วันนี้ (17 มกราคม) ศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยกรณีมีคำร้องขอให้วินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ กรณีการถูกกล่าวหาว่าใช้นอมินีถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
ศาลใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการอ่านคำวินิจฉัย โดยศาลเห็นว่าคำชี้แจงในหลายกรณีของผู้ถูกร้องคือ ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รับฟังไม่ได้ และมีพิรุธในหลายประการ เช่น
เรื่องหลักฐานเส้นทางการเงิน ศาลเห็นว่าข้อกล่าวอ้างของผู้ถูกร้องเป็นการกล่าวอ้างเพื่อเจือสมกับพยานหลักฐานของสถานบันทางการเงินที่ปรากฏความสัมพันธ์ของเส้นทางการเงินระหว่างผู้ถูกร้อง ศุภวัฒน์ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น และบริษัท ศิลาชัยบุรีรัมย์ 1991 จำกัด
ศาลเห็นว่าเรื่องการใช้ใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องที่สัมพันธ์กับผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นผู้ดำรงตำแหน่ง มาใช้เบิกเงินกับธุรกิจต้องห้าม ศาลเห็นว่าเป็นข้อพิรุธที่ผู้ถูกร้องอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับ หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น
พบว่า มีการตกลงนำเงินของศักดิ์สยามไปทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านศุภวัฒน์ จึงถือว่าศักดิ์สยามยังเป็นผู้ถือหุ้นต่างๆ ผ่านศุภวัฒน์มาโดยตลอด
ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของศักดิ์สยามสิ้นสุดลงเฉพาะตัวนับแต่วันที่ศาลรับคำร้อง และสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่คือวันที่ 3 มีนาคม 2566
รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติว่า รัฐมนตรีต้องไม่เป็นผู้ที่พ้นจากตำแหน่ง เพราะกระทำการอันเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 187 มาแล้วไม่ถึง 2 ปีนับถึงวันแต่งตั้ง นั่นหมายความว่า ศักดิ์สยามจะไม่สามารถดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีใดได้อีก 2 ปีนับแต่ 3 มีนาคม 2566
อ่านที่มาคดี: https://thestandard.co/buri-charoen-construction-stock-case/