สหพัฒน์เตรียมลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติการณ์ แย้มเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมใหญ่

แม้ยังไม่มีการจัดตั้งรัฐบาลใหม่อย่างเป็นทางการ แต่สหพัฒน์ก็ไม่หวั่น! ประกาศลงทุนครั้งใหญ่สุดในประวัติการณ์ เตรียมเปิดเผยในงาน ‘สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 27’ ที่จะจัดขึ้นวันที่ 29 มิถุนายน – 2 กรกฎาคมนี้ แย้มเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมใหญ่ที่ไม่เคยทำมาก่อน หวังสร้างรายได้ตามเป้ามากกว่า 3 แสนล้านบาท

“แผนการดำเนินงานของเครือสหพัฒน์ ยังเน้นการลงทุนด้วยการร่วมกับพันธมิตรธุรกิจเหมือนที่ผ่านมา แต่ปี 2566 เตรียมลงทุนมากที่สุด ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาการร่วมทุน หากแล้วเสร็จจะเตรียมเปิดเผยในงานสหกรุ๊ปแฟร์ปีนี้ และคาดการณ์ว่าจะทำให้ปีนี้ทั้งเครือจะมีรายได้รวมกว่า 3 แสนล้านบาท” บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สอดคล้องกับก่อนหน้านี้ ‘เจ้าสัวสหพัฒน์’ เคยกล่าวไว้ว่า ในอนาคตเครือสหพัฒน์จะเป็นธุรกิจที่ครอบคลุมมากกว่าปัจจัย 4 ทั้งอาหาร เสื้อผ้า ยารักษาโรค ที่อยู่อาศัย และขายสินค้าอื่นๆ เพื่อให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค

เจ้าสัวสหพัฒน์ยังกล่าวถึงทิศทางราคาสินค้าในครึ่งปีหลัง จะมีการขยับขึ้นอีกหรือไม่นั้น ต้องรอประเมินจากอัตราเงินเฟ้อและราคาวัตถุดิบเกษตรในต่างประเทศจะขึ้นหรือไม่ ถ้าขึ้นผู้ผลิตก็จำเป็นต้องขึ้นตาม เพราะส่วนใหญ่แล้วใช้วัตถุดิบนำเข้าจากต่างประเทศ

ด้าน เวทิต โชควัฒนา กรรมการ บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาราคาวัตถุดิบเริ่มชะลอตัว ไม่รุนแรงเท่าปี 2565 ตั้งแต่ช่วงนั้นมาสินค้าอุปโภคหลายๆ กลุ่มได้ทยอยปรับราคาขึ้นไปแล้ว ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มซักล้างที่ยังไม่เคยขึ้นราคา ต้องจับตาดูเรื่องการขึ้นค่าแรง เพราะธุรกิจต้องพึ่งพาแรงงาน ทั้งในส่วนพนักงานจัดจำหน่าย พนักงานระบบขนส่ง แต่บริษัทฯ ก็พยายามตรึงราคาเพื่อลดค่าครองชีพให้ได้มากที่สุด

เช่นเดียวกับปี 2566 เป็นอีกหนึ่งปีที่ค่าครองชีพของคนไทยสูงขึ้นมาก จึงเป็นโอกาสให้สหพัฒน์จัดงาน ‘สหกรุ๊ปแฟร์ ครั้งที่ 27’ โดยจะจัดขึ้นที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา บนพื้นที่ 20,900 ตารางเมตร ตั้งแต่วันที่ 29 มิถุนายน – 2 กรกฎาคม 2566

สิ่งที่น่าสนใจคือจะมีสินค้าแบรนด์ดัง เช่น มาม่า ฟาร์มเฮ้าส์ วาโก้ กีลาโรช ลาคอสท์ บีเอสซี เวลแคร์ เปา ซื่อสัตย์ ซิสเท็มมา โชกุบุสซึ และโคโดโมะ มาจำหน่ายในราคาพิเศษ และภายในงานจะมีการจัดแสดงนวัตกรรม เปิดตัวสินค้าใหม่ รวมทั้งธุรกิจที่บริษัทเข้าไปลงทุนและมีพันธมิตรรวมกว่า 20 บริษัท ทั้งพลังงาน โรงพยาบาล การศึกษา โลจิสติกส์ บริการ และสินค้าจากญี่ปุ่น ซึ่งรวมถึงสินค้าญี่ปุ่นแบรนด์ดังอย่าง ดองกิ ซูรูฮะ ลอว์สัน ไดโซ และโคเมเฮียว เข้ามาอยู่ในงาน

ที่สำคัญปีนี้ถือเป็นครั้งแรกที่จัดเป็น Pet-Friendly เปิดให้พาสัตว์เลี้ยงมาร่วมงานได้ แต่ต้องนำสัตว์เลี้ยงไว้ในรถเข็น พร้อมกับนำอินฟลูเอ็นเซอร์ชาวไทยและต่างชาติ เช่น จีน มาเลเซีย เวียดนาม มาไลฟ์จำหน่ายสินค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 1/66 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้รวม 9,515 ล้านบาท ถ้าเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2565 เติบโตขึ้น 12% ส่วนกำไรสุทธิ 529 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากสภาพเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น และมีผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงการปรับกลยุทธ์ของบริษัททั้งระยะสั้นและระยะยาวให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ต่างๆ