×

“ออกก็ออกไป” สันติตอบ นฤมลสละสิทธิ์ปาร์ตี้ลิสต์ไม่กระทบพลังประชารัฐ ขยับคนอื่นขึ้นแทน

โดย THE STANDARD TEAM
24.03.2023
  • LOADING...
สันติ พร้อมพัฒน์

วันนี้ (24 มีนาคม) ที่พรรคพลังประชารัฐ สันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ​ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่ตนเองเป็นประธานว่า ขณะนี้ ส.ส. แบบแบ่งเขตทั้ง 400 เขต และแบบบัญชีรายชื่อ 100 คน เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ส่วนขั้นตอนต่อไปจะนําเข้าสู่ที่ประชุมตัวแทนสาขาประจําจังหวัด เพื่อจัดทำไพรมารีโหวต แล้วจะส่งกลับมาที่คณะกรรมการสรรหาเพื่อตรวจสอบอีกครั้งในช่วงบ่ายวันที่ 28 มีนาคมนี้ เพื่อตรวจดูว่าใครมีความเห็นอย่างไรในขั้นสุดท้าย จากนั้นก็จะนำเข้าที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ความเห็นชอบว่าจะมีการปรับเปลี่ยนหรือไม่ รวมถึงรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ก่อนที่จะมีการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้งหมดในวันที่ 30 มีนาคมนี้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ในวันที่ 28 มีนาคม จะมีการเคาะชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีด้วยหรือไม่ สันติกล่าวว่า จะมีการเคาะโดยกรรมการบริหารพรรคในวันดังกล่าวว่าจะมีแคนดิเดตกี่คน มีใครบ้าง แล้วจะประกาศในวันที่ 30 มีนาคม ยืนยันว่าแคนดิเดตนายกรัฐมนตรียังคงเป็น พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ คนเดียวอยู่ แต่จะมีเพิ่มเติมหรือไม่ต้องรอกรรมการบริหารเคาะในวันดังกล่าว ส่วนบัญชีรายชื่อก็จะจบในวันนั้นด้วย

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงขอสละสิทธิ์ไม่สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อของพรรค สันติกล่าวว่า ออกก็ออกไป พรรคไม่ได้เสียหายอะไร ก็เลื่อนกันไปตามนั้น ถ้ามีใครเจ็บป่วยก็ต้องมีการเลื่อนขึ้นไป นี่คือบัญชีรายชื่อ แต่ถ้าเป็นเขตก็ต้องเปลี่ยนเพราะเลื่อนไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้ง่ายมาก ไม่ได้เสียโครงสร้างอะไร ใครอยากจะออกก็ออก แต่ใครอยากจะเข้าก็เข้าไม่ได้แล้ว เพราะเราทำไพรมารีโหวตแล้ว เวลาก็กระชั้นมาก อย่างไรก็ตาม คนที่พรรคคัดสรรจะเป็นคนที่มีศักยภาพ เป็นทีมที่ช่วยพรรคทำงานสารพัด ไม่ได้เอาคนที่ลอยไปลอยมามาทํางาน ทุกคนทุ่มเทให้กับพรรค เพียงแต่ได้ออกสื่อมากหรือน้อยแค่นั้น 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า มีข้อสังเกตว่าบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ เป็นกลุ่มที่อยู่บ้านใหญ่และเป็นแกนนำพรรค สันติกล่าวว่า ถ้าพูดแบบนี้ถามว่าผิดไหม พวกเราต้องช่วยกันส่งเสริม เพราะบ้านใหญ่เหล่านั้นสามารถดูแล ส.ส. ให้เป็นที่ชื่นชอบและเป็นความหวังของประชาชนได้มายกจังหวัด แสดงว่าเขามีศักยภาพ ประชาชนให้ความหวังกับเขามาก จะให้พรรคทิ้งๆ ขว้างๆ ได้อย่างไร ฉะนั้นพรรคจึงต้องจัดอะไรให้กับคนพิเศษในแต่ละจังหวัด เพราะคนเหล่านี้ได้จัดการบ้านของตัวเองอย่างแข็งแรง ทำประโยชน์ พัฒนาพื้นที่ จนคนในจังหวัดนั้นๆ ชื่นชมฉะนั้นจะมาบอกว่าบัญชีอันดับต้นๆ เป็นของบ้านใหญ่ไม่ได้ เราต้องถือว่าจังหวัดนั้นเป็นเอกภาพ อย่าไปดูถูกประชาชนในจังหวัดนั้น เมื่อเขามาอยู่กับเราก็ต้องรักและให้เกียรติเขา นอกจากนั้นพรรคก็ต้องดูคนที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ดูแลคนรุ่นใหม่ ดูแลทุกช่วงวัย สตรี และผู้สูงวัย 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดคน 400 เขต กับบัญชีรายชื่อ 100 คน เรียบร้อยแล้วใช่หรือไม่ สันติกล่าวว่า ครบหมดแล้วทั้ง 500 คนทั่วประเทศ เพิ่งประชุมเสร็จเมื่อเช้า 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะไม่มีเปลี่ยนแล้วใช่หรือไม่ สันติกล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นคณะกรรมการสรรหา พูดไม่ได้ว่าจะมีเปลี่ยนหรือไม่ พูดได้แค่กว้างๆ ว่าเราเลือกสรรแต่คนที่มีศักยภาพ เป็นคนที่ประชาชนจะให้การสนับสนุน ดังนั้นบัญชีรายชื่อทั้ง 100 คน ตอนนี้คงเปลี่ยนไม่ได้แล้ว เพียงแต่ว่าหากใครป่วยหรือลาออกก็เลื่อนขึ้นมาเท่านั้น สำหรับการทำไพรมารีโหวต ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็จะไม่แก้ เพราะยุ่งยากมาก 

 

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ศ.ดร.นฤมล ที่ขอสละสิทธิ์ ได้มาพูดคุยกับสันติก่อนหรือไม่ ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค สันติกล่าวว่า จะมาปรึกษาตนทำไม เพราะไม่ได้เป็นอะไรกัน 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ในพรรค สันติกล่าวว่า “เขาใหญ่กว่าผมอีก เลขาธิการพรรคคือคนใช้ของคนในพรรคทั้งพรรค ถือเป็นแม่บ้านพรรคที่ต้องคอยดูแล ลูกร้องยังต้องเข้าไปโอ๋เลย” 

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า จะเข้าไปโอ๋ ศ.ดร.นฤมล หรือไม่ สันติกล่าวว่า เขาไม่มา ใครจะโอ๋ พร้อมย้อนถามสื่อว่า ทําไมไม่บอกให้เขามาคุยกับตน 

 

และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จริงๆ แล้วในบัญชีรายชื่อ ศ.ดร.นฤมล อยู่อันดับที่เท่าไร สันติกล่าวว่า ชื่อก็สลับไปสลับมา ก็ต้องจัดกันไป ท้ายที่สุดก็ลงตัว สําหรับตนอย่าคิดว่าจะอยู่ลำดับใด ตนโดนบังคับต่างหาก จะเห็นได้ว่าตนไม่มีเสียงเลย

 

ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า เลขาธิการพรรคจะสละด้วยหรือไม่ สันติกล่าวว่า ถ้าใครสั่งตนก็สละ คนที่สั่งก็ต้องดูว่าพรรคเป็นอย่างไร ถ้าจำเป็นให้ตนทำอะไรก็ทำทั้งนั้น เพราะเราทำเพื่อพรรค ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง 

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า แบบนี้เท่ากับไม่มีชื่อของ ศ.ดร.นฤมล ในบัญชีรายชื่อแล้วใช่หรือไม่ สันติกล่าวว่า ตนลืมดูบัญชี มีตั้ง 100 คน จำชื่อไม่ได้แล้ว ถ้าเบอร์ 1 จำได้ เบอร์ 2 ก็จำไม่ได้แล้ว 

 

ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า การที่ ศ.ดร.นฤมล แถลงข่าวแสดงเจตนารมณ์แบบนี้ก็ไม่น่าจะมีชื่ออยู่ในบัญชีรายชื่อแล้วใช่หรือไม่ สันติกล่าวว่า “ใช่ ก็เธอบอกว่าเธอจะออกจากบ้านแล้ว” ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อว่า แต่เราก็ไม่รั้งไว้ใช่หรือไม่ สันติไม่ตอบคำถาม ได้แต่ยิ้มและเดินจากผู้สื่อข่าวไป 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising