วันนี้ (19 มีนาคม) รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ เปิดเผยถึงกระบวนการรักษา วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครว่า 1-2 สัปดาห์แรกเหมือนอาการจะดีขึ้น แต่ยังไม่สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง แตกต่างจากผู้ป่วยเคสอื่นที่หากเข้าสู่สัปดาห์ที่ 2-3 ก็จะสามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ร่วมกันศึกษาในระหว่างที่อาการของผู้ว่าฯ เข้าสู่ขั้นวิกฤต จนในที่สุดด้วยศักยภาพของทีมแพทย์และกำลังใจจากครอบครัว อาการผู้ว่าฯ ก็ดีขึ้น สภาพร่างกายของผู้ว่าฯ ดีขึ้นหลังจากที่ใส่เครื่องช่วยหายใจมานานกว่า 42 วัน ต้องขอชื่นชมผู้ว่าฯ ที่มีความมุ่งมั่นสามารถผ่านวิกฤตมาได้ และมุ่งมั่นต้องการที่จะฟื้นฟูร่างกายและสมอง จนตอนนี้สภาพร่างกายก็กำลังจะเข้าสู่สภาวะปกติเกือบทุกอย่าง เหลือเพียงอาการเหนื่อยหอบที่เกิดจากสภาพปอด แต่โดยรวมก็สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ และวันนี้โรงพยาบาลศิริราชจะส่งคืนปู (ชื่อเล่นผู้ว่าฯ) สู่จังหวัดสมุทรสาคร
ศ.นพ.ประสิทธิ์ เปิดเผยถึงขั้นตอนกระบวนการรักษาเคสของผู้ว่าฯ โดยชื่นชมเรื่องการประสานงานที่ดีระหว่างโรงพยาบาลสมุทรสาครและโรงพยาบาลศิริราชว่า โรงพยาบาลสมุทรสาครได้จ่ายยารักษาให้ผู้ว่ารวดเร็วและทันการณ์
ผู้ว่าฯ เป็นคนไข้โควิด-19 ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจนานที่สุดคือ 42 วัน ซึ่งในช่วงนั้นมีภาวะแทรกซ้อนที่อาจถึงแก่ชีวิตได้ทุกเวลา เเต่ผู้ว่าฯ มีกำลังใจที่ดี ทั้งจากครอบครัว ที่เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษา และจากตัวท่านเอง โดยเฉพาะวันที่ลูกสาว คือน้ำหวาน เข้าไปพูดคุย ท่านผู้ว่าฯ ก็มีอาการดีขึ้นอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ศ.นพ.ประสิทธิ์ ได้ขอบคุณสื่อมวลชนที่ได้นำเสนอข่าวอยู่บนกรอบและพื้นฐานที่ไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ป่วย อีกทั้งได้ให้ความรู้ควบคู่ไปกับการนำเสนอข่าวให้กับสังคมได้ เพื่อที่จะได้มีความรู้ โดยใช้เคสของผู้ว่าฯ เป็นกรณีศึกษา และหลังจากนี้อยากจะให้สื่อมวลชนยึดเป็นบรรทัดฐานในการนำเสนอข่าว ในขณะที่โรงพยาบาลหากจะเปิดเผยข้อมูลผู้ป่วย ต้องได้รับการยินยอมจากญาติก่อน และขอบคุณน้ำหวาน ลูกสาวผู้ว่าฯ ที่เข้ามามีส่วนช่วยสำคัญในกระบวนการรักษาเป็นอย่างมาก
ด้าน นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช เปิดเผยว่า เวลานี้ศิริราชมีบุคลากรทางการแพทย์ที่พร้อมรองรับในทุกๆ ด้านอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีอาการหนัก พร้อมทั้งยกระดับการรักษา รองรับคลัสเตอร์บางแค ให้เทียบเท่าเมื่อครั้งที่แพร่ระบาดในตลาดกลางกุ้ง
วีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ที่ไปตรวจหาโควิด-19 เพราะจะตั้งโรงพยาบาลสนามที่หน้าจวนผู้ว่าฯ ตอนนั้นก็มั่นใจว่าตัวเราจะต้องติดโควิด -19 เพราะไปในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ หลายที่ แต่ไม่คิดว่าจะรุนแรงและน่ารักษาไม่เกิน10 วัน แต่ปรากฏว่าด้วยสภาพร่างกายและอายุที่มากขึ้น ทำให้เกิดภาวะวิกฤตตามที่เป็นข่าว และต้องรักษาตัวนาน 82 วัน และ 42 วัน ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ถือว่าเป็นเส้นขนานระหว่างความเป็นกับความตาย พร้อมยอมรับว่า วันแรกที่ฟื้นขึ้นมาก็ตกใจ เพราะกล้ามเนื้ออ่อนแรง แต่รู้ว่ามีแขน มีขา ทีมแพทย์ศิริราชเหมือนฉุดขึ้นมาจากความตาย และได้ยินจาก ศ.นพ.ประสิทธิ์ ว่าอาการป่วยของตัวเองนับเป็นเดิมพันว่าคณะแพทย์ศิริราชจะสามารถสู้โควิด-19 ได้หรือไม่
หลังจากนี้ก็จะต้องพักฟื้นอย่างน้อย 1 เดือน โดย Work from Home สั่งการผ่านรองผู้ว่าราชการจังหวัด วันนี้หลังจากเเถลงข่าวเสร็จก็ไปที่จวนผู้ว่าฯ เพื่อรับกำลังใจจากชาวสมุทรสาครบางส่วนที่เตรียมต้อนรับการกลับมา และหลังจากนั้นจะเดินทางไปพักที่บ้านเกิดในจังหวัดอ่างทอง
วีระศักดิ์ยังได้กล่าวขอบคุณทีมแพทย์จากศิริราชที่รักษาตัวเองเป็นอย่างดี ขอบคุณประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครและจากทั่วประเทศ โดยเฉพาะกำลังใจจากครอบครัว และถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการต่อสู้กับโควิด-19 ควบคู่ไปกับการรักษา และจะเดินหน้าลงพื้นที่เพื่อทำงานให้ชาวสมุทรสาครต่อไป
ด้านบุตรสาวและภรรยาได้เปิดใจว่า ขอบคุณทุกกำลังใจที่ส่งให้ครอบครัวจนสามารถผ่านวิกฤตมาได้ และฝากบอกว่าเมื่อคนในครอบครัวมีปัญหา กำลังใจที่ดีที่สุดก็มาจากคนในครอบครัวด้วยเช่นกัน