วันนี้ (20 เมษายน) ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ผู้ว่าฯ กทม.) หมายเลข 16 ลงพื้นที่โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในสังกัด กทม. ที่ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนที่มาใช้บริการจำนวนมาก
ศศิกานต์ระบุว่า หลังจากมาสำรวจปัญหาด้วยตัวเอง สิ่งแรกที่ตนได้พบคือปัญหาเรื่องความแออัด เนื่องจากมีคนไข้จำนวนมาก และพื้นที่ภายในโรงพยาบาลค่อนข้างจำกัด รวมถึงยังมีการก่อสร้างอยู่ภายรอบ แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ ขั้นตอนการทำงานของแต่ละจุดเป็นไปอย่างล่าช้า โดยเฉพาะการยื่นบัตร และการเจาะเลือด ซึ่งมีประชาชนเปิดเผยกับตนว่า ต้องมานั่งรอการเจาะเลือดตั้งแต่เวลา 04.00 น. เพื่อจะรอพบหมอในเวลา 09.00 น. เนื่องจากว่าหากมาสายคนไข้ที่รอเจาะเลือดจะมีจำนวนเยอะมาก ทำให้กว่าจะได้พบหมอยิ่งล่าช้าออกไปอีก
ศศิกานต์กล่าวต่อไปว่า ประชาชนยังร้องเรียนกับตนถึงเรื่องการให้บริการของเจ้าหน้าที่ว่า พอคนไข้มีจำนวนมาก ทำให้พยาบาลและเจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก จึงทำให้มีปัญหาเรื่องการให้บริการตามมา ไม่ว่าจะเป็นสีหน้า ท่าทาง หรือน้ำเสียง ซึ่งหากเป็นผู้สูงอายุที่มารับการรักษาคนเดียวก็จะยิ่งโดนดุ เนื่องจากบางครั้งก็ฟังไม่เข้าใจหรือไม่ได้ยิน แต่อย่างไรก็ดีปัญหาตรงนี้ดีขึ้นจากเดิมมากแล้ว เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนจำนวนมาก ประกอบกับมีเทคโนโลยีอย่างโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบ ทำให้ปัญหาคลี่คลายขึ้น แต่ตนเชื่อว่าโรงพยาบาลสามารถพัฒนาได้มากกว่านี้ จนกลายเป็นโรงพยาบาลต้นแบบได้
“ปัญหาเหล่านี้ส่วนใหญ่มากจากเรื่องบริหารจัดการที่ต้องเร่งแก้ไข โดยสามารถใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ เช่น ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลเพื่อรับยารายเดือนเป็นประจำ อาจไม่ต้องมาพบหมอทุกครั้ง เพราะน่าจะใช้ระบบหมอออนไลน์เข้ามาช่วยทำงานในเรื่องจัดส่งยาได้ โดยต้องมีแพทย์ดูแลเฉพาะผู้ป่วยที่รับยาอย่างเดียว ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้ป่วยในพื้นที่โรงพยาบาลในแต่ละวันลดน้อยลงไปด้วย แถมยังช่วยลดภาระงานให้บุคลากรการแพทย์ได้อีกด้วย” ศศิกานต์กล่าว