เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัท Venture Capital ที่มุ่งเน้นการลงทุนในสตาร์ทอัพด้าน Disruptive Technology ทั่วโลก และเป็นผู้วิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่เกี่ยวกับ Disruptive Technology ของกลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ล่าสุด ประกาศความร่วมมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB), บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) เปิดตัว Rubie Wallet เข้าร่วมทดสอบภายใต้กรอบ Enhanced Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย และโครงการ Digital Asset Regulatory Sandbox ของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยร่วมกับบริษัทชั้นนำ เช่น Fireblocks, Elliptic, Circle และ Base เพื่อนำเสนอโซลูชันด้านการชำระเงินที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
Rubie Wallet คือแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลที่ออกแบบมาเพื่อชาวต่างชาติที่เดินทางมาเข้าร่วมงานสัมมนา Devcon 2024 ณ กรุงเทพฯ โดยเปิดให้ทดสอบระหว่างวันที่ 5-25 พฤศจิกายน 2567 ด้วยการใช้ Stablecoin ในการแปลงสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐ (Regulated US-Dollar Pegged Stablecoin) เป็นสกุลเงินบาทดิจิทัล (Thai Baht Stablecoin: THBX) ได้แบบเรียลไทม์เพื่อชำระค่าสินค้าและบริการด้วยทางเลือกใหม่ที่รวดเร็วและคุ้มค่ากว่าการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบดั้งเดิม เฉพาะร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการทดสอบ
Rubie Wallet คือ โชว์เคสนวัตกรรมใหม่ด้านการเงิน โดยมีการนำนวัตกรรม Purpose Bound Money (PBM) หรือ ‘การกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้เงิน’ ที่ช่วยให้กระบวนการชำระเงินเป็นเรื่องง่ายและจำกัดขอบเขตการใช้งานได้ โดย PBM จะสามารถตั้งเงื่อนไขอัตโนมัติเพื่อกำหนดการใช้จ่ายได้ในเขตพื้นที่และร้านค้าที่กำหนดเท่านั้น ซึ่งในระหว่างการทดสอบนี้จะยังไม่สามารถใช้งานเป็นการทั่วไปได้
กลุ่ม SCBX เล็งเห็นประโยชน์จากการทดสอบนวัตกรรมทางการเงินในครั้งนี้ หากประสบความสำเร็จจะทำให้เกิดบริการทางการเงินใหม่ที่ช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในการใช้จ่ายเงินในประเทศไทยได้ เช่น ความไม่สะดวกจากการพกพาเงินสด, การลดขั้นตอนในการติดต่อธนาคารหรือบูธแลกเงินเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ รวมทั้งการประหยัดค่าธรรมเนียมหรืออัตราแลกเปลี่ยนที่สูงจากการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต
Rubie Wallet จะทำการทดสอบไปจนถึงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 โดยผู้เข้าร่วมทดสอบในครั้งแรกนี้จะจำกัดเฉพาะชาวต่างชาติที่เดินทางมาร่วมงานสัมมนา Devcon 2024 ที่จัดขึ้นโดย Ethereum Foundation และงาน Side Events ที่เกี่ยวข้องเท่านั้น และจะยังไม่เปิดทดลองกับบุคคลที่มีสัญชาติไทย
ผู้ใช้งานที่เข้าร่วมทดสอบจะต้องดำเนินการยืนยันตัวตน (KYC) เพื่อให้มั่นใจในการปฏิบัติตามข้อกำหนดของโครงการ โดยเมื่อผู้ใช้งานติดตั้งแอปพลิเคชันและผ่านกระบวนการ KYC เสร็จสมบูรณ์ ผู้ใช้งานสามารถใช้ Stablecoin ในการแปลงสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐเป็น THBX และใช้ชำระเงินค่าสินค้าและบริการได้ที่ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการกว่า 100 แห่งในเขตพื้นที่ที่กำหนด
ทั้งนี้ ระบบ ‘สแกนเพื่อชำระเงิน’ (Scan to Pay) บนแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัล Rubie Wallet ของ SCB 10X ร่วมกับธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) นำเสนอการชำระเงินผ่าน Closed-Loop QR Code ตามร้านค้าที่เข้าร่วมรายการและในเขตพื้นที่ที่กำหนด จะช่วยผลักดันการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลในประเทศไทย โดยแอปพลิเคชันนี้นับเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้นวัตกรรมการเงินที่กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้ (PBM) และ Stablecoin มาใช้ผ่าน Rubie Wallet ด้วยค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่ต่ำกว่าบน Base Chain และสะดวกกว่าการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศแบบดั้งเดิม
โครงการนี้ได้รับการรักษาความปลอดภัยผ่านโครงสร้างพื้นฐาน Wallets-as-a-Service ของ Fireblocks และนำบริการของ Elliptic มาใช้เพื่อวิเคราะห์บล็อกเชนสำหรับตรวจสอบธุรกรรมเพื่อความโปร่งใสของธุรกรรมที่ใช้ Stablecoin อีกทั้งใช้บริการของ Base แปลงสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นโซลูชัน Layer 2 ที่ทำงานบนบล็อกเชน ผสานความร่วมมือกับ บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) เรือธงด้านการลงทุนภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) โดยการใช้ประโยชน์จาก Stablecoin ในการแปลงสกุลเงินดิจิทัลที่ผูกกับเงินดอลลาร์สหรัฐเป็น THBX
มุขยา (ใต้) พานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X เชื่อว่าการเข้าร่วมทดสอบระบบภายใต้กรอบการกำกับดูแล Regulatory Sandbox ของ ธปท. และ ก.ล.ต. จะเป็นก้าวสำคัญในการช่วยยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้งานและช่วยผลักดันการเข้าถึงบริการทางการเงินทั่วโลก รวมถึงส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมทางการเงินของไทย ทั้งนี้ เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการเข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้”
ด้าน อีวอนน์ อึ้ง Regional Director, APAC ของ Elliptic เปิดเผยว่า “เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับผู้นำในอุตสาหกรรมอย่างกลุ่ม SCBX, Fireblocks, Circle และ Base ในการนำ Rubie Wallet แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลมาเข้าทดสอบในครั้งนี้ ด้วยการผสานการวิเคราะห์บล็อกเชนของ Elliptic ช่วยให้เราสามารถนำเสนอโซลูชันที่สร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความโปร่งใส ด้วยศักยภาพในการตรวจจับกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของ Elliptic จะช่วยให้ผู้ใช้ของเราได้รับประสบการณ์ด้านมาตรฐานความปลอดภัย ความโปร่งใส และบริหารความเสี่ยงได้อย่างเหมาะสม
“Fireblocks มุ่งมั่นที่จะนำเสนอโครงสร้างพื้นฐานด้านการชำระเงินสินทรัพย์ดิจิทัลที่ปลอดภัยและสามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้ ความร่วมมือของเรากับ SCB 10X บน Rubie Wallet แอปพลิเคชันกระเป๋าเงินดิจิทัลนับเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นดังกล่าว ด้วยการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Wallets-as-a-Service ของเรา ช่วยให้มั่นใจว่าทุกธุรกรรมที่ใช้จ่ายผ่าน Rubie Walltet จะได้รับความปลอดภัย พร้อมขับเคลื่อนคลื่นลูกใหม่แห่งนวัตกรรมผ่านเงินที่ถูกตั้งโปรแกรมเพื่อกำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้จ่าย” ไมเคิล ชอลอฟ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของ Fireblocks กล่าวทิ้งท้าย
SCB 10X เดินหน้าสร้างเวทีใหม่สำหรับนวัตกรรมทางการเงินแห่งอนาคตในประเทศไทยและอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดย Rubie Wallet พร้อมที่จะเข้าร่วมทดสอบเพื่อสรรค์สร้างและผลักดันบริการทางการเงินใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมภาคการเงิน ภาคการท่องเที่ยวของประเทศไทย และประโยชน์สูงสุดต่อผู้ใช้บริการ