกับ บริษัท Wake Up Wake ในการรับซื้อและจัดการขยะรีไซเคิล  เพื่อนำไปแปรรูปและใช้ประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งดำเนินนโยบาย ปรับปรุงโรงกำจัดขยะ ให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพในการแปลงขยะเป็นพลังงานหรือทรัพยากรที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่

 

3) การจัดทำข้อมูลพื้นฐานของคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร เพื่อมุ่งสู่การเป็น องค์กรที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Organization) โรงพยาบาลศิริราชได้เริ่มเก็บข้อมูลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ถึงกันยายน พ.ศ. 2567 ผลการประเมินเบื้องต้นพบว่าโรงพยาบาลมีการปล่อยคาร์บอนรวมประมาณ 80,000 tCO₂-eq โดยส่วนใหญ่เกิดจากการใช้ไฟฟ้า (Scope 2) สูงถึง 60,000 tCO₂-eq

 

ในมิติเทคโนโลยีและดิจิทัลนั้น เนื่องจากปัจจุบันโรงพยาบาลศิริราช มีผู้ใช้บริการเฉลี่ยต่อวันกว่า 22,000 ราย และมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง ด้วยประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ และคนไทยให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพมากขึ้น ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีเพื่อเชื่อมโยงกับระบบของโรงพยาบาล เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อ จึงจะยิ่งมีความสำคัญต่อการให้บริการแก่คนจำนวนมาก

 

“แนวทางดังกล่าวไม่เพียงสอดคล้องกับ เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) แต่ยังแสดงถึง วิสัยทัศน์ของโรงพยาบาลศิริราช ในการเป็นต้นแบบองค์กรด้านการแพทย์ที่ ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยีสมัยใหม่ เชื่อมโยงการดูแลสุขภาพเข้ากับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อสร้าง สังคมสุขภาพดีที่สมดุลกับธรรมชาติ และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในระดับชาติและนานาชาติ” ศ.ดร.นพ.ยงยุทธ กล่าว

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ โรงพยาบาลศิริราช 2 องค์กร

 

ย้อนไปเมื่อปี 2561 ประเทศไทยได้เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุค 4.0  โรงพยาบาลศิริราช  จึงได้ประกาศตัวเป็น  ศิริราช 4.0 และมีวิสัยทัศน์แน่วแน่ในการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาขับเคลื่อนการให้บริการ โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์นำเทคโนโลยีเชื่อมโยงข้อมูลของศิริราช และเกิดเป็นการให้บริการสุขภาพของโรงพยาบาลศิริราช ในรูปแบบออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือ ด้วยแอปพลิเคชัน “Siriraj Connect” (ศิริราช คอนเน็ค) เพื่อช่วยให้ผู้รับบริการได้รับความสะดวกในการนัดหมายล่วงหน้าและการตรวจสอบข้อมูลการใช้ยาได้อย่างถูกต้อง สร้างประสบการณ์ที่ไร้รอยต่อแก่ผู้รับบริการของโรงพยาบาล โดยปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ Siriraj Connect กว่า 1 ล้านราย

 

ความร่วมมือเพื่อสังคมไทยที่ยั่งยืน

 

วันนี้ ศิริราชยังได้มองถึงการเปลี่ยนแปลงกระบวนการภายในโรงพยาบาลผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นกลไกสำคัญ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ลดการใช้ทรัพยากรต่างๆ รวมถึงพลังงานต่างๆ และสนับสนุนให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์  (Net Zero)  ภายในปี 2065  จึงเป็นที่มาของความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่างศิริราชและไทยพาณิชย์ ด้วยบริการ “SCB ดิจิทัล เพย์เมนท์ โซลูชัน” เพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการชำระเงินให้แก่คู่ค้าโรงพยาบาลจากการจ่ายเช็ค เป็นระบบบริการ “โอนเงินเข้าบัญชีคู่ค้าอัตโนมัติ” (SCB Supplier Payment) ซึ่งทำให้ศิริราชสามารถลดการพึ่งพาวิธีการชำระเงินสำหรับคู่ค้าผ่านเช็คกว่า 26,800 ฉบับต่อปี  ในรอบ 1 ปี ที่ศิริราชเปลี่ยนมาใช้ “SCB ดิจิทัล เพย์เมนท์ โซลูชัน”  (2567 – 2568) โรงพยาบาลสามารถลดการใช้ทรัพยากรและพลังงานจากกระบวนการชำระเงินรูปแบบเดิมได้จริงเทียบเท่าการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 93 ตันคาร์บอนต่อปี หรือ เทียบเท่ากับการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้จำนวน 10,000 ต้นต่อปี (โดยเฉลี่ยต้นไม้ 1 ต้นดูดซับ CO2 ได้ 9.5 kg/ปี) ลดค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการออกเช็ค 26,800 ฉบับ และลดการใช้กระดาษตลอดกระบวนการชำระเงินถึง 650,000 แผ่น ลดพลังงานจากการเดินทางเพื่อรับ-ส่งเช็คประมาณปีละกว่า 1,400,000 กิโลเมตร และลดชั่วโมงการทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเช็คได้กว่า 480 ชั่วโมง

 

ธนาคารไทยพาณิชย์ และ โรงพยาบาลศิริราช 2 องค์กร

 

ศ.นพ.อภิชาติ ย้ำว่า การเปลี่ยนแปลงระบบการชำระเงินสำหรับหน่วยงานของรัฐเป็นเรื่องท้าทาย เพราะมีหลายขั้นตอนและต้องปรับปรุงระบบการตรวจสอบการจ่ายเงินภายในให้มีประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการจ่ายเงินตามมาตรฐานของหน่วยงานภาครัฐ ความร่วมมือระหว่าง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และธนาคารไทยพาณิชย์ในครั้งนี้ จึงเป็นการร่วมสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในฐานะหน่วยงานรัฐที่ทลายข้อจำกัดกระบวนการชำระเงิน และยังตอบโจทย์ความยั่งยืนได้อย่างเป็นรูปธรรม

 

ดร.ยรรยง กล่าวเพิ่มเติมว่า “แม้หลายอุตสาหกรรมยังอยู่ในช่วงปรับตัว โดยรอความพร้อมของเทคโนโลยีและความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ แต่การประเมินความมุ่งมั่นของลูกค้าในช่วงต้นถือเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงอย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ เพื่อก้าวสู่ความยั่งยืนในระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากมองจากมุมขององค์กรภาครัฐ การเดินหน้าของ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล   ในด้านความยั่งยืน ถือเป็นสัญญาณที่ดีและน่าชื่นชมอย่างยิ่ง เพราะสะท้อนถึงความกล้าหาญในการริเริ่มและความมุ่งมั่นในการสร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม ซึ่งไม่เพียงเป็นแบบอย่างให้กับองค์กรอื่นๆ เท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้ประเทศไทยก้าวไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง”

 

ความร่วมมือกันของธนาคารไทยพาณิชย์ และ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงเป็นกรณีศึกษาของการบูรณาการ “เทคโนโลยี การเงิน และการแพทย์” เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ทั้งในมิติของประสิทธิภาพองค์กร การดูแลสุขภาพประชาชน และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนของสององค์กรต้นแบบที่มีรากฐานมั่นคงในอดีต แต่ยังคงพัฒนาอย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อดูแล “สุขภาพและความมั่นคงทางการเงินของคนไทย” ให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปอีกนานนับศตวรรษ

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising