ยูเครนอ้าง รัสเซียใช้ ‘ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก’ โจมตีกรุงเคียฟครั้งแรก

ยูเครนอ้างว่า พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่ารัสเซียใช้ ‘ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก’ หรือ ‘ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง‘ ที่ทันสมัย โจมตีเป้าหมายในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน เป็นครั้งแรก หลังการสู้รบในสงครามรัสเซีย-ยูเครนดำเนินมานานเกือบ 2 ปีเต็ม

สถาบันวิจัยทางวิทยาศาสตร์ Kyiv Scientific Research Institute of Forensic Expertise ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลยูเครน เผยว่า เศษซากชิ้นส่วนของอาวุธที่ถูกค้นพบหลังเหตุโจมตีกรุงเคียฟเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียงเซอร์คอน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสกัดกั้นขีปนาวุธลูกดังกล่าว

ด้านกระทรวงยุติธรรมยูเครนระบุว่า เครื่องหมายที่ตรวจพบบนชิ้นส่วนต่างๆ ของอาวุธที่ตรวจพบบ่งชี้ไปที่การใช้ขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียงโดยกองทัพรัสเซีย เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน และบาดเจ็บอีก 38 คน จากการโจมตีในครั้งนี้ ซึ่งไม่มีผู้เสียชีวิตจากการถูกโจมตีโดยขีปนาวุธเซอร์คอนโดยตรง

อาวุธที่เร็วที่สุดในโลก?

ข้อมูลจากหน่วยงาน Missile Defense Advocacy Alliance (MDAA) ของสหรัฐอเมริการะบุว่า ความเร็วเหนือเสียงของขีปนาวุธเซอร์คอนทำให้อาวุธชนิดนี้ยากที่จะรับมือ แม้แต่ระบบป้องกันขีปนาวุธที่ดีที่สุดของตะวันตกอย่างระบบแพทริออตก็ตึงมือเช่นเดียวกัน

MDAA คาดการณ์ว่า “ความเร็วของขีปนาวุธเซอร์คอนจะอยู่ที่ราว 8 มัค หรือเกือบ 9,900 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหากข้อมูลนี้ถูกต้อง ขีปนาวุธเซอร์คอนก็จะเป็นอาวุธที่เร็วที่สุดในโลก ทำให้แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสกัดกั้นการโจมตีนี้”

นอกจากนี้ ขีปนาวุธเซอร์คอนยังมีคุณสมบัติพิเศษอีกประการหนึ่งที่เรียกว่า ‘พลาสมาคลาวด์’ (Plasma Cloud) ซึ่งในระหว่างที่ขีปนาวุธร่อนความเร็วเหนือเสียงนี้ถูกยิงออกไป พลาสมาคลาวด์จะช่วยดูดซับคลื่นความถี่วิทยุใดๆ และทำให้ขีปนาวุธลูกนี้ไม่ถูกตรวจจับด้วยระบบเรดาร์ขณะที่มุ่งหน้าไปโจมตีเป้าหมาย

หากกองทัพรัสเซียใช้ขีปนาวุธเซอร์คอนโจมตียูเครนจริง นั่นอาจสะท้อนว่า ระบบป้องกันการโจมตีทางอากาศของยูเครนกำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ และอาจส่งผลกระทบต่อสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนในภาพรวมที่กำลังจะครบรอบ 2 ปีเต็มในวันที่ 24 กุมภาพันธ์นี้

แฟ้มภาพ: Valentyn Ogirenko / File Photo / Reuters

อ้างอิง: