นับตั้งแต่ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ก้าวขึ้นมามีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางการพัฒนาประเทศตาม ‘วิสัยทัศน์ 2030’ ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นสิทธิสตรีเพิ่มมากขึ้น ล่าสุดพระองค์ทรงมีพระราชกฤษฎีการะบุว่า ซาอุดีอาระเบียจะลดข้อจำกัดการเดินทางออกนอกประเทศของผู้หญิง อนุญาตให้ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 21 ปีขึ้นไป สามารถยื่นเรื่องขอพาสปอร์ต รวมถึงเดินทางออกนอกประเทศเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ผู้ชายอนุญาตอีกต่อไป
ก่อนหน้านี้สังคมซาอุดีอาระเบียเปิดกว้างให้กับผู้หญิงเพิ่มมากขึ้น มีการอนุญาตให้ผู้หญิงเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลในสนามกีฬาได้เป็นครั้งแรก อนุญาตให้ผู้หญิงมีโอกาสเข้าทำงานในกองทัพ อนุญาตให้ผู้หญิงสามารถขับรถเองได้โดยไม่ต้องขออนุญาต หรือต้องมีผู้ปกครองที่เป็นผู้ชายคอยนั่งไปด้วย รวมถึงยังมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูตหญิงคนแรกของประเทศอีกด้วย เมื่อช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา
พระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าวยังให้สิทธิแก่ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นสิทธิที่สามารถจดทะเบียนรับรองบุตรได้ จดทะเบียนสมรสหรือจดทะเบียนหย่า พร้อมทั้งขยายโอกาสให้การทำงาน ตามเป้าหมายที่ต้องการจะเพิ่มจำนวนผู้หญิงในสังคมการทำงานของซาอุดีอาระเบียจาก 22% เป็น 30% เพื่อพัฒนาประเทศให้ทัดเทียมชาติตะวันตก
เจ้าหญิงรีมา บินต์ บันดาร์ อัล ซาอุด เอกอัครราชทูตซาอุดีอาระเบียประจำกรุงวอชิงตัน ระบุว่า “กฎข้อบังคับเหล่านี้เป็นหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศเรา เรากำลังสร้างสังคมที่ผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิเท่าเทียมกัน”
ที่ผ่านมา ผู้หญิงซาอุดีอาระเบียตกอยู่ภายใต้อำนาจของผู้ชายมาโดยตลอด บ่อยครั้งที่พวกเธอพยายามเดินทางหนีออกนอกประเทศ เพื่อลี้ภัยจากการกดขี่และความไม่เท่าเทียม ราวกับพวกเธอเป็นพลเมืองชั้นสองของประเทศ แต่อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพระราชกฤษฎีกาฉบับดังกล่าว แต่ยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้นับตั้งแต่เมื่อใด
ภาพ: Fayez Nureldine / AFP / Getty Images
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
อ้างอิง: