ในโลกที่เศรษฐกิจและการลงทุนเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การมีพันธมิตรทางการเงินที่เข้าใจและสามารถนำทางไปสู่โอกาสการลงทุนระดับสากลจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มนักลงทุนที่มีความมั่งคั่งระดับสูง
SCB Julius Baer ในฐานะผู้ให้บริการธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับสูงโดยเฉพาะ ผ่านบริการและโซลูชันบริหารความมั่งคั่งที่ครอบคลุมและมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับระดับสากล
บริหารความมั่งคั่งฉบับสวิส ผสานอินไซต์แบบไทย
SCB Julius Baer คือบริษัทร่วมทุนระหว่าง ‘ธนาคารไทยพาณิชย์’ และ ‘จูเลียส แบร์’ (Julius Baer) ก่อตั้งขึ้นจากการผสานความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งระดับโลกในแบบฉบับ Swiss Private Banking ของ Julius Baer เข้ากับจุดแข็งของธนาคารไทยพาณิชย์ซึ่งเป็นธนาคารชั้นนำของไทยที่เข้าใจกลุ่มลูกค้าผู้มีความมั่งคั่งระดับสูงอย่างลึกซึ้ง พร้อมเครือข่ายที่กว้างขวางช่วยยกระดับการบริหารความมั่งคั่งระดับสากลมาสู่เมืองไทย
SCB Julius Baer นำเอาคุณลักษณะนิสัยหลักของชาวสวิตเซอร์แลนด์มาเป็นพื้นฐานในการให้บริการ ได้แก่ ความมั่นคง ความไว้วางใจ และความเชื่อถือได้ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้สะท้อนให้เห็นผ่านการให้คำปรึกษาที่จริงใจ การรักษาคำมั่นสัญญา และการให้คำแนะนำอย่างโปร่งใสกับลูกค้าทุกราย
ปัจจุบัน SCB Julius Baer เป็น Private Baking จากสวิตเซอร์แลนด์เพียงแห่งเดียวที่ประกอบธุรกิจในในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าที่มีความมั่งคั่งระดับสูง (UHNWIs และ HNWIs) ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป ด้วยการให้คำแนะนำแบบองค์รวม โดยให้ความสำคัญกับ คำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจงเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าเป็นหลัก
สิ่งที่ทำให้ SCB Julius Baer แตกต่างจากสถาบันการเงินอื่นๆ คือแนวทางการบริหารความมั่งคั่งที่เน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Client-Centric Approach) โดยนำเสนอโซลูชันด้านการลงทุนที่เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าแต่ละบุคคลในทุกช่วงของเส้นทางแห่งความมั่งคั่ง โดยเริ่มจากการรับฟังความต้องการของลูกค้าเป็นสิ่งแรก ก่อนที่จะให้คำแนะนำหรือเสนอแนวทางใดๆ การให้คำปรึกษาจะมุ่งเน้นไปที่การสร้างแผนการลงทุนที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการลงทุนของลูกค้าแต่ละราย (Tailor-made) ทั้งในแง่ ระยะเวลา และระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความต้องการส่วนบุคคล เราจึงสามารถนำเสนอแนวทางการบริหารความมั่งคั่งแบบครบวงจรที่สร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์อันยั่งยืน
เปิดประตูสู่โอกาสการลงทุนระดับสากล
SCB Julius Baer มุ่งมั่นในการเป็นตัวเลือกอันดับแรกสำหรับลูกค้าที่มองหาโอกาสการลงทุนในระดับสากล ผ่านบริการที่ครอบคลุมทั้ง บริการที่ปรึกษาด้านการลงทุนที่พร้อมให้คำแนะนำทั้งเชิงกลยุทธ์ และเชิงปฏิบัติการที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการทางการลงทุน ด้วยความสามารถในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์การลงทุนมากกว่า 49,000 ผลิตภัณฑ์จากทั่วโลกซึ่งครอบคลุมทั้งหุ้น พันธบัตร กองทุนรวม ผลิตภัณฑ์โครงสร้าง (Structured Products) การลงทุนทางเลือก (Alternative Investments), บริการ Discretionary mandates มุ่งเน้นภาพรวม ลงทุนแบบมืออาชีพ และวางใจได้ด้วยการลงทุนแบบมอบอำนาจให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลสินทรัพย์ให้โดยตรง ตลอดจนบริการการวางแผนความมั่งคั่งด้วยการจัดโครงสร้างการถือครองทรัพย์สิน การวางแผนทางการเงิน และการส่งต่อความมั่งคั่งสำหรับคนรุ่นต่อไป
จุดแข็งของ SCB Julius Baer คือ ทีมงานมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญสูง ซึ่งประกอบด้วย ผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ หรือ Relationship Manager (RM) และที่ปรึกษาการลงทุน หรือ Investment Advisors (IA) โดยปัจจุบันเรามีทีม RM มากกว่า 25 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบุคคลากรที่อยู่กับบริษัทตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2019 โดย RM ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาที่ลูกค้าสามารถไว้วางใจได้ ช่วยแนะนำลูกค้าในการตัดสินใจทางการเงินที่ซับซ้อน ส่วนที่ปรึกษาการลงทุน (IA) ช่วยมอบข้อมูลเชิงลึกด้านตลาดและกลยุทธ์การลงทุนอย่างมืออาชีพ ซึ่งความต่อเนื่องและทำงานอย่างใกล้ชิดภายในทีม SCB Julius Baer ทำให้ลูกค้าได้รับประโยชน์จากองค์ความรู้ร่วมกัน พร้อมช่วยให้เรามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งต่อความต้องการและความคาดหวังของลูกค้าแต่ละราย
การบริหารความเสี่ยงในยุคเศรษฐกิจโลกผันผวน
ในช่วงที่ตลาดการลงทุนทั่วโลกเผชิญกับความไม่แน่นอนจากนโยบายการค้าระหว่างประเทศและ SCB Julius Baer มองว่านี่เป็นโอกาสในการทยอยลงทุนเพิ่มในสินทรัพย์ระหว่างประเทศที่มีคุณภาพ บริษัทมีหลักการที่ชัดเจนในการช่วยลูกค้าบริหารความเสี่ยง โดยเน้นการวิเคราะห์และประเมินผลกระทบต่อพอร์ตของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ การให้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน และการแนะนำการปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง
หลักการสำคัญคือการมุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวอย่างน้อย 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่เลือกใช้ การลงทุนระยะยาวไม่เพียงแต่ช่วยสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน แต่ยังอำนวยความสะดวกในการส่งมอบสินทรัพย์สู่รุ่นถัดไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ การสร้างความเชื่อมั่นไม่เพียงแต่มาจากผลประกอบการที่ดี แต่ยังมาจากความสม่ำเสมอในการให้บริการและการดูแลลูกค้าระยะยาว ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ไม่เพียงเฉพาะแต่ลูกค้าปัจจุบันที่สามารถเชื่อมั่นในคำปรึกษาที่จริงใจของพวกเรา แต่พวกเขายังสามารถส่งต่อความไว้วางใจเหล่านี้ไปสู่คนรุ่นถัดไปได้