×

SCB WEALTH ผนึก BlackRock รวมพลังสร้างมิติใหม่ มุ่งสู่การบริหารความมั่งคั่งระดับโลก [ADVERTORIAL]

13.05.2025
  • LOADING...

“ภาพรวมธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั่วโลก และประเทศไทยเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 6% โดยคาดการณ์ว่าในปี 2571 ธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในไทยจะมีสินทรัพย์มากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ  ไทยพาณิชย์มองเห็นถึงโอกาสจากการเติบโตของตลาดและจากการเป็นสถาบันทางการเงินอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ทำให้ธนาคารสามารถต่อยอดในการทำธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และสามารถช่วยวางแผนการเงินให้กับลูกค้าได้เต็มรูปแบบและครบวงจร ที่สำคัญธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) นับเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์หลักที่สร้างการเติบโตให้กับธนาคาร” กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวระหว่างงานแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจ SCB WEALTH 2025 “Your Success. Our Success.” เมื่อเร็วๆ นี้

 

พร้อมกับกำหนดเป้าหมายว่า ภายในสิ้นปี 2569 ธนาคารไทยพาณิชย์จะขึ้นแท่นธนาคารที่เป็นอันดับหนึ่ง ด้านธุรกิจบริหารความมั่งคั่งในประเทศไทยและการจะไปสู่เป้าหมายดังกล่าว ธนาคารไทยพาณิชย์จะขับเคลื่อนด้วย 3 แกนหลัก คือ

 

  1. Customer Centricity เข้าใจทุกความต้องการของลูกค้าในแต่ละช่วงชีวิตอย่างลึกซึ้ง และยึดผลประโยชน์ของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
  2. Hyper-Personalization บริหารความมั่งคั่งตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล
  3. 3. Go Global เข้าถึงโอกาสการลงทุนแบบไร้พรมแดน ร่วมกับพันธมิตรระดับโลก

 

ซึ่งการเชื่อมสัมพันธ์กับพันธมิตรรายล่าสุดอย่าง BlackRock ทำให้เห็นภาพได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าธนาคารไทยพาณิชย์ กำลังก้าวอย่างมั่นคงและมีความหมายเพียงใด

 

BlackRock เป็นบริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่สุดในโลก ด้วย AUM11.6 ล้านล้านดอลลาร์ (ณ ธันวาคม 2567 ) มีบริการครอบคลุมสินทรัพย์ทุกประเภท หุ้น ตราสารหนี้ อสังหาริมทรัพย์ โครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment)

 

และเมื่อเร็วๆ นี้  SCB WEALTH หนึ่งหน่วยธุรกิจที่สำคัญของธนาคารไทยพาณิชย์ได้ประกาศเป็น Partnership กับ BlackRock โดย กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า การเป็น Partnership ในครั้งนี้จะร่วมมือกันขับเคลื่อนธุรกิจเวลท์ในเชิงลึก เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า โดยเน้น  5 ด้านหลัก ได้แก่

 

 

  • พัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ลงทุน

ร่วมกันพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ลงทุนในสินทรัพย์ที่หลากหลาย  ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในทุกช่วงชีวิต  และบางผลิตภัณฑ์ออกแบบให้เฉพาะลูกค้า SCB WEALTH  เท่านั้น

 

 

  • การร่วมมือกันทำงานวิจัยในเชิงลึก

เป็นงานวิจัยที่ ทำให้สามารถสังเคราะห์มุมมองจากคนที่มองภาพรวมของโลก กับคนที่เข้าใจบริบทการลงทุนแบบไทย โดยความร่วมมือด้านงานวิจัยนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการเข้าถึงข้อมูล ข่าวสารตลาดเงินและตลาดทุนเชิงลึก แบบเดียวกับที่ BlackRock ใช้ในการตัดสินใจลงทุน รวมถึงการจัดทำบทวิเคราะห์ร่วมกันที่ตรงกับความต้องการของลูกค้า เพิ่มโอกาสการตัดสินใจลงทุนที่มั่นใจและฉับไวยิ่งขึ้น

 

 

  • การพัฒนาบุคลากร

SCB Wealth Academy กับ BlackRock จะร่วมกันพัฒนาโปรแกรมฝึกอบรม สำหรับที่ปรึกษาการเงิน(RM) เพื่อเพิ่มองค์ความรู้ด้านการลงทุน ให้เข้าใจผลิตภัณฑ์การลงทุนอย่างลึกซึ้ง และการให้บริการลูกค้าเทียบเท่ามาตรฐานสากล ตามกลยุทธ์ของธนาคารในการมุ่งเน้นการให้บริการแบบ Digital Bank with  Human  Touch  ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ AI ควบคู่กับที่ปรึกษาการลงทุน เพื่อให้เข้าใจ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

 

 

  • Co-Brand Marketing

เพื่อจัดสัมมนาให้ความรู้นักลงทุนทั่วประเทศ และเสริมสร้าง แบรนด์ SCB WEALTH ให้แข็งแกร่งมากขึ้นในระดับ Global “BlackRock เข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถของผู้แนะนำการลงทุน ด้านการสร้างความรู้และความเข้าใจในผลิตภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่มีอยู่ในตลาดโลกในเชิงลึก ที่จะส่งต่อความเข้าใจผลิตภัณฑ์เหล่านั้นให้กับลูกค้าของธนาคารให้รู้จักและเลือกลงทุนได้อย่างถูกต้อง”

 

 

  • ให้คำปรึกษาและแชร์ประสบการณ์ด้านเทคโนโลยี

เทคโนโลยีดิจิทัล และAI เป็นกุญแจสำคัญในการขยายธุรกิจด้านความมั่งคั่งและตอบสนองความต้องการของลูกค้า ซึ่งรวมถึงการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆที่เป็นนวัตกรรม และยกระดับบริการด้านการลงทุนผ่านเทคโนโลยีดิจิทัล โดย BlackRock จะร่วมให้คำปรึกษาและแชร์ประสบการณ์ มาเสริมประสิทธิภาพการให้คำแนะนำการลงทุน ที่แม่นยำและรวดเร็วตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น

 

BlackRock การันตี สร้างความร่วมมือเชิงลึก

 

SCB ผนึก BlackRock

 

แอนดรู แลนด์แมน รองประธานภาคพื้นเอเชีย แปซิฟิกและประธานด้านการบริหารความมั่งคั่ง เอเชีย แปซิฟิก BlackRock กล่าวว่า ความร่วมมือครั้งนี้เป็นความร่วมมือเชิงลึก ไม่ใช่แค่เรื่องของการลงทุนเท่านั้น แต่จะนำศักยภาพในการเข้าถึงข้อมูลทั่วโลก มาเสริมมุมมองการลงทุนให้กับลูกค้า SCB  WEALTH รวมถึงนำเรื่องการจัดการความเสี่ยงมาสอดแทรกเข้าไปด้วย

 

“BlackRock มีทีมด้านการจัดการการลงทุนที่ครอบคลุมสเกลระดับโลก ทีมที่ดูแลการลงทุน Multi-Asset ฝั่งเอเชียรวมถึงทีมงานซัพพอร์ตจากทั่วโลกมีประมาณกว่า 500 คน ที่พร้อม support ให้ BlackRock นำมุมมองการลงทุนมาให้ลูกค้า SCB WEALTH ได้”

 

แอนดรูกล่าวเพิ่มอีกว่า สิ่งที่ทำให้การเป็น Partnership กับ SCB WEALTH พิเศษกว่าครั้งไหนๆ ก็คือ การเป็น Trusted partner ของทั้ง 2 ฝั่ง โดย BlackRock มีจุดเด่นคือ ข้อมูลด้านการลงทุนในระดับโลก ส่วน SCB มีความเข้มแข็งในด้านความเข้าใจความต้องการลูกค้า และความพร้อมของ Channel การให้บริการ  และมีฐานกลุ่มลูกค้า High Net Worth  ที่แข็งแกร่ง

