ถ้ามนุษย์ทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ได้ การเลือกจบชีวิตตัวเองก็คือสิทธิของมนุษย์ทุกคนเช่นกัน
เจ้าซาร์โก้ (Sarco) แคปซูลโลงศพขนาดเท่าตัวคน ผลงานของฟิลิป นิทสช์เก (Philip Nitschke) และอเล็กซานเดอร์ แบนนิง (Alexander Bannink) นักออกแบบชาวดัตช์ ถูกจัดแสดงครั้งล่าสุดในงานแสดงเกี่ยวกับพิธีศพ (Funeral Fair) ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์ เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยดึงดูดความสนใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนภายในงานได้ไม่น้อย
“การเลือกว่าจะตายตอนไหนเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ที่ไม่ได้สงวนสิทธิ์ไว้ให้กับโรคภัยไข้เจ็บเท่านั้น”
ทีมผู้ผลิตยืนยันว่า ในหลายๆ ประเทศการฆ่าตัวตายไม่ได้ขัดต่อหลักกฎหมาย แต่การช่วยหรือทำให้คนอื่นถึงแก่ความตายต่างหากที่ผิดกฎหมาย นี่คือการตัดสินใจของใครสักคนหนึ่งที่เลือกที่จะจบชีวิตเพียงกดปุ่ม เพียงปลายนิ้วสัมผัส แทนที่จะกระโดดเข้าใส่รถไฟที่กำลังวิ่งมาด้วยความเร็วสูง
โดยผู้ที่จะใช้เจ้าเครื่องซาร์โก้ทำการการุณยฆาตตัวเองจะต้องทำแบบทดสอบเสียก่อน หากผ่านการทดสอบนั้นแล้ว จะได้รับรหัสที่มีระยะเวลาเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ในการปลดล็อกเจ้าซาร์โก้ ฝาครอบก็จะเปิดออก หลังจากนั้นปิดฝาครอบลงและกดปุ่ม ผู้ใช้งานจะมีความรู้สึกราวกับอยู่ในห้วงอวกาศและกำลังจะเตรียมตัวออกเดินทางไกล ก๊าซออกซิเจนภายในซาร์โก้จะค่อยๆ ลดลง และถูกแทนที่ด้วยก๊าซไนโตรเจน ผู้ใช้งานจะค่อยๆ หมดสติและเสียชีวิตหลังจากกดปุ่มไปได้เพียง 1 นาที
นิทสช์เก หวังว่า แคปซูลโลงศพนี้จะสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายในปลายปี 2018 นี้ ก่อนที่จะวางแผนเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าซาร์โก้ทั้งหมด ผ่านโลกออนไลน์ให้ทุกคนได้ดาวน์โหลด และสามารถสร้างเจ้าซาร์โก้ของตัวเองได้ตามพิมพ์เขียวที่แนบไว้ให้
แต่อย่างไรก็ตาม แนวความคิดของนิทสช์เกและแบนนิง ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากเกี่ยวกับจริยธรรมทางด้านการแพทย์ โดยมีการโจมตีว่า นี่เป็นวิธีการทางการแพทย์ที่เลวร้ายและผิดหลักจริยธรรมอย่างร้ายแรง
อ้างอิง:
