ท่ามกลางความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risk) ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามทางการค้า หรือสงครามระหว่างประเทศที่ปะทุขึ้นมาและยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ทำให้การกระจายพอร์ตลงทุน หรือ Asset Allocation มีความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Asset) เข้ามาเป็นส่วนผสมที่เพิ่มขึ้นสำหรับพอร์ตลงทุนของนักลงทุนทั่วโลก จากการศึกษาของ CAIA Association ระบุว่า สินทรัพย์ทางเลือกเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดั้งเดิมที่สามารถลงทุนได้เพิ่มขึ้นจาก 6% หรือประมาณ 4.8 ล้านล้านดอลลาร์ มาเป็น 12% หรือ 13.4 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2018 และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 18-24% ในปี 2025
ในมุมมองของ UOB สำหรับการจัดพอร์ตการลงทุนสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ สินทรัพย์ทางเลือกยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ต ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเฮดจ์ฟันด์ (Hedge Fund), สินทรัพย์นอกตลาด, น้ำมัน, โลหะพื้นฐาน อาทิ ทองแดง หรือโลหะมีค่า อาทิ ทองคำ
สำหรับทองคำ เป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ UOB ยังคงมุมมองเชิงบวกในช่วง 1 ปีถัดจากนี้ โดยเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสจะขยับขึ้นไปถึง 2,700 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในไตรมาส 2 ปี 2025 จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ประมาณ 2,330 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดย UOB ประเมินว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 2,500 ดอลลาร์ในสิ้นปีนี้ ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ดอลลาร์ในไตรมาสแรกของปี 2025
ปัจจัยบวกที่สำคัญต่อราคาทองคำมาจาก 2 ส่วน ได้แก่
- ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ดำเนินอยู่ต่อเนื่อง
- ความต้องการซื้อที่ยังแข็งแกร่งของธนาคารกลางในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) และประเทศในแถบเอเชีย
ธนาคารจีน ที่แม้ว่าจะชะลอการซื้อทองคำเพื่อเป็นทุนสำรอง แต่หากมองโดยภาพรวมแล้วจะเห็นว่า สัดส่วนทองคำในฐานะทุนสำรองของจีน ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ยังคงอยู่ที่เพียง 5% ของทุนสำรองทั้งหมด
นอกจากปัจจัยบวกทั้งสองแล้ว โอกาสการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่ UOB คาดว่าจะลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีนี้ ครั้งละ 25 bps ในเดือนกันยายนและธันวาคม น่าจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ประมาณ 2,440 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ Michael Unger รองประธานด้าน Investments and Planning ของ Coral Gables Trust มองว่า สถิติสูงสุดใหม่ของทองคำมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไป เนื่องจากความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ รวมทั้งท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ต่ออัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อ รวมถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ขณะที่ Patrick Yip ผู้อำนวยการอาวุโสด้านการพัฒนาธุรกิจของ APMEX ซึ่งบอกว่า นับตั้งแต่ปี 2000 เป็นต้นมา การลงทุนในทองคำให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 9.5% ต่อปี
รู้จักกองทุนน่าสนใจที่ UOB แนะนำ
ในปัจจุบันการลงทุนทองคำผ่านกองทุนรวมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวกและใช้เงินลงทุนไม่มาก แนะนำกองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท โกลด์ ฟันด์ – H (UOBSG – H) และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ (SCBGOLD) กองทุนมีความเสี่ยงระดับ 8
ทั้งสองกองทุนมีนโยบายลงทุนในกองทุนรวม ETF ทองคำต่างประเทศ ‘SPDR Gold Trust’ ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ World Gold Trust Services ซึ่งถือหุ้นโดย World Gold Council (WGC) องค์กรร่วมระหว่างบริษัทผู้ผลิตทองคำระดับโลก SPDR Gold Trust จะลงทุนเฉพาะในทองคำแท่งเพียงอย่างเดียว (100% Gold Bullion) ส่งผลให้ผลตอบแทนสุทธิหลังจากหักค่าบริหารจัดการกองทุนและค่าธรรมเนียมจะค่อนข้างใกล้เคียงกับราคาทองคำแท่งในตลาดลอนดอน LBMA Gold Price PM โดยทองคำแท่งทั้งหมดได้ถูกเก็บรักษาที่ HSBC Bank ที่สหรัฐอเมริกา
ปัจจุบันกองทุน SPDR Gold Trust จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 4 แห่ง ได้แก่ ตลาดหลักทรัพย์ประเทศญี่ปุ่น, ตลาดหลักทรัพย์ประเทศสิงคโปร์, ตลาดหลักทรัพย์ประเทศฮ่องกง และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
กองทุน UOBSG – H และ SCBGOLD จะลงทุนในหน่วยลงทุนที่ซื้อ-ขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับราคาทองคำในตลาดโลกหักกับค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายทั้งหมดของกองทุน
จุดต่างหลักของทั้งสองกองทุนคือ นโยบายด้านอัตราแลกเปลี่ยน โดยกองทุน UOBSG – H มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ ในขณะที่ SCBGOLD ไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน
การลงทุนทองคำถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือก สามารถใช้เพื่อการกระจายความเสี่ยง เนื่องจากทองคำมีลักษณะของสินทรัพย์ปลอดภัย โดยสัดส่วนการลงทุนที่แนะนำสำหรับการจัดพอร์ตคือ 5-10%
ทั้งนี้ นักลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมหรือติดต่อที่ปรึกษาทางการเงิน (Client Advisor) ของ UOB Privilege Banking ได้ที่ โทร. 0 2081 0999 หรือคลิก www.uob.co.th/privilegebanking
อ้างอิง:
- https://caia.org/next-decade
- https://www.cbsnews.com/news/what-will-gold-be-worth-by-the-end-of-2024-heres-what-some-experts-predict/