 

Think Global Act Local

 

กฤษณ์กล่าวเสริมว่า  BlackRock  เป็นผู้นำเบอร์หนึ่งด้านการจัดการสินทรัพย์ระดับโลก และมีแนวทางในการทำงานที่สอดคล้องกัน คือ 1. มองการบริหารความมั่งคั่ง เป็นการลงทุนระยะยาว เพื่ออนาคตทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีสินทรัพย์เพียงพอต่อการดำรงชีวิตในวัยเกษียณ  หรือสามารถส่งต่อความมั่งคั่งยังรุ่นถัดไปได้ 2. ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โดยการคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ในแต่ละช่วงเวลา  โดยมีแนวคิดที่ว่า “Your Success. Our Success.” ความสำเร็จของคุณคือความสำเร็จของเรา SCB WEALTH และ BlackRock จะยึดผลประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นที่ตั้ง และ 3) BlackRock มีแพลตฟอร์มการลงทุนที่หลากหลาย ทำให้เรามีมุมมองด้านการบริหารความเสี่ยงกว้างขึ้นในระดับโลก และทำให้ลูกค้า SCB   WEALTH สามารถเข้าถึงโอกาสการลงทุนระดับโลกได้เพิ่มมากขึ้น

 

“SCB ต้องการนำ Global Best มาให้บริการแก่ลูกค้าคนไทย…ที่อยากจะเห็นก็คือ ถ้าคนไทยนึกถึง Go Global House ก็อยากให้นึกถึง SCB WEALTH”

 

เมื่อมองภาพรวมแบบ Think Global แล้ว ก็จะนำมาสู่การ Act Local ซึ่งในความร่วมมือครั้งนี้ ด้านงานวิจัยจะมีการตั้งคณะทำงานร่วมกันระหว่าง BlackRock และทีม SCB CIO เพื่อคัดสรรผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของลูกค้า และสถานการณ์การลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป

 

SCB ผนึก BlackRock

 

“คณะทำงานนี้จะเป็นตัวกรองที่ทำให้เกิด Global Mindset และ Act Locally หรือการเอาโอกาส การเข้าถึงสิ่งดีๆ ต่างๆ จาก Global ไปฉายในภาพ Local ด้วยความเข้าใจลูกค้าอย่างแท้จริง ตรงนี้จะทำให้เราแตกต่างจากที่อื่น และการ Think Global Act Locally จะถูกส่งต่อไปถึงกระบวนการออกแบบและเสนอขายกองทุนด้วย บางกองทุนจะมีการคิดและพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกัน เพื่อสร้างแนวทางการทำงานให้ตอบโจทย์ลูกค้า SCB WEALTH ทุกคน” กฤษณ์กล่าว

 

เข้าใกล้ Customised ที่สุดในวงการ

 

กฤษณ์กล่าวส่งท้ายว่า จากร่วมเป็น Partnership กับ BlackRock ในครั้งนี้ อรรถประโยชน์ของลูกค้าจะเปลี่ยนไปอย่างมาก แต่ที่จะเห็นได้ชัดคือ

 

  1. ลูกค้า SCB สามารถ Go Global ได้อย่างมั่นใจและวางใจมากขึ้นเพราะว่าเรามีพันธมิตรที่เหนียวแน่นเบอร์หนึ่งระดับโลกด้านการจัดการสินทรัพย์

 

  1. สิ่งที่เรานำเสนอลูกค้าจะใกล้เคียงกับการ customization มากกว่าที่อื่น

 

  1. ข้อมูลข่าวสารของ BlackRock สามารถส่งต่อสู่ RM ทำให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างในการให้บริการของเรา

 

“ไทยพาณิชย์ต้องการตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง ในการสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ เชื่อว่าจุดแข็งของทั้ง SCB WEALTH และ BlackRock จะสามารถตอบโจทย์ลูกค้าคนไทยได้อย่างซื่อตรงที่สุด”

 

คำเตือน

  • การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
  • ผลการดำเนินงานในอดีต ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising