×

‘SCB 10X’ ร่วมปิดดีลระดมทุนรอบ Series B กว่า 7.4 ล้านดอลลาร์ของ ‘MyCloudFulfillment’ สตาร์ทอัพด้านคลังสินค้าออนไลน์

04.11.2021
  • LOADING...
SCB 10X

เอสซีบี เท็นเอกซ์ (SCB 10X) บริษัทโฮลดิ้งคอมพานีในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ เดินหน้าลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในการระดมทุนรอบ Series B ของ MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน 

 

มุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer SCB 10X กล่าวว่า SCB 10X มีความยินดีและตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนของ MyCloudFulfillment สตาร์ทอัพชั้นนำที่ให้บริการด้านคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรของประเทศไทย ตั้งแต่การระดมทุนในรอบ Series A เมื่อปีที่ผ่านมา โดย SCB 10X ยังคงให้การสนับสนุนต่อเนื่องในการระดมทุนรอบ Series B ร่วมกับ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน 

 

ทั้งนี้ จากสถานการณ์โควิด บริษัทพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงการนำมาปรับใช้ในเรื่อง Digital Transformation ขององค์กรต่างๆ อีกด้วย โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราเห็นถึงการเพิ่มขึ้นของโซเชียลคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนหันมาใช้บริการออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้น สตาร์ทอัพที่สามารถให้บริการด้าน Fulfillment และโลจิสติกส์ จะยังคงได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเติบโตนี้

 

“MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรแบบไร้รอยต่อ ด้วยบริการที่ครอบคลุมด้านคลังจัดเก็บสินค้า แพ็กสินค้า การสั่งซื้อแพ็กเกจจิ้ง และจัดส่งสินค้าให้กับธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซ อีคอมเมิร์ซ และ Omni-Channel จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของโซเชียลคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน นอกจากการสนับสนุนผ่านการลงทุนในการระดมทุนรอบ Series B แล้ว เรายังคงมีแผนในการพัฒนาโซลูชันต่างๆ ร่วมกัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ด้านโซเชียลคอมเมิร์ซในอนาคต เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการรวมถึงลูกค้าอีกด้วย” มุขยากล่าว

 

ด้าน นิธิ สัจจทิพวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง MyCloudFulfillment หรือ บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ เปิดเผยถึงการระดมทุนในครั้งนี้ว่า การระดมทุนในรอบนี้มีมูลค่ากว่า 7.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเม็ดเงินระดมทุนทั้งหมดในรอบนี้จะนำไปสู่การเพิ่มศักยภาพด้านคลังสินค้าและการรองรับลูกค้า ขยายทีมบริหารและทีมงานส่วนการพัฒนาระบบ และขยายพื้นที่บริการไปสู่ต่างประเทศ ตอบรับความต้องการด้านบริการที่เติบโตอย่างรวดเร็วของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ

 

นิธิกล่าวว่า MyCloudFulfillment เป็นคลังสินค้าออนไลน์ที่เหมาะสำหรับร้านที่ขายของหลายช่องทาง เนื่องจากเชื่อมต่อกับช่องทางการขายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Marketplace, Website CMS, Live Commerce และอื่นๆ โดยนอกจากการเชื่อมต่อ API แล้ว ระบบยังมีฟีเจอร์ต่างๆ สำหรับช่วยการขายให้เป็นไปตามอัตโนมัติ เช่น การจัดเซ็ตเสมือน การจัดการโปรโมชัน เป็นต้น อีกทั้งบริการยังสามารถปรับตามความต้องการและลักษณะเฉพาะของแต่ละร้านค้าได้ด้วย ขณะเดียวกัน คลังสินค้าของ MyCloudFulfillment ยังมีความยืดหยุ่นในการรองรับออร์เดอร์ที่มีความผันผวนสูง  

 

“อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของบริษัทไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่บริการด้านคลังสินค้า สิ่งที่เราต้องการทำต่อไปคือการช่วยลดเงินจมในสต๊อก และช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งเราจะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านการใช้ข้อมูลของร้านค้านั้นๆ มาวิเคราะห์อย่างละเอียด หนึ่งในสิ่งที่ทีมพัฒนาของเราพัตนาเพื่อใช้ในปีหน้าคือ Inventory Intelligence ด้วย Machine Learning โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคในเชิงลึก และพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของสต๊อกสินค้าในระบบของแต่ละร้านค้า นำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ออกมาเป็นข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับธุรกิจ เช่น สินค้าชิ้นไหนควรเก็บมากขึ้นหรือน้อยลง สินค้าชิ้นไหนขายแล้วมีกำไรหรือขาดทุน รูปแบบการขายชนิดนั้นที่สร้างยอดขายให้กับสินค้าชนิดไหนเป็นต้น” นิธิกล่าว

 

นิธิกล่าวว่า ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา MyCloudFulfillment มียอดออร์เดอร์เติบโตอย่างต่อเนื่องสูงสุดต่อเดือนถึง 300,000 ออร์เดอร์ ซึ่งเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีทีแล้วกว่า 3 เท่า และได้มีการขยายคลังสินค้าจากเดิม 2 แห่ง ที่ลาดกระบังและรังสิต พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร สู่คลังสินค้าที่ 3 แห่งใหม่ที่มีนบุรี พื้นที่รวมกว่าอีก 6,500 ตารางเมตร ผ่านการร่วมมือกับ JWD Group โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับออร์เดอร์ได้สูงสุดถึงวันละ 30,000 ออร์เดอร์ 

 

“นอกจากการได้รับการสนับสนุนทางการเงินในรอบนี้ เรายังสามารถนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ SCB มาใช้เพื่อช่วยสร้างความสะดวกให้กับลูกค้าของเราได้ เช่นการระบบช่วยสภาพคล่องทางการเงินของผู้ซื้อและผู้ขาย (PayZave) หรือการเชื่อมต่อ QR Payment เข้ากับการไลฟ์ขายของ รวมไปถึงการเชื่อมต่อการจัดการสต๊อกเข้ากับบริษัทในเครือของ SCB เช่น Robinhood อีกด้วย ด้านพาร์ตเนอร์ด้านโลจิสติกส์อย่าง JWD จะเป็นส่วนช่วยในการขยายศักยภาพการรองรับลูกค้า การสร้างคลังสินค้า และขยายบริการให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนได้มากยิ่งขึ้น เราจึงมั่นใจว่าการสนันสนุนจาก SCB 10X และ JWD จะส่งเสริมให้ MyCloudFulifllment เติบโตและขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมั่นคง” นิธิกล่าว

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising